ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2230

สรุปบท ตอนที่ 2230 เกสรเซียนป่วย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนที่ 2230 เกสรเซียนป่วย – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2230 เกสรเซียนป่วย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บ่อน้ำแร่บ่อนี้ถึงกับมีน้ำที่ทะลักขึ้นมาดังบุ๋มบุ๋ม โดยที่น้ำดังกล่าวมีความใสอย่างยิ่ง อีกทั้งมีไอน้ำที่แผ่ปกคลุมหนาทึบ มันเป็นบ่อน้ำร้อนบ่อหนึ่ง มองดูบ่อน้ำร้อนลักษณะเช่นนี้แล้ว ทำให้ผู้คนล้วนแล้วแต่บังเกิดอารมณ์อยากจะลงไปแช่สักครั้ง

แต่ทว่า บ่อน้ำร้อนนี้ไม่ได้มีไว้ให้ใครมาแช่มาอาบน้ำกัน ภายในบ่อน้ำร้อนกลับจะมีดอกไม้ประหลาดขึ้นอยู่ต้นหนึ่ง และไม่รู้ว่ามันคือดอกอะไร ดอกไม้ประหลาดนี้มีกลีบดอกที่เล็กมาก กลีบดอกที่มีขนาดเล็กเรียวยาวม้วนพับไว้ และรองรับเกสรดอกไม้ที่มีอยู่อย่างหนาแน่น

เมื่อเทียบกับกลีบดอกแล้ว เกสรของดอกไม้ดูจะขึ้นงอกงามเกินไปแล้ว มองเห็นเกสรแต่สายที่มีขนาดเล็กและยาว ลักษณะของมันล้วนแล้วแต่ห้อยลงไปเบื้องล่าง มองดูแล้วคล้ายเป็นน้ำตกขนาดเล็กอย่างนั้น

ด้วยดอกไม้ประหลาดต้นหนึ่งที่เจริญเติบโตอยู่ในบ่อน้ำร้อนที่ส่งเสียงบุ๋มบุ๋มนี้แหละ เวลามองจากระยะห่างไกล ยังเข้าใจว่าเป็นบ่อน้ำร้อนที่กำลังพวยพุ่งเป็นน้ำบ่อขึ้นมาอย่างนั้น โดยที่ดอกไม้ประหลาดต้นนี้ก็คล้ายดั่งเป็นน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมา แลดูอลังการยิ่งนัก

เมื่อมองดูให้ละเอียดอีกครั้งก็จะพบว่า ดูเหมือนดอกไม้ประหลาดต้นนี้คล้ายมีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรง เหมือนส่วนหัวของมันกึ่งห้อยลง พร้อมจะล้มลงได้ทุกเมื่อ

ด้านข้างของบึงที่แปลกประหลาดแห่งนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนก้อนหินริมบึงนั่น ผู้หญิงคนนี้ใช้มือทั้งสองข้างเท้าคาง มองดูดอกไม้ดอกนั้นที่อยู่กลางบึงเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้สวมชุดกระโปรงยาวสีเขียวครามทั้งชุด รูปโฉมแลดูเหมือนเป็นภาพมายาอย่างน่าอัศจรรย์ ยากจะคาดเดาได้ ดวงตาคู่นั้นของนางบ่มฟักคุณสมบัติกายที่มีความเฉลียวฉลาดงดงามเอาไว้ นางมีรูปโฉมที่สวยสดงดงามดั่งหลุดพ้นจากจารีตประเพณีทั่วไป แม้จะไม่ใช่นางฟ้าจากสวรรค์ แต่กลับให้ความรู้สึกถึงความคล่องแคล่วว่องไวกับผู้คน โดยเฉพาะหากนางก้าวเดินอยู่ท่ามกลางร่องน้ำใหญ่หรือหุบเขาลึกด้วยกระโปรงยาวที่ลากพื้น ทันใดนั้น ทำให้ผู้คนที่พบเห็นนางเสมือนหนึ่งได้มองเห็นเทพธิดาที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาอย่างนั้น

“ต้น ‘บุปผาเดือดเหมันต์อัคคี’ นับว่าพบเห็นได้ยาก” หลี่ชิเย่นั่งลงบนก้อนหินที่อยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนนั้นไปตามอารมณ์ และมองตามสายตาของผู้หญิงคนนั้นไปยังดอกไม้ประหลาดที่อยู่กลางบึงนั่น

“อืมม…” จิตใจของผู้หญิงคนนี้เหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยังคงไม่ได้มองดูหลี่ชิเย่สักแวบหนึ่ง ตอบรับตามอารมณ์ออกมาคำหนึ่งเท่านั้น

หลี่ชิเย่ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด มองดูดอกไม้ประหลาดต้นนั้น แล้วกล่าวว่า “ดอกไม้นี้ยากที่จะเจริญเติบโต มันกำเนิดท่ามกลางบ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมา เมือไหร่ที่มันไปจากบ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมาจะต้องตายอย่างแน่นอน ดังนั้น หากคิดจะเคลื่อนย้ายดอกไม้ต้นนี้ จะต้องอาศัยพลังอภินิหารย้ายเอาบ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมาไปด้วยกัน”

“ถูกต้อง ผู้อาวุโสของหุบเขาผู้หนึ่งเป็นผู้ย้ายบุปผาเดือดเหมันต์อัคคีต้นนี้มาปลูกที่นี้เมื่อหลายพันปีมาแล้ว” ผู้หญิงคนนี้พยักหน้าทีหนึ่ง ยังคงมีจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สายตาของนางยังคงไม่ได้ละจากต้นไม้ประหลาดต้นนั้นเลยแม้แต่น้อย

“มันไม่สบายแล้ว” หลี่ชิเย่พูดขึ้นมาตามอารมณ์

“ท่านรู้ด้วยหรือ…” หลังจากคำพูดตามอารมณ์ของหลี่ชิเย่ที่พูดออกมา ผู้หญิงคนนี้พลันหันหน้ากลับมาและจ้องมองดูหลี่ชิเย่ นางที่เดิมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวพลันมีนัยน์ตาทั้งสองที่เป็นประกายขึ้นมา

“แค่มองดูก็รู้แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยขึ้นมา

“ท่านเองก็มีความรู้ด้านวิชายาสมุนไพรรึ?” ผู้หญิงคนนี้รู้สึกสนใจขึ้นมาเมื่อได้ฟังคำจากหลี่ชิเย่แล้ว รีบเอ่ยถามขึ้นมา

หลี่ชิเย่ในเวลานี้ได้ละสายตากลับมา มองดูผู้หญิงคนนี้ ยิ้มกล่าวว่า “พอรู้อยู่บ้าง บางครั้งอ่านประเภทเรื่องแปลกและบทสนทนาจิปาถะมาบ้าง ดังนั้นจึงพอรู้ทุกอย่างอยู่บ้าง”

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่นับว่าถ่อมตนมากทีเดียว ในโลกนี้จะมีใครสักกี่คนที่รู้ดีด้านวิชายาสมุนไพรและการปรุงกลั่นยาเม็ดมากไปกว่าเขา? เขาเป็นผู้ที่ศึกษาทางด้านนี้มายุคแล้วยุคเล่า

“เจ้าชอบวิชายาสมุนไพรน่ะสิ” หลี่ชิเย่มองดูผู้หญิงคนนี้เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม

“ถูกต้อง” ผู้หญิงคนนี้กล่าวตอบ และพูดขึ้นด้วยความสนใจว่า “ข้าเรียนรู้ด้านวิชายาสมุนไพรมาแต่เด็ก และได้รับการมอบหมายจากผู้อาวุโสให้เป็นผู้ดูแลบุปผาเดือดเหมันต์อัคคีต้นนี้ มันเจริญงอกงามได้ดีตลอดมา แต่ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไรมันเกิดป่วยขึ้นมา ข้าได้ตรวจวินิจฉัยและรักษามัน แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ ไม่รู้ว่ามันป่วยด้วยโรคอะไร”

ครั้นผู้หญิงเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วดูเหมือนมีความรู้สึกที่ตนเองประสบความพ่ายแพ้ เนื่องจากวิชาความรู้ด้านยาสมุนไพรของนางนั้นลึกล้ำยิ่งนัก แต่กลับต้องถูกบุปผาเดือดเหมันต์อัคคีต้นนี้ทำให้ต้องกลัดกลุ้ม นางได้ค้นหาตำรามามากมาย ยังคงไม่สามารถค้นพบโรคที่เกี่ยวกับบุปผาเดือดเหมันต์อัคคีต้นนี้

“มันไม่ได้ป่วย” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้น

ผู้หญิงคนนี้ถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ กล่าวด้วยท่าทีไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่า “ไม่ใช่ป่วยแล้วคืออะไร ช่วงเวลาที่ผ่านมามันก็ป่วยเหี่ยวเฉาเช่นนี้ตลอดมา พลังชีวิตลดลงไปมาก เสมือนดั่งใกล้จะตายอย่างนั้น”

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวของมัน” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ใจของเจ้าโน้มเอียงไปทางด้านนั้นก่อนแต่ต้นจึงเข้าใจว่ามันป่วย ดังนั้น จึงไม่สามารถค้นพบปัญหาที่แท้จริง”

“ถ้าหากไม่ใช่ป่วย แล้วมันคืออะไร?” ผู้หญิงคนนี้รู้สึกไม่ค่อยยอมรับ ฝีมือด้านวิชายาสมุนไพรและสมุนไพรของนางยากจะหาผู้ใดเทียมได้ในหุบเขาอมตะ อย่างน้อยที่สุดในกลุ่มคนรุ่นใหม่จะเป็นเช่นนี้ กระทั่งกล่าวได้ว่าทั่งทั้งแดนลัทธิพรรษก็ยากจะหาผู้ใดเทียบเทียมกับนางได้

เวลานี้หลี่ชิเย่ปฏิเสธคำวินิจฉัยของตนในทันที ย่อมทำให้ภายในใจของนางต้องไม่ยอมรับอยู่บ้าง อุปนิสัยของผู้หญิงคนนี้อ่อนโยนและใจกว้าง หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ด้วยฐานะเช่นนี้ของนางหากไม่เสียงดังกับหลี่ชิเย่ ก็ต้องโต้เถียงกับหลี่ชิเย่แน่นอน

“ปัญหาอยู่ที่บ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมานั่น” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยขึ้นมา

“ปัญหาอยู่ที่บ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมา?” ผู้หญิงคนนี้ถึงกับตะลึง และกล่าวว่า “มัน มันเป็นไปได้อย่างไร บ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมาเป็นเช่นนี้ตลอดมาไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง มันจะมีปัญหาอะไรได้?”

“ตัวของบ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมาเองไม่ได้มีปัญหา” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “บ่อน้ำแร่น้ำแข็งแมกมามีแขกมาเยือนใหม่ ซึ่งก็คือเพื่อนบ้านใหม่ของบุปผาเดือดเหมันต์อัคคีต้นนี้”

“เป็นหนอนขี้เถ้าเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “หลังจากที่หนอนขี้เถ้าโตเต็มที่แล้วก็จะมีการวางไข่โดยฝังเอาไว้ในแมกมา ไข่ของพวกมันสามารถมีชีวิตอยู่ในแมกมาเป็นพันล้านปี อยู่มาวันหนึ่งมันฟักตัวออกมา เมื่อพวกมันฟักตัวออกมาก็จะดูดเอาพลังแก่นฟ้าดินอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งก็คือเหตุผลว่าเพราะอะไรบุปผาเดือดเหมันต์อัคคีจึงดูเหมือนป่วยอย่างนั้น”

“สิ่ง สิ่งนี้ข้าเคยได้ยิน” เมื่อได้ฟังคำของหลี่ชิเย่แล้ว ผู้หญิงคนนี้พลันนึกออกอย่างฉับพลัน เข้าใจได้ในทันที

ผู้หญิงคนนี้ก็เคยได้ยินชื่อของหนอนขี้เถ้ามาก่อนแต่ไม่เคยได้เห็นของจริง และนางนึกไม่ถึงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นที่ตรงนี้ มิน่าเล่า นางจึงไม่สามารถวินิจฉัยโรคให้กับบุปผาเดือดเหมันต์อัคคีตลอดมา

เมื่อได้สติคืนกลับมาแล้ว ผู้หญิงคนนี้ได้โค้งคำนับต่อหลี่ชิเย่อย่างงาม พูดขึ้นมาด้วยความดีใจว่า “ขอบคุณที่ชี้แนะ ทำให้น้องได้เรียนรู้มาบทหนึ่ง ได้รับประโยชน์มากมาย น้องชื่อฉินซาวเย่า วันหน้ายังต้องขอคำชี้แนะอีกมาก”

ฉินซาวเย่ามีท่าทีที่ดึงดูดผู้คน มีพลังศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งที่อธิบายไม่ถูก ยามที่นางแสดงคารวะนั้น ทั้งสุภาพเยือกเย็น แต่ก็แฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความซุกซนอยู่หลายส่วน ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

“หลี่ชิเย่“ หลี่ชิเย่ก็ยิ้มและแจ้งชื่อของตนออกมา

“ข้ารู้ว่าเป็นศิษย์พี่ใหญ่” ฉินซาวเย่าเม้มปากหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “ในหุบเขาร้อยบุปผามีเพียงศิษย์พี่ใหญ่คนหนึ่งที่เป็นผู้ชายอาศัยอยู่ที่นี้ ไม่นึกเลยว่าศิษย์พี่ใหญ่จะเป็นปรมาจารย์ด้านยาสมุนไพร มิน่าเล่าอาจารย์ถึงได้เลือกศิษย์พี่ใหญ่ ดูท่าวันหน้าน้องยังต้องขอคำชี้แนะจากศิษย์พี่ใหญ่ให้มากนะ”

ท่าทางเม้มปากหัวเราะเบาๆ ของฉินซาวเย่านั้น เรียกได้ว่าได้เผยความสง่างามที่อ่อนโยนดั่งสายน้ำออกมาจนสิ้น

“เล็กน้อยเท่านั้นเอง บอกได้แค่ว่ารู้แค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มไปตามอารมณ์

“ศิษย์พี่ใหญ่พูดเช่นนี้ น้องก็อับอายแย่เลย” ฉินซาวเย่าถึงกับหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “หากแม้ศิษย์พี่ใหญ่รู้แค่งูๆ ปลาๆ ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วน้องยังเรียนรู้ไม่ได้กระทั่งผิวเผินด้วยซ้ำ”

หลี่ชิเย่แค่หัวเราะทีหนึ่งแล้วไม่พูดอะไรมากความ

ฉินซาวเย่ามองไปที่หลี่ชิเย่และกล่าวว่า “ได้วันก่อนก็เคยได้ยินศิษย์พี่พูดถึงศิษย์พี่ใหญ่ เพียงแต่ได้ยินมาว่าศิษย์พี่ใหญ่กำลังกักตน น้องจึงไม่กล้าไปรบกวน วันนี้พลันได้พบเจอศิษย์พี่ใหญ่เป็นครั้งแรก ก็ช่วยคลายความกังวลในใจของน้องลงได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเลย”

………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล