ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2222

จำนวนนับไม่ถ้วนที่ส่งเสียงคำรามและโหมสาดซัดเข้ามาอย่างรุนแรง เหมือนดั่งเป็นสัตว์ยักษ์ในยุคดึกดำบรรพ์อย่างนั้น ทอดสายตามองออกไป เหมือนว่าที่ตรงนี้คือโลกแห่งแมกมา เป็นทะเลแมกมา แมกมาที่กว้างใหญ่ไพศาลส่งเสียงคำรามและไหลเชี่ยวกราก เหมือนเป็นคลื่นของสัตว์อย่างนั้น

ขณะที่แมกมาที่ไหลเชี่ยวกรากพลิกตัวขึ้นสูงนั้น เหมือนคลื่นยักษ์ที่พุ่งสาดซัดใส่ท้องฟ้า เมื่อแมกมาที่น่ากลัวโยนตัวขึ้นสูง ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่หลอมละลายทะลุช่องว่างดังขึ้นมา

เหมือนว่าที่ตรงนี้แหละที่เป็นโลกของพวกมัน เหมือนว่าที่ตรงนี้ที่เป็นสถานที่กำเนิดของแมกมาทั้งหมด เฉกเช่นแมกมาหล่านั้นที่อยู่ในดินแดนต้นกำเนิดไฟนั้น เป็นเพียงแมกมาจากที่ตรงนี้ที่หลอมละลายช่องว่างแล้วรั่วไหลออกไป

เวลานี้ ภายใต้การปกคลุมของเปลวไฟ แม้ว่าแมกมาบริเวณนี้ได้สาดเข้ามาดั่งห่าฝนใส่ร่างของหลี่ชิเย่ และหวู่ปิงหนิงก็ตาม ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกกันเอาไว้อยู่ด้านนอกไม่สามารถทำอันตรายพวกเขาได้แม้แต่น้อย เหมือนว่าเปลวไฟที่อยู่บนตัวของพวกเขากับแมกมาล้วนแล้วแต่กำเนิดจากแหล่งเดียวกัน จึงไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ก้าวเข้าไปยังโลกของแมกมาแล้ว ได้ร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาว่าไป พลันที่พูดขาดคำ ไม้บรรทัดวัดสวรรค์ในมือของเขาได้ลอยออกไป

ปุ ปุ ปุ…เสียงแฉลบดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นไม้บรรทัดวัดสวรรค์ที่คล้ายดั่งเป็นบูมเมอแรงที่สไลด์ไปตามพื้นผิวของแมกมา ทำให้เกิดเป็นลายน้ำระลอกคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่า เวลานี้ลายน้ำระลอกคลื่นทั้งหมดได้กลายเป็นระรอกคลื่นที่ขึ้นลงอยู่ท่ามกลางทะเลแมกมา

ตามติดด้วยเสียงดังตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอก มองเห็นแมกมาที่ขึ้นลงสลับ คลื่นแมกมาที่เหมือนดั่งเกลียวคลื่นที่โหมสาดซัด บนพื้นผิวทะเลแมกมาปรากฏเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ คล้ายดั่งมีสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารจะโผล่ขึ้นมาเหนือทะเลแมกมาอย่างนั้ย

ช่าาา ช่าาา ช่าาาเสียงเหมือนน้ำที่พุ่งลงดังขึ้น ในขณะนี้ปรากฏใต้กแมกมาถึงกับมีสะพานหินค่อยๆ ยกตัวขึ้นมา โดยที่สะพานหินแห่งนี้สร้างขึ้นมาจากหินสีแดง และสะพานทั้งสายเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน วิจิตรพิสดารเสมือนดั่งเทพหรือผีเป็นผู้สร้างขึ้น เหมือนไม่ใช่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ แต่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

หลังจากที่สะพานนี้ถูกยกขึ้นมาแล้ว มันเชื่อมต่อไปถึงจักรวาล เหมือนว่าลึกเข้าไปยังจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต และก็คล้ายดั่งเชื่อมไปยังโลกอีกโลกหนึ่ง

“ขึ้นไปเถอะ” ในเวลานี้ ไม้บรรทัดวัดสวรรค์ได้บินกลับมาเข้ามือของหลี่ชิเย่ตามเดิมแล้ว เขาจับมือที่ขาวนุ่มนวลและงดงามของหวู่ปิงหนิงก้าวขึ้นไปบนสะพานหินเพียงก้าวเดียว

หวู่ปิงหนิงอ่อนหวานและคล้อยตามยิ่งนัก ปล่อยให้หลี่ชิเย่จับมือของนางและกระโดดขึ้นไปบนสะพานหิน

ขณะที่มือใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่ดูจะหยาบกร้านอยู่บ้างกุมมือที่อ่อนนุ่มของนางเอาไว้นั้น ปรากฏความรู้สึกที่ปลอดภัยลุกลามไปทั่วร่างของนาง ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆ พริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ดูจะคู่ควรให้นางไปให้ความไว้ใจ และช่างคู่ควรให้นางไปพึ่งพาอาศัยอย่างนั้น

ต่อให้เวลานี้นางตกอยู่ในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลก ขอเพียงมีหลี่ชิเย่จับมือของนางเอาไว้ มันช่างรู้สึกปลอดภัยและคู่ควรให้นางไปพึ่งพา ต่อให้ฟ้าถล่มลงมานางก็ไม่ต้องไปกังวล

“เป็นอะไรไปรึ?” ขณะที่จิตของหวู่ปิงหนิงกำลังล่องลอยอยู่นั้น ปรากฏเสียงหยอกล้อและหัวเราะของหลี่ชิเย่ดังขึ้นที่ข้างหูว่า “หรือต้องการให้ข้าอุ้มเจ้าแล้วเดินไปกันเล่า?”

หวู่ปิงหนิงได้สติคืนกลับมาและได้ยินคำพูดที่หยอกล้อตนแล้ว พลันรู้สึกใบหน้าที่ร้อนผ่าวขึ้นมา โดยเฉพาะยามที่เงยหน้าแล้วมองเห็นดวงตาทั้งสองที่ลึกล้ำฉลาดเฉียบแหลมและมีสายตาที่ยาวไกลแล้ว เสมือนดั่งเป็นแรงดึงดูดที่รุนแรงมาก ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง

หวู่ปิงหนิงรีบหันหน้าไปทางอื่น ไม่กล้าจ้องมองหลี่ชิเย่ให้มากกว่านี้ ทั้งอับอายทั้งเคือง กระทืบเท้าใส่ปลายเท้าของหลี่ชิเย่อย่างแรงทีหนึ่งอย่างเคืองๆ และกล่าวว่า “ดีใจจนออกนอกหน้า อย่าฝันกลางวันอีกเลย คิดจะเอาเปรียบข้าฝันไปเถอะ!”

ในสภาพเช่นนี้ ทำให้หวู่ปิงหนิงทั้งอับอายทั้งเคือง แต่ว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงรู้สึกหวานชื่นอยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก การเกี้ยวพาราสีเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกเบิกบานใจ ทำให้นางช่างมีความสุขเหลือเกิน ทิ้งความกลัดกลุ้มทุกอย่างไว้ข้างหลัง

“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ ยังมีระยะทางอีกยาวไกลนะ” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และไม่สนใจว่าหวู่ปิงหนิงจะเห็นด้วยหรือไม่ จูงมือของนางก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

หวู่ปิงหนิงทั้งอายและหวานชื่น ปล่อยให้หลี่ชิเย่จูงมือไปตามความปรารถนา นางที่ปรกติมีท่าทีที่ข่มและเหนือผู้คน เวลานี้กลับเผยให้เห็นถึงท่าทีความเขินอายของเด็กผู้หญิงออกมา ใบหน้าแดงแดงระเรื่อ นางก้มหน้าเดินตามหลี่ชิเย่ไปยังอ่อนหวานและคล้อยตาม

หลี่ชิเย่พาหวู่ปิงหนิงขึ้นไปยังสะพานหินที่คดเคี้ยวมุ่งหน้าไปยังจักรวาลด้วยระยะทางที่ยาวไหล หลี่ชิเย่พาหวู่ปิงหนิงก้าวไปข้างหน้าซึ่งดูเหมือนเดินไม่เร็วนัก แต่ความจริงคือหนึ่งก้าวหนึ่งฟ้าดิน ก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่งก็คือมิติอีกมิติหนึ่ง

อีกทั้งการก้าวแต่ละก้าวออกไปล้วนแล้วแต่พิถีพิถันอย่างยิ่ง ทุกๆ ก้าวที่ลงเท้าไปล้วนแล้วแต่มีลวดลายเต๋าปรากฎขึ้นมา โดยลวดลายเต๋ากระเพื่อมขึ้นลงอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา คล้ายดั่งคลื่นน้ำที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างนั้น ยามที่ลวดลายเต๋าเช่นนี้กระเพื่อมขึ้นลงทำให้ช่องว่างทั้งห้องต้องกระเพื่อมขึ้นลงเป็นลูกคลื่นตาม

ดูไปแล้วเหมือนว่าหลี่ชิเย่พาหวู่ปิงหนิงก้าวเดินอยู่บนสะพานหิน แท้จริงแล้วสะพานหินเป็นเพียงรองรับร่างกายเท่านั้น ทุกย่างก้าวของพวกเขาล้วนแล้วแต่ก้าวเดินอยู่ในช่องว่าง แค่อาศัยลงเท้าบนสะพานหินเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล