หลังจากที่พวกของหลี่ชิเย่มาถึงเรือนโอสถแล้ว ศิษย์ของหุบเขาอมตะได้จัดการเรื่องการต้อนรับได้เป็นระเบียบเรียบร้อย ยามที่ศิษย์พี่ใหญ่อย่างฟ่านเมี่ยวเจินมารับหน้าที่ต่อเรียกได้ว่าทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ดูจากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว ถ้าหากว่ากันด้วยเรื่องของการต้อนรับอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องให้ฟ่านเมี่ยวเจินไปกังวลอยู่แล้ว ที่ทำให้พวกฟ่านเมี่ยวเจินต้องกังวลคือการดำเนินการเรื่องพิธีเซ่นไหว้และวิกฤตต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ด้วยเหตุนี้เอง ฟ่านเมี่ยวเจินจึงได้พามู่หย่าหลันและฉินซาวเย่ามาด้วยทั้งสองคน
เนื่องจากการเซ่นไหว้ในครั้งนี้อาจจะมีการต่อสู้อย่างดุเดือดเกิดขึ้น ไม่ว่าศึกสงครามใดๆ ก็ตามจะขาดหมอเทวดาอย่างมู่หย่าหลันไปไม่ได้ ขณะเดียวกัน เพื่อป้องกันมีผู้ที่ใช้วิธีการสกปรก จึงต้องมีฉินซาวเย่าที่ช่ำชองในเรื่องของวิชาโอสถมาคอยสอดส่อง
เรียกได้ว่าทั้งมู่หย่าหลันและฉินซาวเย่าล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ในขอบเขตของตน เมื่อฟ่านเมี่ยวเจินมีคนทั้งสองคอยให้การช่วยเหลือ เรียกได้ว่าเหมือนเสือติดปีก
สำหรับหลี่ชิเย่นั้นไม่ต้องพูดถึงให้มากความ กล่าวสำหรับฟ่านเมี่ยวเจินแล้ว หลี่ชิเย่เสมือนเป็นยาที่ทำให้จิตใจของนางสงบ ขอเพียงมีหลี่ชิเย่อยู่ สถานการณ์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ในกำมือ ต่อให้แคว้นว่านโซ่วคิดจะก่อเรื่องใหญ่อะไรขึ้นมา ฟ่านเมี่ยวเจินก็ไม่กังวล
หลังจากมาถึงเรือนโอสถแล้ว เรื่องราวทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่จำเป็นให้หลี่ชิเย่ต้องกังวล เรื่องจิปาถะทุกอย่างมีฟ่านเมี่ยวเจินจัดการจนเรียบร้อย ดังนั้น เมื่อหลี่ชิเย่มาถึงเรือนโอสถแล้วสามารถกักตนไม่ต้องออกมา บำเพ็ญเพียรได้อย่างสบายใจ ขอเพียงสามารถอาศัยคำพูดเพียงคำเดียวจัดการเรื่องราวในพิธีเซ่นไหว้ให้จบได้ก็พอแล้ว
หุบเขาอมตะได้จัดตั้งสำนักสาขาที่เป็นเอกเทศขึ้นที่เรือนโอสถ ได้สร้างขึ้นตามแนวของเทือกเขา หลังจากที่หลี่ชิเย่มาถึงเรือนโอสถแล้วก็ไม่ได้ออกจากที่พักหลายวัน ปิดห้องกักตนฝึกฝน โดยเข้าสู่ลักษณะของจิตที่ล่องลอยออกไป
หลังจากหลายวันผ่านไป หลี่ชิเย่พลันลืมตาทั้งสองขึ้น เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เฉยเมย และหลี่ชิเย่ “น่าสนใจ” กล่าวขาดคำก้าวเดินออกจากประตูไปทันที
หลี่ชิเย่รู้สึกสงบเงียบมากจนอยากจะทำอะไรบ้าง จึงออกจากที่ทำการสาขาแล้วท่องเอ้อระเหยไปในเรือนโอสถ ทุกอย่างช่างเป็นธรรมชาติ และดุจดั่งเดินเล่นในสวนหลังบ้านอะไรอย่างนั้น
เรือนโอสถนั้นล้อมรอบไปด้วยภูเขามากมาย มองเห็นต้นไม้แก่ที่ตระหง่านสูงเทียมฟ้า ต้นเถาวัลย์จำนวนมากพันกันดั่งภูเขา ต้นไม้ประหลาดขึ้นปกคลุมดุจป่าไม้ ทั่วทั้งเรือนโอสถเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา กลิ่นอายที่เก่าแก่โบราณเรียบง่ายสายหนึ่งโชยมาปะทะใบหน้า
ท่ามกลาง เรือนโอสถที่โอบล้อมรอบไปด้วยภูเขายังคงสามารถมองเห็นอิฐแดงกระเบื้องเขียว สิ่งปลูกสร้างห้องหออารามโบราณ นอกเหนือจากซากปรักหักพังที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเรือนโอสถตั้งแต่ครั้งเซียนโอสถแล้ว ก็มีการก่อสร้างเป็นวิหารและบ้านช่องจำนวนไม่น้อย
แม้จะกล่าวว่าเรือนโอสถนั้นเป็นของทุกคนเป็นอยู่ภายใต้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ไม่ว่าใครก็ตามในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะล้วนมีสิทธิ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าใครก็สามารถก่อตั้งสำนักภายในบริเวณเรือนโอสถได้
หากต้องการตั้งสำนักขึ้นในเรือนโอสถจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหุบเขาอมตะเสียก่อน หลังจากที่หุบเขาอมตะเห็นชอบแล้วก็จะสามารถก่อสร้างเป็นอาคารห้องหอหรือสำนักสาขา ณ ภูเขาตามที่มีการระบุเอาไว้
เนื่องเพราะเหตุนี้นี่เอง บนยอดเขา ใต้หน้าผาสูงชันล้วนแล้วแต่สามารถมองเห็นบ้านเรือนห้องหอได้บ้าง
แต่ทว่า สิ่งที่ดึงดูดความสนใจผู้คนได้มากที่สุดของเรือนโอสถยังคงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขา ณ ที่ตรงนั้นมองเห็นยอดเขาแต่ละลูกที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า โดยมีระดับสูงต่ำแตกต่างกันไป มีทั้งประเภทหน้าผาสูงชันปราดเปรื่อง มีประเภทที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม และประเภทธรรมดาไม่เป็นที่สะดุดตา…
ยอดเขาแต่ละลูกที่ลอยล่องอยู่ตรงนั้นมีบันไดหินเชื่อมถึงกัน สามารถข้ามจากยอดเขาลูกหนึ่งไปยังยอดเขาอีกลูกหนึ่งได้
สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความอลังการก็คือยอดเขาสูงสุดที่เชื่อมไปถึงจักรวาลลูกนั้น ไม่มีผู้ใดรู้ว่ายอดเขาลูกนี้สูงเท่าไร มันทะลุตรงไปยังจักรวาล เพียงแค่ระดับกลางเขาก็เริ่มจะซ่อนตัวมิดเข้าไปท่ามกลางเมฆหมอกแล้ว ทำให้ผู้คนยากจะมองเห็นได้ชัดเจน
กลุ่มภูเขาที่อลังการเช่นนี้ มีเถาวัลย์เก่าแก่ที่ทิ้งตัวห้อยลงมาจากบนท้องฟ้า ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีน้ำตกที่เทลงมาจากภูเขาสูงล้านล้านจ้างซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดนั่น น้ำตกดังกล่าวพุ่งลงมาปะทะยอดเขาหลายลูก แล้วจึงตกลงสู่พื้นดินด้านล่างโดยที่สุด กลายเป็นแม่น้ำ
หลี่ชิเย่มองดูทิวทัศน์ที่อลังการเช่นนี้อยู่ครู่ใหญ่ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เซียนโอสถนับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ นะเนี่ย เพื่อระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ นี้ เกรงว่าได้ทุ่มเทพลังกายใจของเขาไปชั่วชีวิต ทุกๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ยอดเยี่ยมทั้งสิ้น”
แม้จะกล่าวว่า หากว่ากันด้วยเรื่องกำลังของปฐมบรรพบุรุษแล้ว เซียนโอสถไม่สามารถเทียบได้กับผู้ดำรงอยู่ในฐานะผู้เฒ่ากำแหงได้ แต่ว่าธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะกลับไม่ได้ด้อยไปกว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ในแดนลัทธิพรรษเลย
สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าธาตุแท้ภายในด้านกำลังทหารของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมีความเข้มแข็งเพียงใด แต่เป็นการบ่งบอกว่าในขณะที่สร้างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะนั้น เรียกได้ว่าเซียนโอสถนั้นได้ใช้เวลาและกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ชั่วชีวิต ท่องไปทั่วแดนสามเซียน ค้นหาบรรดาพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์จำนวนมากมาย จากนั้นนำเอาพื้นที่เหล่านี้มาหลอมสร้างเอาไว้ภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ
หลี่ชิเย่ที่มองดูยอดเขาลูกที่สูงที่สุดซึ่งทะลุไปยังจักรวาลแล้ว ถึงกับเผยรอยยิ้มที่เฉยเมยและกล่าวว่า “พื้นที่ที่ยอดเยี่ยมและมีความอุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่งนะเนี่ย ระดับความล้ำค่าของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าดินแดนต้นกำเนิดไฟแม้แต่น้อย กล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะแล้ว โดยเฉพาะสำหรับหุบเขาอมตะแล้ว คุณค่าของมันไม่สามารถประเมินได้อยู่แล้ว”
ดินแดนต้นกำเนิดไฟก็เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และยอดเยี่ยมผืนหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ แต่ ดินแดนต้นกำเนิดไฟนั้นเหมาะกับเผ่าไฟและหรือหมอโอสถมากกว่า แต่พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และยอดเยี่ยมผืนนี้ที่อยู่ตรงหน้ากลับแตกต่างกัน
พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และยอดเยี่ยมที่อยู่ตรงหน้าผืนนี้ได้ซ่อนความลับเอาไว้มากมาย เพียงแต่ความลับเหล่านี้ชนรุ่นหลังยากที่จะศึกษาค้นคว้ามันได้
หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยมองดูยอดเขาที่สูงที่สุดบนท้องฟ้าลูกนั้น ก้าวไปข้างหน้าช้าๆ มุ่งหน้าไปยังบริเวณที่ลึกมากขึ้นไปอีกของเรือนโอสถ และมุ่งไปยังทิศทางที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดลูกนั้น
กลุ่มภูเขาที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้ามีความอลังการอย่างยิ่ง ทำให้ผู้คนบังเกิดความปรารถนาที่จะปีนขึ้นไปด้านบน โดยเฉพาะการได้ไปยืนอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดลูกนั้น มองเห็นเหล่าขุนเขาเหล่านั้นดูจะมีขนาดที่เล็กอย่างนั้น
แต่ทว่า คิดจะขึ้นไปบนยอดเขาที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยเฉพาะกับยอดเขาลูกที่สูงที่สุดนั่น ยากยิ่งกว่าขึ้นไปบนท้องฟ้าเสียอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...