ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกดูถูก เมื่อมองเห็นกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วนำเอาตัวประกันมาใช้ข่มขู่เช่นนี้ แต่บรรดาศิษย์ของสำนักเจ้าลัทธิต่างๆ ที่ยืนหยัดให้การสนับสนุนต่อหุบเขาอมตะล้วนแล้วแต่ทยอยกันมองไปที่หลี่ชิเย่ในเวลานี้
จะอย่างไรเสียเวลานี้หลี่ชิเย่คือตัวแทนของหุบเขาอมตะ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างความเป็นความตาย พวกเขาต่างต้องการให้หลี่ชิเย่ตัดสินใจให้พวกเขาได้
“ถ้าหากเจ้าไม่ยอมจำนนให้จับเสียแต่ตอนนี้ ข้าจะสั่งให้พวกเขาตัดศีรษะของคนทรยศทุกคนแล้วแขวนเอาไว้บนยอดเขา ให้ทายาทรุ่นหลังของพวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจนถึงจุดจบของคนทรยศ ซึ่งจะเป็นที่ด่าทอของผู้คนเป็นพันล้านปี!” กษัตริย์แคว้นว่านโซ่วร้องกล่าวเสียงดังออกมา
บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองไปที่หลี่ชิเย่เมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้ แม้จะกล่าวว่าการกระทำเช่นนี้ของกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง แต่ต้องยอมรับว่าได้ผลอย่างยิ่ง
ถ้าหากเวลานี้หลี่ชิเย่ไม่ยอมช่วยเหลือตัวประกันล่ะก็ แม้ว่าเขาไม่ใช่คนของพรรคมาร ในอนาคตเขาก็ต้องถูกคนเขาประณามถึงเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่ง
อีกทั้งบรรดาสำนักต่างๆ มีตัวประกันมากมายอยู่ในมือของแคว้นว่านโซ่ว ถ้าหากหลี่ชิเย่ไม่ยอมก้าวออกมาช่วยเหลือตัวประกันล่ะก็ ไม่แน่นักบรรดาแคว้นเจ้าลัทธิเหล่านี้อาจจะหันไปเข้าข้างศตรูไม่ให้การสนับสนุนต่อหุบเขาอมตะอีก
หากว่าเวลานี้หลี่ชิเย่ยอมสยบต่อแคว้นว่านโซ่วเพื่อช่วยเหลือตัวประกันล่ะก็ จะนำมาซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อหุบเขาอมตะ
ในเวลานี้ ไม่ว่าหลี่ชิเย่จะเลือกอย่างไรก็ตาม ก็จะอยู่ในสถานะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เวลานี้ ทุกคนถึงกับกลั้นลมหายใจเอาไว้ดูว่าหลี่ชิเย่จะเลือกอย่างไร มันไม่เพียงเกี่ยวพันถึงความเป็นความตายของตัวเขาเอง และเกี่ยวพันถึงผลได้ผลเสียของหุบเขาอมตะ
“ดูท่าข้าคงได้แต่ยอมจำนนแต่โดยดีแล้วสิ?” หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มกล่าว
“ถูกต้อง ไม่เพียงแต่เจ้า ยังมีพวกเขา!” กษัตริย์แคว้นว่านโซ่วชี้ไปที่กลุ่มของพวกฟ่านเมี่ยวเจิน กล่าวเสียงดังออกมาว่า “ถ้าหากในบรรดาพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งกล้าขัดขืน ข้าจะฆ่าไม่มีละเว้น สังหารสิ้นตัวประกันทั้งหมด!”
“ยอมแพ้ไม่ได้” มู่หย่าหลันร้องกล่าวเสียงดังกับหลี่ชิเย่ทันที นางเกรงว่าหลี่ชิเย่จะยอมแพ้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้
“ไม่ยอมแพ้ก็จะสังหารตัวประกันทั้งหมดก่อน จากนั้นค่อยสังหารพวกเจ้าทั้งหมด” หน้าตาของกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วดูน่าเกลียดนน่ากลัว กล่าวด้วยเสียงอันดังขึ้นมา
ในเวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ ในช่วงอันตรายเช่นนี้ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่จะมีวิธีใดที่พลิกสถานการณ์ได้
จุ๊ จุ๊ จุ๊…หลี่ชิเย่จ้องมองดูกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วแล้วถึงกับส่ายหน้า ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าอายุเท่าไรแล้วเนี่ย? สติปัญญาของเจ้ายังไม่ได้พัฒนาสมบูรณ์เต็มที่รึ? อายุปูนนี้แล้วยังมาเล่นวิธีข่มขู่ด้วยตัวประกัน สมองเจ้ามีปัญหาใช่หรือไม่? วิธีการที่ต่ำชั้นเช่นนี้ก็เอามาใช้ได้ แคว้นว่านโซ่วของพวกเจ้าล้วนแล้วแต่เป็นพวกสมองพิการหรืออย่างไร? วิธีการที่ดูไม่ได้เลยยังมีหน้าเอาออกมาใช้ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าแคว้นว่านโซ่วของพวกเจ้าช่างไร้ความสามารถอะไรอย่างนั้น สติปัญญาพัฒนาช้าอะไรอย่างนั้น!”
“เจ้า…” สีหน้าของกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วพลันถูกยั่วโมโหจนแดงก่ำ แดงจนออกคล้ำ เขาร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “ข้าจะนับหนึ่งถึงสิบ หากเจ้ายังไม่ยอมจำนนให้จับเสียแต่โดยดีล่ะก็ ข้าจะสั่งให้สังหารศิษย์ทรยศทั้งหมด”
“หนึ่ง สอง สาม…” ขาดคำ กษัตริย์แคว้นว่านโซ่วทำการนับทันที เหมือนไม่ต้องการให้หลี่ชิเย่มีโอกาสได้คิดไตร่ตรอง
บรรดาสำนักเจ้าลัทธิผู้มีผู้อาวุโส หรือผู้เยาว์ที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้ทยอยกันมองไปที่หลี่ชิเย่ ภายในใจของพวกเขาพลันตึงเครียดขึ้นมาในทันที เมื่อเห็นกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วทำการนับในทันที
“ไม่ต้องนับแล้ว” หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ ตัดบทคำพูดของกษัตริย์แคว้นว่านโซ่ว และกล่าวว่า “วิธีการที่ปัญญาอ่อนเช่นนี้ ข้าจะให้คำตอบเจ้าเดี๋ยวนี้”
“ฆ่า…” พลันหลี่ซี่เย่พูดจบ ก็ปรากฏเป็นประกายสีเขียวตลบอบอวลไปทั่วตัว เหมือนว่าตัวของเขามีเถาวัลย์สีเขียวงอกขึ้นมาอย่างนั้น ร่างกายของเขาแลดูเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวาไปทั้งร่าง
จี๊ด จี๊ด จึ๊ด…ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ปรากฎใต้พื้นดินบนยอดเขาแต่ละลูกมีรากไม้แก่แต่ละรากโผล่พรวดออกมา โดยที่รากแก่แต่ละรากเหล่านี้เหมือนดั่งแส้เหล็กที่มีหนามแหลมคม คล้ายงูพิษที่กำลังแลบลิ้น และเหมือนแมงป่องพิษที่ซ่อนตัวในความมืดแล้วต่อยด้วยหางพิษอย่างนั้น
รากแก่แต่ละรากที่คล้ายดั่งแส้เหล็กที่ทิ่มแทงออกไปโดยพลันนั้นมีความแหลมคมยิ่งนัก อีกทั้งยังรวดเร็วดั่งสายฟ้า มันสามารถแทงทะลุเสื้อเกราะทุกชนิดโดยพลัน สังหารยอดฝีมือได้ทุกคน
อ๊ากกก อ๊ากกก อ๊ากกกเสียงร้องน่าเวทนาแต่ละเสียงที่ดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง มองเห็นรากแก่แต่ละรากที่แทงทะลุคอหอยของทหารกองทัพมังกรเงินที่ควบคุมตัวประกันเหล่านั้น เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นลงสลับก้องไปทั้งเรือนโอสถ
เลือดสดๆ แต่ละหยดที่หยดลงมา ย้อมใบไม้สีเขียวจนกลายเป็นสีแดง ระหว่างสีแดงสลับกับสีเขียวดูจะละลานตายิ่ง และดูสวยสดงดงามยิ่งขื้น
รากแก่แต่ละรากที่ยกตัวขึ้นสูง แทงทะลุคอหอยของทหารกองทัพมังกรเงินแต่ละคน แล้วยกศพของพวกเขาชูไว้สูงเด่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...