สัตว์ที่มีขาข้างเดียว มีเขาเดี่ยว เวลาเคลื่อนที่มีเสียงฟ้าร้องตูมตาม มีสายฟ้าแลบล้อมรอบกาย มีสายเลือดที่สูงส่งที่สุด ยามที่มันปรากฏตัวปี้โซ่วทั้งหมดล้วนแล้วแต่ต้องหมอบกราบ เหมือนว่ามันดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดของบรรดาปี้โซ่วทั้งหมด
มองดูสัตว์ขาเดียวที่คล้ายวัวตัวนี้แล้ว มีระดับบรรพบุรุษที่รับรู้ได้ถึงสายเลือดสูงสุดที่ไหลรินในกายของมัน ถึงกับพึมพำออกมาว่า “นี่ก็คือวัวขุยหนิวที่อยู่ในตำนานรึ? สัตว์เทพที่อยู่ในตำนานรึ?”
“วัวขุยหนิว?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นี่คือสัตว์ในตำนาน เป็นสัตว์ในตำนานที่แท้จริง หาใช่ประเภทยกย่องตัวเองว่าเป็นสัตว์ในตำนาน แต่ทว่าสัตว์ในตำนานประเภทนี้คงมีอยู่เพียงในตำนานเท่านั้น เกรงว่าผู้ที่เคยพบเห็นจริงๆ คงมีอยู่ไม่กี่คน
แต่ทว่ายามที่ปี้โซ่วตัวนี้เดินผ่านมาอย่างช้าๆ มีระดับบรรพบุรุษที่ตาแหลมโดยสายตาของเขาได้ตกไปอยู่ที่ส่วนหางของปี้โซ่วตัวนี้ มันแตกต่างจากหางของวัวขุยหนิวในตำนาน หางของปี้โซ่วตัวนี้คล้ายหางของงูที่ม้วนตวัดไปมาด้วยความคล่องแคล่ว ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวกับผู้คน เหมือนว่าหางของมันนั่นแหละคือส่วนที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตและน่าสยองขวัญที่สุด
“เกรงว่าตัวนี้จะไม่ใช่วัวขุยหนิว” ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิพึมพำว่า “อาจเป็นไปได้ว่าคือลูกหลานของวัวขุยหนิวกับงูใหญ่ ทั้งบิดามารดาต่างก็เป็นสัตว์ในตำนาน มีสายเลือดที่สูงส่งที่สุดในครอบครอง”
หางของวัวขุยหนิวไม่ใช่แบบนี้ มีระดับบรรพบุรุษที่มีความรู้ประสบการณ์มากเมื่อเห็นลักษณะของหางแล้ว อันดับแรกก็นึกไปถึงงูใหญ่ที่อยู่ในตำนาน แต่ไม่เคยมีผู้ที่เคยพบเห็นสิ่งซึ่งดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวเช่นนี้ และด้วยเหตุนี้เอง จึงมีระดับบรรพบุรุษที่คาดเดาไปถึงว่าปี้โซ่วตัวนี้คือลูกหลานระหว่างวัวขุยหนิวกับงูใหญ่
แม้จะกล่าวว่าปี้โซ่วตัวนี้ไม่ใช่วัวขุยหนิวที่แท้จริง ย่อมไม่ต้องสงสัยว่ามันมีสายเลือดที่สูงส่งที่สุดไหลรินอยู่ภายในกาย และด้วยเหตุนี้เอง ปี้โซ่วทั้งหมดต่างทยอยกันก้มกราบกับพื้นเมื่อพบเห็น ด้วยกำลัง ด้วยฐานะของปี้โซ่วตัวนี้อยู่เหนือกว่าปี้โซ่วทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ แม้แต่วานรยักษ์และงูยักษ์ตัวนั้น็หมอบกราบอยู่กับพื้น
ปี้โซ่วตัวนี้มีขาข้างเดียว กลับก้าวเดินทีละก้าวๆ มันไม่ได้กระโดดไปข้างหน้าเหมือนอย่างที่ผู้คนจินตนาการเอาไว้ มันมีขาข้างเดียวนั่นแหละ แต่ถึงกับสามารถก้าวเดินไปได้อีกทั้งยังมีความมั่นคงยิ่ง ทุกย่างก้าวล้วนแล้วแต่มีความพิเศษอย่างยิ่ง
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนยากที่จะจินตนาการ ขาข้างเดียวมันควรจะก้าวเดินไปด้วยวิธีอย่างไร แต่ ปี้โซ่วตัวนี้ก้าวไปทีละก้าวๆ แบบนี้แหละ อีกทั้งหนึ่งก้าวพันลี้ ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
เพียงชั่วพริบตาเดียวปี้โซ่วตัวนี้ก็ได้มาถึงด้านนอกของเมืองปี้โซ่วเฉิงแล้ว บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน ล้วนแล้วแต่กลั้นลมหายใจเอาไว้ ไม่มีใครกล้าที่จะเอะอะโวยวาย ปี้โซ่วทั้งหมดล้วนแล้วแต่หมอบกราบอยู่กับพื้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าน่าสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจเหลือเกิน ยังจะมีใครที่กล้าไปแหย่ปี้โซ่วลักษณะเช่นนี้? ไม่แน่นักมันยกเท้าเหยียบลงมาก็เพียงพอที่จะสังหารสิ้นทุกๆ คน
พริบตาเดียวนั้นเอง ปี้โซ่วตัวนี้ก็ได้เดินไปถึงด้านหน้ายอดเขาที่หลี่ชิเย่อยู่ มองเห็นมันอ้าปากจัดการกลืนเอาเหรียญแท้จริง ชั้นปฐมบรรพบุรุษสิบกว่าเหรียญซึ่งวางอยู่บนก้อนหินเข้าไป
หลังจากที่ปี้โซ่วตัวนี้ได้กลืนกินเหรียญแท้จริงชั้นปฐมบรรพบุรุษแล้วก็หยุดอยู่ตรงนั้น ความหมายของมันชัดเจนยิ่งอยู่แล้ว
“ไปกันเถอะ” หลี่ชิเย่ดึงมือหลินซิม่อกัลป์หวู่ปิงหนิงพลันกระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนไหล่ของปี้โซ่วตัวนี้ทันที
ภาพเช่นนี้สร้างความอัดอั้นให้กับคุณชายพานหลง และเจี้ยนจุนอย่างยิ่ง เรียกว่าในใจอัดอั้นได้แค่ไหนก็แค่นั้น สรุปคือไม่สบายใจ
แรกทีเดียวพวกเขาต้องยอมอ่อนข้อให้กับหลี่ชิเย่ก็แล้วกันไป มาอวดความร่ำรวยก็ต้องแพ้ให้กับหลี่ชิเย่อีก เวลานี้เมื่อพวกของหลี่ชิเย่นั่งอยู่บนบ่าของปี้โซ่วตัวนี้นั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลันอยู่เหนือกว่าทุกๆ คนในทันที
เนื่องจากในขณะนี้ ปี้โซ่วที่ทุกคนนั่งมานั้นล้วนแล้วแต่ก้มลงกราบกับพื้น ภาพเช่นนี้เท่ากับว่าแม้แต่พวกเขาก็ก้มกราบให้กับหลี่ชิเย่อย่างนั้น
เมื่อนึกถึงว่าในเวลานี้ตัวเองต้องอยู่ต่ำกว่าหลี่ชิเย่ครึ่งศีรษะ มันทำให้คุณชายพานหลงและเจี้ยนจุนรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นพิเศษ แต่ว่าพวกเขาจนด้วยเกล้า ใครใช้ให้ปี้โซ่วที่หลี่ชิเย่นั่งมานั้นแข็งแกร่งมากกว่าปี้โซ่วของพวกเขา ในเวลานี้พวกเขาได้แต่นั่งอยู่บนปี้โซ่วแล้วแหงนหน้าขึ้นมองหลี่ชิเย่
สุดท้าย ภายใต้การจ้องมองของผู้คนปี้โซ่วตัวนี้ได้ทุกพวกของหลี่ชิเย่สามคนเข้าไปยังเมืองปี้โซ่วเฉิง ก่อนที่เมืองปี้โซ่วตัวนี้จะไปจาก เมืองปี้โซ่วทั้งหมดล้วนแล้วแต่หมอบอยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยังตัว และส่งผลให้ผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่รอให้พวกของหลี่ชิเย่ไปก่อน พวกเขาทำได้แค่จ้องมองส่งหลี่ชิเย่จนจากไป
ภาพเช่นนี้ก็เหมือนหนึ่งพวกคุณชายพานหลงน้อมส่งหลี่ชิเย่ด้วยความเคารพอย่างนั้น รสชาติเช่นนี้กล่าวสำหรับพวกของคุณชายพานหลงแล้วมันยอมรับยากเป็นพิเศษ มันคือการโค้งคำนับให้กับหลี่ชิเย่ชัดๆ สิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว มันคือความอัปยศอย่างหนึ่ง
เมื่อปี้โซ่วตัวนี้ได้ทุกพวกของหลี่ชิเย่เข้าไปยังเมืองปี้โซ่วเฉิงอย่างแท้จริงแล้ว บรรดาปี้โซ่วทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์จึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน คล้ายดั่งขุนนางที่น้อมส่งเสด็จฮ่องแต้อย่างนั้น
เมื่อปี้โซ่วทั้งหมดล้วนแล้วแต่ลุกขึ้นยืนแล้ว บรรดาผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างหายใจด้วยความโล่งอกไปที ความรู้สึกเมื่อครู่รู้สึกว่าอึดอัดมากเหลือเกิน ต่อให้เป็นระดับบรรพบุรุษก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมา
ตูม ตูม ตูมครั้นปี้โซ่วที่ทุกพวกหลี่ชิเย่ได้เข้าไปยังเมืองปี้โซ่วเฉิงแล้ว บรรดาปี้โซ่วทั้งหมดเริ่มออกวิ่งอย่างบ้าคลั่งอย่างนั้น ปี้โซ่วทั้งหมดดุจดั่งก่อเกิดเป็นคลื่นสัตว์ขึ้นมาอีกครั้ง วิ่งตะลุยเข้าไปยังเมืองปี้โซ่วเฉิงอย่างบ้าคลั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...