คำบัญชาของฮ่องเต้ไท่ชิง ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติตามอย่างเด็ดขาดเต็มร้อย ไม่มีใครกล้าไม่ทำเต็มที่ กล่าวได้ว่านี่แหละคือการบ่งชี้ถึงอำนาจที่เด็ดขาดของฮ่องเต้ไท่ชิง
ดังนั้น หลังจากที่หลี่ชิเย่อาศัยอยู่ในตำหนักใหญ่แล้ว จึงได้รับการปฏิบัติดูแลสูงสุด เรียกได้ว่าเสื้อมายื่นมือออกไป อาหารมาอ้าปาก อยู่ดีกินดี อยากจะทำอะไรก็ทำได้ตามใจ เรียกว่ามีความรู้สึกเป็นสุขยิ่งที่ดั่งเรียกลมเรียกฝนได้
เรียกได้ว่าหลังคำบัญชาของฮ่องเต้ไท่ชิงแล้ว สิ่งที่หลี่ชิเย่ได้รับการปฏิบัติดูแลนั้นไม่สามารถจินตนาการได้เลย พูดคำพูดที่ไม่น่าฟังก็คือ แม้หลี่ชิเย่ต้องการกินดีมังกรนึ่งหรือผัดดีหงส์ล่ะก็ บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องคิดหาทางไปทำให้สำเร็จให้จงได้
คำบัญชาของฮ่องเต้ไท่ชิงในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ มีผลอย่างแน่นอนตั้งแต่ระดับบนลงไปถึงระดับล่าง เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเด็ดขาดเต็มร้อย ไม่มีใครกล้าทำแบบขอไปที และไม่มีใครกล้าทำเมินเฉยแม้แต่น้อย
ดังนั้น การอาศัยอยู่ที่ตำหนักของหลี่ชิเย่ก็คล้ายดั่งเป็นองค์รัชทายาทองค์หนึ่งอย่างนั้น เพลิดเพลินไปกับการปฏิบัติดูแลขั้นสูง เป็นการเสพสุขในระดับขององค์จักรพรรดิ นับว่าเป็นสิ่งที่หวังจะให้ได้มาของผู้คนไม่รู้จำนวนเท่าไร
แม้จะกล่าวว่า ผู้บำเพ็ญตนนั้นไม่ได้แสวงหาเรื่องการเสพสุข แต่ว่า เมื่อถึงระดับหนึ่งแล้วมันก็จะไม่ใช่เพียงแค่เสพสุขเท่านั้น แต่เป็นอำนาจ เป็นอำนาจที่สูงสุดอย่างหนึ่ง อำนาจที่สามารถทำทุกสิ่งได้ตามอำเภอใจ
ในฐานะแขกผู้มีเกียรติของฮ่องเต้ไท่ชิง ย่อมมีอำนาจเช่นนี้อย่างแน่นอน ทำให้ผู้คนรู้สึกคือใต้หนึ่งคนเหนือหมื่นคนอย่างนั้น เป็นอำนาจที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับแดนลัทธิราชัน!
หลี่ชิเย่อาศัยอยู่ภายในตำหนักก็ไม่มีเรื่องใดๆ เขานั่งทำสมาธิเข้าฌานอยู่ในห้อง ปล่อยจิตให้ล่องลอยไป
ในเวลานี้เอง ดอกที่สองของต้นโลกดึกดำบรรพ์ได้ติดผลแล้ว และผลสัจธรรมผลที่สองกำลังจะสุกงอม เมื่อผลสัจธรรมผลที่สองสุกงอมก็จะนำมาซึ่งการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่ใหม่ทั้งหมดให้กับหลี่ชิเย่ อีกทั้งผลสัจธรรมผลนี้จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับผลสัจธรรมผลแรก
ความจริงแล้ว ต้นโลกดึกดำบรรพ์ของหลี่ชิเย่นั้น ทุกครั้งที่ติดผลก็จะแตกต่างกัน ผลสัจธรรมแต่ละผลก็จะมีความยอดเยี่ยมพิสดารที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มีอภินิหารที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองของตน ดังนั้น ขณะที่ผลสัจธรรมแต่ละผลสุกงอมนั้น ก็คล้ายดั่งช่วยหลี่ชิเย่ในการบุกเบิกฟ้าดินใหม่ ดุจดั่งเปิดโลกแห่งสัจธรรมอีกโลกหนึ่งที่ใหม่ทั้งหมดขึ้นมาอย่างนั้น
ผลสัจธรรมทุกๆ ผลของหลี่ชิเย่ล้วนแล้วแต่มีอภินิหารที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม อีกทั้งอภินิหารเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนไม่สามารถเอื้อมถึงได้ชั่วชีวิต สิ่งนี้คือการเริ่มต้นของศตวรรษที่ใหม่ทั้งหมด มีความยอดเยี่ยมสูงสุดอยู่ในครอบครอง
หลี่ชิเย่อาศัยอยู่ภายในตำหนัก โดยระหว่างทางก็ไม่ได้ไปพบฮ่องแต้ไท่ชิงอีกเลย
ว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลก สำหรับหลี่ชิเย่ที่เป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ฮ่องแต้ไท่ชิงกลับไม่ได้ถามสถึงประวัติความเป็นมาของหลี่ชิเย่ และไม่ได้ไปสืบถึงเบื้องหลังของหลี่ชิเย่ พลันดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญต่อหลี่ชิเย่เป็นพิเศษเช่นนี้แหละ
หลี่ชิเย่เองก็ดูจะเอ้อระเหยและเป็นธรรมชาติยิ่งสำหรับท่าทีของฮ่องแต้ไท่ชิง ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยนิด ไม่ตระหนกวิตกอะไร เหมือนว่าสิ่งนี้เป็นเพียงเรื่องที่เล็กน้อยมากไม่คู่ควรจะกล่าวถึงอย่างนั้น
สภาพร่างกายของฮ่องแต้ไท่ชิงดูจะไม่ดีเอาเสียเลย เขานอนอยู่บนเตียงนอนโดยไม่ได้ก้าวออกไปด้านนอกแม้เพียงครึ่งก้าว กระทั่งลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหวเสียด้วยซ้ำ ขณะที่ผู้ที่อยู่ข้างกายของเขาตลอดเวลาก็คือซุนหลึ่งหยิ่ง
ท่าทีของหลี่ชิเย่ดูแปลกโดยแท้ เขารู้เรื่องนี้ดีแต่ทำเหมือนไม่เห็นกับสภาพของฮ่องแต้ไท่ชิง เหมือนมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ไม่รับรู้ไม่ถามถึงทั้งสิ้น เรื่องที่เกี่ยวกับฮ่องแต้ไท่ชิงเขาไม่เคยถามถึงแม้เพียงครึ่งประโยค
ฮ่องแต้ไท่ชิงต้องการกลับไปยังราชสำนัก ดังนั้น วันรุ่งขึ้นกองทัพหยินมี่จึงเร่งออกเดินทางต่อเพื่อกลับไปยังราชสำนัก
แม้ว่า การออกประพาสของฮ่องแต้ไท่ชิงจะมีกองทัพนับล้านติดตามไปด้วย และโดยสารมากับพระราชวังขนาดยักษ์ แต่ทว่า ความเร็วในการเดินทัพของกองทัพกลับรวดเร็วจนน่าตกใจ เรียกได้ว่าดั่งสายฟ้าแลบ แค่เพียงวันเดียวเท่านั้นก็สามารถก้าวข้ามพื้นที่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่กว่าครึ่งค่อน
การเดินทัพของกองทัพหยินมี่ที่มีไพร่พลนับล้านในเวลาเดียวกัน อานุภาพนั้นช่างยิ่งใหญ่เช่นใด ดังนั้น เมื่อกองทัพเร่งรุดเดินทางมุ่งหน้ากลับไปยังราชสำนักดั่งสายฟ้าแลบนั้น เสียงอึกทึกดั่งฟ้าร้องที่ดังขึ้นเป็นระลอกสร้างความแตกตื่นไปทั่วหล้า และสร้างความตระหนกให้กับผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน
ความจริงแล้ว ขอเพียงเป็นการเสด็จประพาสของฮ่องแต้ไท่ชิง ไม่ว่าจะมีกองทัพนับล้านร่วมเดินทางไปด้วย หรือว่าเสด็จโดยลำพังล้วนแล้วแต่สร้างความแตกตื่นไปทั่วหล้าอยู่แล้ว ล้วนแล้วแต่เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน และมีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าสังเกตทุกๆ ความเคลื่อนไหวของเขา จะอย่างไรเสีย ฮ่องแต้ไท่ชิงคือผู้ทรงอำนาจมากที่สุดของแดนลัทธิราชันในยุคปัจจุบัน มีอำนาจยิ่งใหญ่อยู่ในมือ สยบทุกคนทั่วหล้า! จะไม่ให้ผู้คนเฝ้าสังเกตได้อย่างไรเล่า
ยิ่งไปกว่านั้น หลายปีมานี้สภาพของฮ่องแต้ไท่ชิงไม่สู้จะดีนัก ขณะที่ราชวงศ์โต่วเซิ่นไม่ได้มีการแต่งตั้งรัชทายาทตลอดมา ทำให้ทุกความเคลื่อนไหวของฮ่องแต้ไท่ชิงเป็นที่จับตาดูยิ่งขึ้น ผู้คนจำนวนมากต่างเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงแม้เพียงน้อยนิดของฮ่องแต้ไท่ชิง
สมควรทราบว่า เวลานี้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่คือหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนลัทธิราชัน อีกทั้งราชวงศ์โต่วเซิ่นในเวลานี้เป็นผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมด
โดยเฉพาะในมือของฮ่องแต้ไท่ชิง อำนาจของเขาได้ก้าวไปถึงจุดสูงสุดแล้ว รวบรวมกำลังทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เอาไว้ในมือ
เมื่อไรที่ฮ่องแต้ไท่ชิงเสด็จสวรรคต ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าอำนาจดังกล่าวนี้เป็นที่คลั่งไคร้ เป็นที่กระหายอยากของผู้คนจำนวนมากเท่าไร
ขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นใครที่ได้สืบทอดอำนาจต่อจากฮ่องแต้ไท่ชิง ไม่เพียงมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาของราชวงศ์โต่วเซิ่น เปลี่ยนแปลงชะตาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมด กระทั่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถานการณ์ทั้งหมดของแดนลัทธิราชัน
เมื่อไรที่มีการถ่ายโอนอำนาจก็จะทำให้สถานการณ์ในแดนลัทธิราชันเกิดการเคลื่อนไหว และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้แดนลัทธิราชันทั้งหมดกระเพื่อมไม่สงบ
ดังนั้น ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ต่างนิ่งเงียบเมื่อมองเห็นการเสด็จกลับมาของฮ่องแต้ไท่ชิง คู่สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนที่เฝ้ามอง ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องการรู้ถึงสภาพของฮ่องแต้ไท่ชิง
ท่ามกลางระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ยังไม่ต้องพูดถึงพรรคขนาดใหญ่และสำนักเก่าแก่ที่มีอยู่นับพันนับหมื่น แม้แต่หอหลินไห่เก๋อ ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ วัดจิ้งเหรียนกวาน แคว้นว่านเจิ้น สำนักเสินสิงเหมินที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ต่างไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ แต่ละคู่สายตาต่างให้ความสนใจต่อการเดินทัพอย่างรวดเร็วของกองทัพหยินมี่
เมื่อกองทัพหยินมี่เดินทัพผ่านมา ไม่ว่าผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นพรรคขนาดใหญ่หรือตระกูลขุนนางโบราณใดๆ ก็จะหลีกทางออกห่าง อีกทั้งขณะที่กองทัพดังกล่าวยังมาไม่ถึง พรรคขนาดใหญ่หรือตระกูลขุนนางโบราณที่ตั้งอยู่ด้านหน้าล้วนแล้วแต่ทยอยกันจัดการเปิดเส้นทาง ไม่ว่าผู้ใด ไม่ว่าการเดินทางใดๆ ก็ต้องหลีกทางให้กับกองทัพหยินมี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...