ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2333

ในเวลานี้เอง ได้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาถึงตรงนี้แล้ว มีระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจำนวนไม่น้อยที่มีความเข้าใจในเงินทองตกพื้น ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาลงจากปี้โซ่วแล้วก็เดินทางมาถึงเทือกเขาเทือกนี้ พวกเขาเองก็หวังจะเสี่ยงโชคดูว่าสามารถได้ครอบครองไข่ปี้โซ่วที่ยอดเยี่ยมที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองนี้ เนื่องจากมีคำเล่าลือกันว่าราชันแท้จริงเต้าเจี่ยก็ไปได้ไข่ปี้โซ่วมาจาเทือกเขาเทือกนี้นั่นเอง

ครั้นยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเข้ามายังเทือกเขาเทือกนี้แล้ว ไม่ช้าก็ได้พบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ เวลานี้ทำให้ยอดฝีมือของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจ และมียอดฝีมือของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจำนวนมากต่างมองดูภาพนี้จากระยะห่างไกล

“จะเปิดศึกกันแล้ว” ยอดฝีมือที่ยืนดูจากระยะห่างไกลถึงกับเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา เมื่อมองเห็นสุสานกระบี่ และระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิพานหลงล้วนแล้วแต่มีระดับบรรพบุรุษที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก

ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่า พวกคุณชายพานหลง และเจี้ยนจุนต้องไม่อาจกล้ำกลืนความอัปยศเช่นนี้ไว้ได้ จึงไปขนเอาผู้ช่วยมา ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแน่ไม่ช้าก็เร็ว เวลานี้สองระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิขนาดใหญ่ต่างมีระดับบรรพบุรุษอยู่ในเหตุการณ์แล้ว ย่อมบ่งบอกว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

เทพหมื่นแขนเองก็ไม่พอใจในคำพูดที่ยกตนข่มท่านของหวู่ปิงหนิง เขาถึงกับส่งเสียงฮึเบาๆ ออกมาอย่างไม่พอใจ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “แม่นางหวู่เจ้าล้ำเส้นแล้ว การกระทำเช่นนี้ดูจะยกตนข่มท่านเกินไป ออกจะเกินเลยไปแล้วกระมัง”

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม กล่าวได้ว่าเทพหมื่นแขนเรียกได้ว่ามีฐานะเสมอด้วยยายเฒ่าเทวะไล่วายุ ความสามารถไม่เห็นจะด้อยไปกว่ายายเฒ่าเทวะไล่วายุสักเท่าไร เวลานี้คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหวู่ปิงหนิงทำให้เขาไม่พอใจอย่างยิ่ง จะอย่างไรเสียเขาก็คือผู้อาวุโส

“เทพหมื่นแขน ข้าได้ให้เกียรติอย่างเต็มที่แล้ว” หวู่ปิงหนิงกล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ถ้าหากข้าทำเกินมากกว่านี้อีกล่ะก็ เกรงว่าคงได้เวลาที่เทพหมื่นแขนต้องชดใช้หนี้คืนแล้ว เป็นเทพหมื่นแขนที่ติดค้างข้า!”

แม้ว่าหวู่ปิงหนิงไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่นาทีนี้ได้เผยให้เห็นถึงจุดแข็งออกมาอย่างเต็มที่แล้ว

สีหน้าของเทพหมื่นแขนถึงกับเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เป็นความจริงที่เขาติดค้างหวู่ปิงหนิง ครั้งนั้นกองทัพพันธมิตรของพวกเขาบุกเข้าไปยังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง พวกเขาทุกคนต่างกลายเป็นนักโทษทั้งหมด ในขณะนั้น หากหลี่ชิเย่จะตัดศีรษะพวกเขาจริงๆ เป็นความจริงที่พวกเขาทั้งหมดต้องตายอยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง

ภายหลังภายใต้การเจรจาของฟู่หนิวหมิงจู่และตันหวัง หลี่ชิเย่จึงได้รามือ ขณะที่มีข้อแลกเปลี่ยนและหวู่ปิงหนิงได้กลายเป็นตัวประกันถูกควบคุมตัวอยู่ที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง

กล่าวได้ว่า ในแง่มุมหนึ่งเหล่าบรรพบุรุษเช่นพวกเขาได้ติดค้างหนี้บุญคุณหวู่ปิงหนิง พวกเขาที่เป็นถึงระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งกลับต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นตัวประกัน เรื่องเช่นนี้นับว่าไม่สู้จะมีเกียรตินัก

ดังนั้น เวลานี้หวู่ปิงหนิงยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้เทพหมื่นแขนก็ไม่อยากกล่าวให้มากความอีก จะอย่างไรเสียหากเรื่องนี้แพร่ออกไปก็จะกลายเป็นเรื่องที่ให้ผู้คนได้หัวเราะเยาะ

“เอาเถอะ” เทพหมื่นแขนเอ่ยขึ้นช้าๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่ทำให้แม่นางหวู่ต้องลำบากใจ แต่ทว่า เรื่องราวระหว่างหลี่ชิเย่หาใช่แม่นางหวู่สามารถขัดขวางได้อยู่แล้ว”

หวู่ปิงหนิงกล่าวเฉยเมยว่า “ข้าขอขอบคุณเทพหมื่นแขน”

เทพหมื่นแขนส่งเสียงฮึไม่พอใจออกมาแต่ก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงถอยหลังกลับไปข้างหลังช้าๆ ยังคงจ้องมองหลี่ชิเย่ อย่างน่าเกรงขาม แม้ว่าเขาจะให้เกียรติแก่หวู่ปิงหนิง แต่ ขอเพียงมีโอกาสเขายังคงลงมือต่อหลี่ชิเย่ เหมือนเดิม

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทันใดนั้นเสียงจี๊ดดังขึ้นเสียงหนึ่ง ประกายเยือกเย็นสายหนึ่งได้ลอบโจมตีต่อหลี่ชิเย่ตรงเข้าที่บริเวณลำคอของหลี่ชิเย่

ประกายเยือกเย็นนี้รวดเร็วอย่างยิ่ง หลินซิม่อไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน แต่ว่าหวู่ปิงหนิงนั้นปฏิกิริยารวดเร็วยิ่งกว่า ได้ยินเสียงดังตึงดังขึ้นเสียงหนึ่งสะเก็ดไฟแตกกระจาย ในมือของหวู่ปิงหนิงมีกระบี่อยู่ในมือและขวางประกายเยือกเย็นที่ลอบโจมตีเข้าหาลำคอของหลี่ชิเย่อย่างกะทันหัน

พริบตาเดียวนั่นเอง บนท้องฟ้าปรากฏร่างเงาสายหนึ่ง ผู้ที่ทำการลอบโจมตีก็คือเขานั่นเอง

องค์ชายดาบมาร…มีผู้ที่รู้สึกตกใจกับสิ่งนี้เมื่อเห็นร่างเงาที่ปรากฏขึ้น ยิ่งหลินซิม่อแล้วมีสีหน้าที่ขาวซีด ในพริบตาเดียวนางได้เอาตัวเข้าขวางหลี่ชิเย่เอาไว้

นางรู้อยู่แล้วว่าตนเองนั้นไม่สามารถเทียบได้กับผู้ดำรงอยู่ในฐานะองค์ชายดาบมารได้อยู่แล้ว หากจำเป็นนางจะเอาร่างกายของนางเข้าขวางมีดดาบของศัตรูเอาไว้

“เทพธิดาสงคราม ขอเพียงข้าต้องการฆ่าใครสักคน เกรงว่าเขาคงยากที่จะหนีรอดไปได้” เวลานี้องค์ชายดาบมารพูดน่าเกรงขามขึ้นมา

“อย่างนั้นรึ?” หวู่ปิงหนิงพูดเสียงเย็นชาออกมา พลันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

องค์ชายดาบมารชำนาญเรื่องการลอบโจมตีสังหาร วิชาหายตัวของเขานับว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง แต่ทว่า ทันใดนั้นเองเขาถึงกับมองไม่เห็นหวู่ปิงหนิง

จี๊ด…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั้นเองประกายเยือกเย็นพลันปรากฏ ประกายเยือกเย็นอาศัยความรวดเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งไปที่กลางหลังขององค์ชายดาบมารตรงๆ

เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเองก็หายตัวไปทันที แต่ทว่า พริบตาเดียวกับจังหวะที่เขาหายตัวนั้น พลันได้ยินเสียงดังปุขึ้นมาเสียงหนึ่ง กระบี่เยือกเย็นที่แทงทะลุผ่านอากาศที่ว่างเปล่า องค์ชายดาบมารถูกบีบให้ปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้ง

องค์ชายดาบมารรู้สึกเย็นวาบ และหายตัวไปอีกครั้ง แต่แล้วเขาเพิ่งหายตัวไปได้เสี้ยววินาที ปรากฎกระบี่ที่เยือกเย็นก็ได้แทงทะลุผ่านอากาศที่ว่างเปล่าอีกครั้ง และบีบให้องค์ชายดาบมารปรากฏตัวขึ้นมาอีก

“ฆ่า…” ในเวลานี้เอง องค์ชายดาบมารถูกบีบจนไม่สามารถหนีหายไปไหนได้ เขาคำรามเสียงดังขึ้นมา ดาบมารพลันปิดกั้นทั่วทั้งช่องว่างทั้งหมด

แต่ว่า หวู่ปิงหนิงกลับหายไปยังไร้ร่องรอย ในเสี้ยววินาทีนี้เอง เพียงมองเห็นประกายเยือกเย็นแวบหนึ่ง กระบี่เย็นยะเยือกพุ่งเป้าไปที่คอหอยขององค์ชายดาบมาร

องค์ชายดาบมารคำรามเสียงยาว ดาบมารที่ดั่งคลื่นยักษ์ได้ระดมกำลังเข้าสังหาร แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง กระบี่เยือกเย็นก็ได้หายไปทันที

จากการหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง สุดท้ายได้ยินเสียงดังจี๊ดเสียงหนึ่ง เลือดสดๆ พุ่งกระจาย หวู่ปิงหนิงที่ไปมาไร้ร่องรอย ทำให้องค์ชายดาบมารถูกแทงเข้าให้หนึ่งกระบี่พลันที่ไม่ทันระวังตัว แม้ว่าบาดแผลจากกระบี่ไม่ลึกและไม่ได้บาดเจ็บบริเวณที่เป็นจุดตาย แต่กลับสร้างผลกระทบอย่างแรงต่อองค์ชายดาบมาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล