ตอน ตอนที่ 2283 โต้กลับ จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2283 โต้กลับ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตูม ตูม ตูมฟ้าดินสั่นไหวโคลงแคลงดังตูมตามไม่ขาดสาย เวลานี้มองเห็นแสงสีเขียวดันจนประกายความมืดต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ แสงสีเขียวสามารถครองความได้เปรียบภายในระยะเวลาอันสั้น ได้บีบจนกลับไปถึงริมเส้นเขตของแคว้นว่านโซ่วแล้ว
“บูชาด้วยเลือด…” เมื่อว่านโซ่วเหล่าจวินเห็นสถานการณ์ไม่สู้จะดีนัก ไม่มีทางเลือกกัดฟันทุ่มลงไปสุดตัว
“บูชาด้วยเลือด…” ยี่สิบห้าบัณฑิตคำรามเสียงยาวออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของว่านโซ่วเหล่าจวิน พริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงตูมดังขึ้น เดิมทีประกายยิ่งใหญ่ที่พวยพุ่งออกมาจากแคว้นว่านโซ่วพลันแปรเปลี่ยนเป็นประกายเลือดในทันที ได้ยินเสียงปุ ปุ ปุดังขึ้น เลือดสดๆ พวยพุ่งขึ้นมา
อ๊ากก…เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องฟ้าดิน ทุกๆ ที่ของแคว้นว่านโซ่วล้วนแล้วแต่มีเสียงร้องที่น่าเวทนาดังขึ้น ภายในแคว้นว่านโซ่วมีศิษย์จำนวนครึ่งหนึ่งได้กลายเป็นหมอกเลือดไปในทันที เดิมทีบรรดาศิษย์เหล่านี้อาศัยพลังของตนไปขับเคลื่อนพลังยิ่งใหญ่ของแคว้น แต่พริบตาเดียวนั่นเอง พลังยิ่งใหญ่พลันริดรอนเอาชีวิตของพวกเขาไปด้วย ทำการแยกลมปราณ แยกเอาชีวิตของพวกเขาออกมา
ในพริบตาเดียวนั่นเอง มีศิษย์จำนวนประมาณครึ่งหนึ่งของแคว้นว่านโซ่วที่ถูกบูชายันต์เลือดไป ซึ่งมีจำนวนศิษย์มากถึงนับสิบล้านคน มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใดที่ศิษย์จำนวนมากมายถูกบูชาด้วยเลือดในฉับพลันทันที
ชีวิต ฐานเต๋า เลือดเนื้อของพวกเขาได้กลายเป็นพลังที่บริสุทธิ์ที่สุดในทันที และถูกนำเข้าไปอยู่ในวงล้อยักษ์หลุมดำนั่น
ตูม ตูม ตูมวงล้อยักษ์หลุมดำหมุนอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับการบูชาด้วยเลือดแล้ว ตัววงล้อยักษ์ทั้งล้อปรากฎประกายเลือดขึ้นมา เสมือนดั่งกลับกลายเป็นมารไปแล้วอย่างนั้น และมีพลังเพิ่มขึ้นมากมายในทันที
เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว วงล้อยักษ์หลุมดำได้ดูดกลืนเอาพลังจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก และลำแสงแห่งความมืดพลันขยายพองตัวขึ้นอีกเท่าตัว และอานุภาพได้เพิ่มขึ้นมากมายในฉับพลันทันที
ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงดังปะทะกันซึ่งหน้าดังสนั่นขึ้นมา ทำเอาฟ้าดินแหลกละเอียด มองเห็นลำแสงแห่งความมืดถึงกับต้านแสงสีเขียวเอาไว้ และสามารถหยุดถอยหลังได้ทันที โดยมีการยันของแสงสีเขียวเอาไว้อย่างนั้น
“โหดเกินไปแล้วกระมัง…” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองดูภาพนี้ด้วยความหวาดผวาจนขนลุกซู่ ทำการบูชาด้วยเลือดของศิษย์ในสแคว้นของตนไปครึ่งหนึ่ง ช่างเป็นวิธีการทีโหดเหี้ยมกระใด มันคือจำนวนนับสิบล้านเลยเชียวนะ มันคือการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ดีๆ นี่เอง
โอ้แม่เจ้า…บรรดาเจ้าสำนักของสำนักเจ้าลัทธิต่างๆ ที่หันไปพึ่งพิงแคว้นว่านโซ่วพลันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นในทันที
การที่พวกของว่านโซ่วเหล่าจวินสามารถลงมือต่อศิษย์ภายในแคว้นของตนเองได้ อนาคตหากพวกเขาได้ครองอำนาจจริงๆ ก็สามารถลงมือกับสำนักต่างๆ ได้เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นสำนักที่หันไปพึ่งพาพวกเขาแล้วก็ตาม พวกเขาก็ลงมือได้เช่นกัน ซึ่งเหี้ยมโหดมากเหลือเกิน
ตูม ตูม ตูม…ในขณะที่ผุ้คนจำนวนไม่น้อยถูกวิธีการอันเหี้ยมโหดทำเอาจนตกใจเซ่อไปเลยนั้นเอง ทันใดนั้นปรากฎเสาศักดิ์สิทธิ์แต่ละต้นที่ลงมาจากท้องฟ้า เสาศักดิ์สิทธิ์แต่ละค้นเหล่านี้พลันปักลงบริเวณที่เป็นชายแดนของแคว้นว่านโซ่ว แคว้นว่านโซ่วที่มีดินแดนขนาดใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้ เรียกได้ว่า บนท้องฟ้าได้ปรากฎเสาศักดิ์สิทธิ์ที่ปักลงมาเป็นสิบล้านต้นในชั่วพริบตาเลยทีเดียว พลันทำการตรึงชายแดนของแคว้นว่านโซ่วเอาไว้
“นั่นมันคืออะไร…” ทุกคนต่างรู้สึกนิ่งอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเห็นเสาศักดิ์สิทธิ์แต่ละต้นที่ปักตรึงชายแดนของแคว้นว่านโซ่วเอาไว้ทั้งหมดทันที ไม่รู้ว่าพวกเสาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มาจากไหนกัน
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น จังหวะที่เสาศักดิ์สิทธิ์แต่ละต้นที่ปักลงมาทำการพันธนาการพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะเอาไว้ ทำให้พลังที่ไหลไปยังวงล้อยักษ์หลุมดำถูกบั่นทอนลงเหลืออ่อนที่สุด
ตูม…ตูม…ตุม…เสียงแตกละเอียดดังขึ้นมาไม่ขาดสาย จากการที่เสาศักดิ์สิทธิ์แต่ละต้นที่โผล่ขึ้นมาจากฐานเต๋าของแคว้นว่านโซ่ว และทำการฉีกพลังยิ่งใหญ่ของแคว้นว่านโซ่วจนขาดกระจุย ภายในระยะเวลาอันสั้น ภายในเขตขามของแคว้นว่านโซ่วปรากฏพลังยิ่งใหญ่แต่ละแห่งที่แตกละเอียดไป
จากการที่พลังยิ่งใหญ่แตกละเอียดได้ยินเสียงดังปุ ปุ ปุเหมือนกระสุนด้าน พลังที่ไหลเข้าหาวงล้อยักษ์หลุมดำถูกตัดขาดจนอ่อนลงไปมากทีเดียว
อีกทั้งร่างเงาแต่ละร่างที่เหินฟ้ามุ่งไหน้าไปยังดินแดนของแคว้นว่านโซ่ว ทุกๆ ที่ที่พวกเขาผ่านไปก็จะมีเสาศักดิ์สิทธิ์ถูกเรียกหาให้ผุดขึ้นมา ฉีกขาดฐานเต๋าของแคว้นว่านโซ่ว
“เป็น เป็นนักพรตฉางเซินกับพวกบรรพบุรุษทั้งหลาย…” มีระดับผู้ยิ่งใหญ่ที่เปิดเนตรฟ้าขึ้นมองดู เห็นผู้ที่บุกโจมตีแคว้นว่านโซ่วเหล่านั้นถึงกับเป็นนักพรตฉางเซินกับเหล่าบรรพบุรุษของหุบเขาอมตะ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าพวกของนักพรตฉางเซินโผล่ขึ้นมากะทันหันมาจากไหนกัน เข้าโจมตีแคว้นว่านโซ่วจนตั้งตัวไม่ทันในเสี้ยววินาที
“จะอย่างไรเสีย แคว้นว่านโซ่วก็ตั้งอยู่บนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ หุบเขาอมตะที่เป็นผู้ปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะยังคงมีวิธีการที่จะควบคุมรากฐานเต๋าของแคว้นว่านโซ่วได้” ระดับบรรพบุรุษถึงกับพึมพำขึ้นมา เมื่อมองเห็นพวกของนักพรตฉางเซินได้เรียกเสาศักดิ์สิทธิ์แต่ละต้นออกมา ทำการฉีกฐานเต๋าของแคว้นว่านโซ่วจนขาดกระจุย
ทุกคนต่างเข้าใจได้เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว แม้จะกล่าวว่าฐานเต๋าของแคว้นว่านโซ่วจะผ่านการปลุกเสกจากราชันแท้จริง และปรัชญาเมธีของพวกเขามาครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งระดับการพึ่งพาฐานเต๋าที่มีต่อระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะน้อยลงมากแล้ว
แต่จะอย่างไรก็ตามมันยังคงตั้งอยู่บนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ จะอย่างไรเสียก็ไม่สามารถหนีรอดไปจากฐานรากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ภายใต้พลังของปฐมบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ หุบเขาอมตะยังคงมีโอกาสฉีกฐานเต๋าของแคว้นว่านโซ่วจนขาดกระจุยได้
ทันใดนั้นเอง แคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะจึงได้เข้าใจอย่างแท้จริงว่า เพราะอะไรตลอดเวลาที่ผ่านมาหุบเขาอมตะจึงทำตัวค่อมต่ำเช่นนี้ และปกครองโดยไม่ต้องตรากฎหมายไปปกครองประชาชน โดยไม่ไปก้าวก่ายการพัฒนาใดๆ ของแคว้นเจ้าลัทธิ ปล่อยแคว้นเจ้าลัทธิแต่ละแคว้นได้ขยายตัวอย่างอิสระ เหมือนว่าไม่มีกำลังพอที่จะไปต่อกรได้อย่างนั้น
จี๊ด…เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับเลือดสดๆ ที่ประเด็นขึ้นสูง หนึ่งธนูพลันยิงทะลุคอหอยของว่านโซ่วเหล่าจวิน ทำให้ว่านโซ่วเหล่าจวินล้มลงทันที ดวงตาคู่นั้นของเขาเบิกโพลง ไม่นึกไม่ฝันว่าตนเองจะถูกลอบโจมตีจนเสียชีวิต ตัวเขาเป็นถึงระดับอมตะนะเนี่ย ต้องมาถูกคนอื่นอาศัยธนูที่ลอบยิงมาจากข้างหลังสังหารไปได้
“เป็นเจ้า…” สุดท้าย ว่านโซ่วเหล่าจวินได้เอ่ยสองคำนี้ออกมา เขาจดจำร่างเงาสูงใหญ่ที่ในมือถือคันธนูอยู่ภายในประตูนั้นได้แล้ว แต่ว่า ทุกอย่างก็สายเกินไป
สุดท้าย ร่างของว่านโซ่วเหล่าจวินได้ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าสูง ได้ยินเสียงดังปังกระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง
ทุกอย่างกลับกลายเป็นความเงียบสงัด ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้นเอง หุบเขาอมตะได้ทำลายพลังยิ่งใหญ่ของแคว้นว่านโซ่ว สังหารว่านโซ่วเหล่าจวินได้ วิธีการเช่นนี้เรียกได้ว่าทำการได้เข้มงวดและรวดเร็ว เคร่งครัดยุติธรรมโดยไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด
“บัดซบ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเยาะและด่าว่าเมื่อเห็นภาพนี้แล้ว “ข้าทำงานหนักอยู่ตรงนี้ พวกเจ้ากลับปรากฎตัวออกมาแย่งความโดดเด่นของข้าไป ยังไม่รีบหนีไป ไม่อย่างนั้นล่ะก็ข้าจะถล่มพวกเจ้าให้ตาย”
ตูม…เสียงดังสนั่นขึ้นมา พริบตาเดียวนี้เองแสงสีเขียวดูจะทรงพลังยิ่งขึ้น เดิมทีวงล้อยักษ์หลุมดำก็ได้ถูกลดทอนกำลังลงไปแล้ว และแสงสีเขียวได้บีบจนความมืดมิดต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว เวลานี้เมื่อแสงสีเขียวทรงพลังยิ่งขึ้น ได้อาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งเข้าโจมตีต่อเขตพระราชฐานของแคว้นว่านโซ่ว
“ถอย…” ขณะที่พวกของนักพรตฉางเซินยังไม่ทันบุกไปถึงเขตพระราชวังของแคว้นว่านโซ่ว ครั้นมองเห็นแสงสีเขียวที่พุ่งมาด้วยท่าทีที่ทำลายฟ้าดินแล้ว นางถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ตัดสินใจได้เด็ดขาดมาก นำพาเหล่าบรรพบุรุษล่าถอยไปในทันที
“ไม่…” ยี่สิบห้าบัณฑิตถึงกับหวาดผวาเมื่อเห็นแสงสีเขียวที่พุ่งเข้ามา ยอดฝีมือและเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายที่อยู่ในพระราชวังต่างมีสีหน้าที่ขาวซีดและร้องเสียงแหลมดังขึ้นมา
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แสงสีเขียวอาศัยท่าทีที่ทำลายฟ้าดินพุ่งโจมตีเข้าไปในพระราชวังของแคว้นว่านโซ่ว ทันใด้นั้น ไม่เพียงวงล้อยักษ์หลุมดำถูกยิงถล่มจนแหลกละเอียด พราชาชวังของแคว้นว่านโซ่วก็ถูกยิงทำลายจนแหลกละเอียด บนพื้นดินเหลือไว้เพียงหลุมขนาดใหญ่ที่น่ากลัวมาก พราชวังของแคว้นว่านโซ่วถูกยิงทำลายจนกลายเป็นเถ้าธุลีไป หายสาบสูญไปโดยพลัน
เวลานี้ ภายในผืนแผ่นดินของแคว้นว่านโซ่ว พระราชวังหายไป เหลือไว้เพียงหลุมขนาดยักษ์ที่ไม่อาจลบเลือนไปได้ เวลานี้ต่อให้แคว้นว่านโซ่วยังคงอยู่ แต่ทว่า พระราชวังถูกทำลายถือว่าคงเหลือเพียงชื่อเท่านั้นเอง
…………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...