ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2300

สรุปบท ตอนที่ 2300 กุญแจทองคำ: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนที่ 2300 กุญแจทองคำ – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2300 กุญแจทองคำ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“พวกเราเข้าไปเถอะ” สุดท้ายหลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมย และก้าวขึ้นบันไดไป

หลินซิม่อได้สติกลับมา นางจึงรีบเร่งติดตามอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่ สำหรับตำหนักหมีเซียนนั้นนางไม่กล้าคิดมาก ยังไม่ต้องพูดไปถึงว่านางไม่มีความสามารถเช่นนั้น มีโชคชะตาเช่นนั้นหรือไม่ ลำพังแค่จำนวนเงินที่ตำหนักหมีเซียนต้องการก็เป็นสิ่งที่นางไม่สามารถรับได้อยู่แล้ว

ก้าวขึ้นขั้นบันไดเข้าไปยังตำหนักหลังที่หนึ่ง หลังจากเข้าไปแล้ว กลิ่นอายที่เรียบง่ายโบราณได้เข้ามาปะทะใบหน้า เสมือนหนึ่งเข้าไปในตำหนักโบราณที่ผ่านกาลเวลามาอย่างโชกโขนนับไม่ถ้วนอย่างนั้น

ความจริงแล้ว ตำหนักหมีเซียนไม่รู้ว่าได้ผ่านกาลเวลาอย่างโชกโชนมาไม่รู้เท่านไร นับตั้งแต่เริ่มมีการจดบันทึก เงินทองตกพื้นก็ดำรงอยู่แล้ว ขณะที่การดำรงอยู่ของเงินทองตกพื้น ตำหนักหมีเซียนก็คงอยู่คู่กันตลอดมา

ตำหนักหมีเซียนมีขนาดที่ใหญ่มาก สามารถจุคนได้หลายพันคน ภายในตำหนักหมีเซียนนั้นไม่ได้มีสิ่งประดับที่เกินความจำเป็น นอกจากเสาหินแต่ละต้นแล้ว ยังมีรูปปั้นแกะสลักที่ไม่รู้จักชื่อตั้งอยู่ส่วนหนึ่ง บนผนังทั้งสี่ด้านของตำหนักได้แกะสลักและวาดรูปภาพที่เก่าแก่โบราณจำนวนไม่น้อยเอาไว้ ภาพวาดเหล่านี้มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งสิงสาราสัตว์ และภาพวาดของคนที่เก่าแก่โบราณ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสุริยันจันทรา และทางช้างเผือก…

เมื่อเข้าไปยังตำหนักหมีเซียนแล้ว ก็จะพบว่าตัวเองไม่ได้เข้าไปยังตำหนักศักดิ์สิทธิ์อะไร แต่เหมือนเข้าไปยังวิหารศิลปะแห่งหนึ่งอย่างนั้น รูปปั้นแกะสลักตรงนี้ ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังล้วนแล้วแต่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายแห่งศิลปะทั้งสิ้น เหมือนว่ามีศิลปินยิ่งใหญ่จำนวนมากได้ฝากผลงานของตนเอาไว้ ทำให้ผู้คนดูชมด้วยจิตใจที่หวั่นไหว

ความจริงแล้ว ต่อให้คนบางคนที่ไม่ได้ต้องการมาเสี่ยงโชคก็อดที่จะมาชมตำหนักหมีเซียนสักครั้ง อย่างน้อยที่สุดเป็นการแสดงว่าตนเองก็เคยมาแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ต้องการชื่นชมรูปปั้นแกะสลักและภาพจิตรกรรมฝาผนังของตำหนักหมีเซียน

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้เข้ามาแล้วไม่ได้รีบเร่งต้องการไปเสี่ยงโชคใหญ่ ได้มองดูรูปปั้นแกะสลักทุกๆ ตัว และภาพจิตรกรรมฝาผนังทุกๆ ภาพอย่างละเอียดที่อยู่ในนี้

ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังดูอย่างออกรสออกชาตินั้น ขณะที่หลินซิม่อที่ติดตามอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่นั้นก็มองดูรูปปั้นแกะสลัก และภาพจิตรกรรมฝาผนังตามหลี่ชิเย่ไปด้วย แต่ทว่านางไม่สามารถดูออกว่าเป็นอะไร อย่างดีที่สุดก็แค่รู้สึกว่ามันแปลกพิเศษเท่านั้น ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังที่เป็นรูปของสิงสาราสัตว์นั้นนางไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่รู้ว่ามีชื่อว่าอะไร กระทั่งนางยังสงสัยว่าภาพวาดที่เป็นจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้เป็นภาพวาดที่อยู่ในจินตนาการหรือไม่

เปรียบเทียบกับหลินซิม่อที่ดูแล้วไม่เข้าใจ หลี่ชิเย่กลับมองดูอย่างออกรสออกชาติ ภาพจิตรกรรมฝาผนังและรูปปั้นแกะสลักบางรูปกระทั่งทำให้หลี่ชิเย่หยุดมองดูอยู่เป็นเวลานานสองนาน

ความจริงแล้ว ภาพจิตรกรรมฝาผนังและรูปปั้นแกะสลักที่อยู่ในนี้ล้วนแล้วแต่บันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์จำนวนมากที่ผู้คนไม่รู้ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความเก่าแก่โบราณเป็นอย่างยิ่ง เก่าแก่โบราณจนกระทั่งทำให้ผู้คนไม่อาจจินตนาการได้ และด้วยเหตุนี้เอง บรรดาผู้คนที่มายังตำหนักหมีเซียนและสามารถดูรู้ถึงรูปปั้นแกะสลักและภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ในหมื่นยุคที่ผ่านมา จึงมีหร็อมแหร็มเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

หลี่ชิเย่กลับเป็นผู้ที่ล่วงรู้ถึงประวัติความเป็นมานับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่ไม่เป็นที่รับรู้ของผู้คนอย่างแท้จริง และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้หลี่ชิเย่มองดูอย่างออกรสออกชาติ

ความจริงแล้ว ตำหนักหมีเซียนหาใช่เป็นเพียงสถานที่ที่สำหรับเสี่ยงโชคเท่านั้น และหาใช่เป็นเหมือนบ่อนการพนันในจินตนาการของทุกคน นับแต่อดีตที่เนิ่นนาน และนานมากๆ มาแล้ว บทบาทและเป้าหมายของตำหนักหมีเซียนไม่ได้มีไว้เพื่อการเสี่ยงโชค

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากก็เช่นเดียวกับหลินซิม่ออย่างนั้น ดูไม่รู้บรรดาภาพจิตรกรรมฝาผนังและรูปปั้นแกะสลักเหล่านี้อยู่แล้ว ผู้คนจำนวนมากก็แค่รู้สึกว่ามันแปลกเท่านั้น มองดูกันไปมากบ้างน้อยบ้าง อาจมีระดับบรรพบุรุษบางคนเท่านั้นที่ตั้งใจศึกษารูปปั้นแกะสลักและภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้อย่างละเอียดในบางครั้งบางคราวเท่านั้น

ระหว่างที่หลี่ชิเย่กำลังชื่นชมอยู่กับรูปปั้นแกะสลักและภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่นั้น ได้มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากเริ่มทำการเสี่ยงโชคกันแล้ว

ความจริงแล้ววิธีการเสี่ยงโชคนั้นง่ายมาก เพียงแต่เลือกภาพจิตรกรรมฝาผนังสักภาพหนึ่ง หรือรูปปั้นแกะสลักตัวหนึ่งที่อยู่ภายในตำหนักหมีเซียนตามอารมณ์ก็ได้แล้ว

ในเวลานี้เอง มีระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของรูปปั้นแกะสลักตัวหนึ่ง และโปรยเหรียญในมือลงไป ขณะที่เสียงของเหรียญที่ดังตึง ตึง ตึงขณะตกลงพื้นนั้น เหรียญเหล่านั้นก็ได้ละลายหายไปทั้งหมดทันที

ในเวลานี้เอง ได้ยินเสียงดังเอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยดขึ้นมา มองเห็นบริเวณหน้าอกของรูปปั้นแกะสลักตัวนี้ถึงกับเปิดออกมา ลักษณะคล้ายเป็นหีบสมบัติอย่างนั้น หลังจากที่หน้าอกของมันเปิดออกแล้ว ได้เปล่งประกายออกมาเป็นสายๆ มองเห็นข้างในจัดเรียงกุญแจทองคำเป็นแถวเป็นแนวอย่างเป็นระเบียบ กุญแจทองคำทุกดอกล้วนแล้วแต่มีการสลักลวดลายที่เก่าแก่โบราณเอาไว้ บรรดาลวดลายที่สลักเต็มพื้นที่ยุบยับไปหมดเสมือนเป็นบทคัมภีร์โบราณที่พันโดยรอบอยู่บนตัวของกุญแจทองคำเหล่านี้

ในเวลานี้เอง ระดับบรรพบุรุษผู้นี้ลังเลนิดหนึ่ง ยื่นฝ่ามือออกไป นาทีนี้บนฝ่ามือของเขาปรากฎหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมขึ้นมา ทุกๆ หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมทิ้งตัวลงมาเบาๆ เวลานี้หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมทุกๆ สายของเขาได้ตกลงไปอยู่ในกุญแจทองคำจำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบแปดดอกนั่น หลังจากที่หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมได้ตกลงไปในกุญแจทองคำแล้ว กุญแจทองคำก็ได้ปรากฏประกายที่แตกต่างขึ้นมา

ย่อมไม่ต้องสงสัย บรรพบุรุษผู้นี้กำลังวิวัฒนาการความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของกุญแจทองคำหนึ่งร้อยยี่สิบแปดดอกนั้นอยู่ เขาต้องการรู้ว่าเป็นกุญแจทองคำดอกไหนกันแน่ที่ได้ซ่อนความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของตำหนักหมีเซียนที่แท้จริงเอาไว้

“ดอกนี่แหละ” สุดท้าย บรรพบุรุษผู้นี้ได้เลือกเอากุญแจทองคำมาหนึ่งดอกจากจำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบแปดดอกนั่น และหยิบมันขึ้นมา

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากที่บรรพบุรุษผู้นี้หยิบเอากุญแจทองคำดอกนั้นออกมาและกำไว้ในมือนั้น ในเวลานี้เอง กุญแจทองคำดอกนั้นพลันกลับกลายเป็นผงทองคำทันที และไหลออกมาตามช่องว่างระหว่างนิ้วมือ จากนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“บ้าเอ๊ย เลือกผิดแล้ว” บรรพบุรุษผู้นี้ถึงกับสบถออกมาเมื่อมองเห็นกุญแจทองคำกลับกลายเป็นผงทองคำ และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“พี่หลิน ช่างเถอะ วันที่ท่านเล่นมาแล้วสามรอบ อีกทั้งยังสามารถหยิบเอาหีบสมบัติใบหนึ่งได้จากตำหนักหมีเซียนหลังที่สี่มาได้ แค่นี้ก็นับว่ารวยกันแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก?” ผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสที่อยู่ข้างๆ กล่าวเตือนว่า “ทุกครั้งที่เล่นอีกรอบ ราคาของมันก็จะเพิ่มขึ้นสิบเท่าของรอบที่แล้ว ขืนท่านยังคงเล่นต่อไประวังจะเสียจนหมดตัว”

“เอาล่ะ พวกเจ้าเกาะมือของข้าเอาไว้ พวกเราจะเข้าไปยังตำหนักหมีเซียนหลังที่สองกันแล้ว” ผู้อาวุโสผู้นี้ได้พูดกับบรรดาศิษย์ของตน

ครั้นบรรดาศิษย์ของเขาต่างเกาะมือขนาดใหญ่ของเขาแล้ว ได้ยินเสียงดังแว้งค์เสียงหนึ่ง รอยประทับกุญแจทองคำกลางฝ่ามือของเขาได้เปล่งประกายทองคำออกมา ประกายทองคำพลันครอบคลุมตัวของเขาและศิษย์ของเขาเอาไว้ ตามติดด้วยเสียงแว้งค์ดังขึ้นมา พวกเขาพลันหายตัวไป พวกเขาได้เข้าไปอยู่ในตำหนักหมีเซียนหลังที่สองแล้ว

แม้จะกล่าวว่าตำหนักหมีเซียนมีโอกาสหยิบสมบัติล้ำค่าได้เพียงครั้งเดียว แต่ทว่า ขอเพียงเลือกกุญแจถูกดอก กลับสามารถพาคนรอบกายของเจ้าเข้าไปได้ด้วย

“นับว่าโชคไม่เลวนัก ถึงกับเลือกกุญแจได้ถูกต้องในครั้งเดียว” มีผู้อดที่จะอิจฉาไม่ได้

“บ้าไปแล้ว ข้าเลือกมาแล้วสามครั้งก็เลือกไม่ถูก” ในเวลานี้เอง มีชายหนุ่มคนหนึ่งสบถขึ้นมา “นี่มันเกินไปแล้ว ข้าเสียงเงินไปตั้งมากมายไม่ได้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เล่นแล้ว” กล่าวพลางเดินจากไปด้วยความโกรธแค้น

ความจริงแล้ว เรื่องเช่นนี้พบเห็นกันจนชินชาไปแล้วในตำหนักหมีเซียน ผู้คนจำนวนมากที่มาถึงตำหนักหมีเซียนแล้วต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก สุดท้ายแล้ว ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้แม้แต่ตำหนักหมีเซียนหลังที่สอง ได้แต่จากไปด้วยมือเปล่า

การที่จะเข้าไปยังตำหนักหมีเซียนใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย ความจริงแล้วโชคนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้นเอง ในระดับที่สูงมากมักจะอาศัยศักยภาพเป็นตัวตัดสินโอกาสความเป็นไปได้อยู่เสมอๆ ขอเพียงเจ้ามีความแข็งแกร่งจนสามารถคำนวณความลี้ลับของกุญแจได้ทุกดอก เจ้าจึงจะรู้ว่ากุญแจดอกไหนกันแน่ที่เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าสู่ตำหนักหมีเซียนหลังต่อๆ ไป อีกทั้งยิ่งเป็นหลังท้ายๆ ล่ะก็ ความลึกลับที่อยู่ด้านในก็จะยิ่งคำนวณได้ยากมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ผู้ที่สามารถเข้าไปได้ถึงตำหนักหมีเซียนหลังที่สิบ ก็นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

ถึงแม้ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ว่ามันยากมาก และโอกาสนั้นก็น้อยมาก เนื่องจากสมบัติวิเศษของตำหนักหมีเซียนมันล้ำค่ามากเหลือเกิน ดังนั้น จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากอดที่จะเห็นคนข้างหน้าล้มลง คนข้างหลังหนุนเนื่องขึ้นไปอย่างไม่ขาดสายไม่ได้ ต่อให้ต้องเล่นเสียจนไม่เหลือเงินอีกเลยก็ไม่เสียดาย

“ตรงนี้แหละ” ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ได้ยืนอยู่ด้านหน้าของภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เป็นภาพพระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาจากทะเล หัวเราะทีหนึ่ง จากนั้นได้โปรยเงินลงไปครบตามจำนวน

ได้ยินเสียงแว้งค์เสียงหนึ่ง เงินที่โปรยลงไปหลอมละลาย และภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกเปิดออก ข้างในมีกุญแจทองคำจำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบแปดดอกวางอยู่

…………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล