ในเวลานี้ เซียนโอสถถึงกับได้ตำราโอสถมาจากจักรพรรดิเสินหนงมา จึงส่งผลให้เกิดการคาดเดาของผู้คนจำนวนมาก คนในยุคหลังจึงมีอยู่จำนวนไม่น้อยที่เห็นว่าจักรพรรดิทั้งสามที่อยู่ในตำนานนั้นมีอยู่จริง หาใช่เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมา
ถ้าหากจักรพรรดิทั้งสามที่อยู่ในตำนานนั้นมีอยู่จริงล่ะก็ มันก็จะไปเกี่ยวพันถึงปัญหาข้อหนึ่ง นั่นก็คือเซียนที่อยู่ในตำนาน! สืบเนื่องจากการเกี่ยวพันถึงจักรพรรดิทั้งสามว่าคงอยู่จริงหรือไม่ จึงทำให้ผู้คนไม่อาจไม่หารือถึงปัญหาอีกข้อหนึ่ง ซึ่งก็คือเรื่องของเซียน
เนื่องจากตามตำนานนั้นเล่าว่า จักรพรรดทั้งสามไม่ตายไม่ดับสลายอยู่แล้ว พวกเขาได้กลายเป็นเซียนแท้จริง แต่ทว่า ทั่วโลกมีเซียนอยู่ที่ไหน? ถ้าหากมีเซียนบนโลกนี้จริง เช่นนั้นแล้วก็อาจเป็นไปได้ว่าจักรพรรดิทั้งสามก็คือเซียนที่อยู่ในตำนาน
แน่นอน สำหรับตำนานที่เซียนโอสถไปได้ตำราโอสถจากจักรพรรดิเสินหนงเช่นนี้ ผู้คนในยุคหลังจำนวนมากไม่คิดเช่นนั้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยเห็นว่ากรณีที่เซียนโอสถได้พบกับเรื่องราวประหลาดมหัศจรรย์เป็นเพียงการแต่งเรื่องขึ้นมาเองเท่านั้น เป็นเพียงยกฐานะของตนให้สูงขึ้นเท่านั้นเอง
ไม่ว่าเรื่องราวประหลาดมหัศจรรย์ที่เซียนโอสถไปพานพบมาขณะยังเยาว์วัยจะเป็นจริงหรือเท็จ แต่ยืนยันได้อย่างแน่นอนว่า ฝีมือการปรุงกลั่นยาเม็ดอายุวัฒนะของเขานั้นสุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียม ในครั้งนั้น ขณะที่เซียนโอสถยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ไปขอยาเม็ดอายุวัฒนะจากเขา อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงเลย แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษก็ไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไรที่ไปขอความช่วยเหลือจากเขา
แม้จะกล่าวว่าหุบเขาอมตะคือระบบการถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งหนึ่งในแดนลัทธิพรรษ ในครั้งนั้นด้านกำลังของเซียนโอสถก็เทียบไม่ได้กับปฐมบรรพบุรุษเป็นจำนวนมาก แต่ว่าเซียนโอสถกลับมีฐานะที่ไม่ธรรมในบรรดาเหล่าปฐมบรรพบุรุษทั้งหลาย เพียงแค่ในมือของเขามียาเม็ดอายุวัฒนะอยู่เม็ดเดียว ก็เพียงพอให้ปฐมบรรพบุรุษคนอื่นๆ ต้องขอความช่วยเหลือจากเขา
สืบเนื่องจากที่หุบเขาอมตะมียาเม็ดอายุวัฒนะที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองนี่เอง ทำให้หุบเขาอมตะมีชื่อเสียงโด่งดังในแดนลัทธิพรรษ แม้ว่ากำลังของหุบเขาอมตะจะห่างชั้นกับระบบการถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิง หรือพรรคหยางหมิง แต่ฐานะในของพวกเขาในแดนลัทธิพรรษไม่เห็นจะด้อยไปกว่าพวกเขาสักเท่าไร
เมื่อหลี่ชิเย่นำพาหวู่ปิงหนิงไปจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ก้าวเท้าเข้าไปยังระบบการถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ สถานที่แห่งแรกที่เขาต้องการไปเยือนหาใช่หุบเขาอมตะ แต่เป็นดินแดนต้นกำเนิดไฟ
ขณะที่หลี่ชิเย่พาหวู่ปิงหนิงเข้าไปในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของหุบเขาอมตะนั้น เขาหัวเราะและพูดกับหวู่ปิงหนิงว่า “ออกจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงแล้ว ก็เป็นเวลาที่เจ้าได้หลุดพ้นจากมือมารแล้ว เวลานี้เจ้ามีฐานะที่เป็นอิสระ ท้องทะเลกว้างไกล ท้องนภาสูง เจ้าสามารถกลับไปที่จูเซียนหวู่ถิงแล้ว”
“ทำไมจะต้องกลับไป!” หวู่ปิงหนิงค้อนควับไปทีหนึ่ง ส่งเสียงฮึขึ้นมา ท่าทางไม่สู้จะพอใจนัก ภายในใจของนางไม่ได้ต้องการกลับไปยังจูเซียงหวู่ถิงเป็นพิเศษ เหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่พูดเอาไว้อย่างนั้น การยินยอมเป็นตัวประกันของนางมีเหตุผลอยู่แล้ว
“ถ้าหากเจ้าไม่กลับไปข้าจะไม่ฝืนใจเจ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “แต่ว่า ส่งข่าวให้กับเหล่าบรรพบุรุษของเจ้าก็สมควรอยู่นะ เพื่อว่าภายหลังจูเซียงหวู่ถิงของพวกเจ้าจะได้ไม่มาหาว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงของข้าทรมานตัวประกัน”
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้หวู่ปิงหนิงถึงกับนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เนื่องจากนางรู้ดีอยู่แก่ใจว่า ถ้าหากให้บรรดาบรรพบุรุษของตนรู้ว่าตนเองได้ไปจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงแล้วล่ะก็ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเหล่าบรรพบุรุษจะต้องให้นางกลับไปอย่างแน่นอน แต่ในใจของนางกลับไม่อยากจะกลับไป
กล่าวสำหรับหวู่ปิงหนิงแล้ว ใช่ว่าจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขาทำไม่ดีต่อนาง ตรงกันข้าเหล่าบรรพบุรุษของจูเซียงหวู่ถิงโปรดปรานนางเป็นอย่างยิ่ง ฝากความหวังไว้กับนางสูงมาก แต่นางที่อยู่ในฐานะผู้สืบทอดของจูเซียงหวู่ถิง นางก็จะต้องแบกรับภารกิจเอาไว้บนบ่าของนาง
“สิ่งที่จะต้องเกิด อย่างไรเสียก็ต้องเกิด ไม่มีอะไรต้องไปหนี เผชิญกันมันตรงๆ สุดท้ายก็ต้องแก้ไขได้อยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ขยี้ผมของนางเบาๆ หัวเราะและกล่าวว่า “อีกอย่าง ในเมื่อเจ้าติดตามข้า ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็มีข้าคอยกันเอาไว้แล้วเจ้าจะไปกลัวอะไร? ข้าหลี่ชิเย่จะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องคนของข้าอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นล่ะก็ฆ่าไม่มีละเว้น!”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้หวู่ปิงหนิงรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ผู้ชายที่ดูธรรมดาคนนี้พลันมอบพลังที่ไม่มีสิ้นสุดให้กับนาง ให้ความพึ่งพิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับนาง เหมือนดั่งที่เขาได้พูดเอาไว้อย่างนั้น ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็มีเขาคอยแบกรับเอาไว้ ซึ่งเป็นการมอบความรู้สึกถึงความปลอดภัยให้กับนางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ข้ารู้แล้ว ข้าจะแจ้งให้เหล่าบรรพบุรุษได้ทราบแน่นอน” หลังจากที่หวู่ปิงหนิงนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่งจึงได้พยักหน้าเบาๆ ครั้นนางเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งนั้น แววตาของนางดูเด็ดเดี่ยวหนักแน่นขึ้นไม่น้อยทีเดียว
ในขณะนี้ จิตใจของหวู่ปิงหนิงดูจะเบิกบานขึ้นมากทีเดียว ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่ต้องไปสะทกสะท้าน ทุกอย่างช่างแจ่มชัดอะไรอย่างนั้น
“แต่ว่า ข้าก็จะไปเดินเล่นที่ดินแดนต้นกำเนิดไฟดูบ้าง” หลังจากที่หวู่ปิงหนิงได้ตัดสินใจแจ้งกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนแล้ว หวู่ปิงหนิงได้เหลือบมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง ท่าทางเหมือนเด็กผู้หญิงที่มีลักษณะของการออดอ้อนอยู่สามส่วน
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ ขณะมองดูท่าทางออดอ้อนอยู่สามส่วนของหวู่ปิงหนิง กล่าวไปตามอารมณ์ว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ไปกัน ไปเดินเล่นสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร” กล่าวพลางเดินนำหน้าไป
ดินแดนต้นกำเนิดไฟคือหนึ่งในพื้นที่สำคัญของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ด้านหลังของมันเกี่ยวพันถึงสิ่งต่างๆ มากมาย และความลับมากมาย กระทั่งมีผู้กล่าวว่า ในครั้งนั้นที่เซียนโอสถก่อตั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะขึ้นมานั้น เหตุผลสำคัญอยู่ที่ดินแดนต้นกำเนิดไฟ
เล่าลือกันว่า ดินแดนต้นกำเนิดไฟดำรงอยู่ของมันอยู่ก่อนแล้ว ในขณะที่เซียนโอสถก่อตั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะขึ้นมา ในเวลานั้นดินแดนต้นกำเนิดไฟล่องลอยอยู่ในช่องว่างที่ต่างกัน ต่อมาภายหลังเมื่อเซียนโอสถได้มีการสร้างอาณาจักร และก่อสร้างฐานเต๋าขึ้นมานั้น ได้จัดการลากเอาดินแดนต้นกำเนิดไฟจากช่องว่างที่ต่างกัน นำมาหลอมรวมเข้าไปในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...