เมืองกัวชางเฉินคึกคักไม่ธรรมดาเลยเทีเดียว โดยมีประชากรอาศัยอยู่นับหลายล้านคน กระทั่งอาจจะมากกว่า
แม้ว่ากัวชางเฉินจะตั้งอยู่บนภูเขา แต่ทว่า เขากัวชางซานมีขนาดใหญ่โตมากเหลือเกิน ดังนั้น การที่จะมีเมืองมากกว่านี้ตั้งอยู่ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
เมืองกัวชางเฉินสูงเทียมฟ้า เสมือนหนึ่งมุ่งตรงไปยังส่วนที่ไกลที่สุดของจักรวาล ดังนั้น กล่าวสำหรับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้ว การที่จะขึ้นไปยังเมืองกัวชางเฉินใช่เป็นเรื่องที่ง่ายดาย
เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า มนุษย์ปุถุชนธรรมดาบางคนที่เกิดในเมืองกัวชางเฉิน ชั่วชีวิตก็ไม่เคยได้ลงไปจากเขากัวชางซานเลย ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่ไม่สามารถขึ้นไปยังยอดเขาสูงสุดของเขากัวชางซานตลอดชีวิตเช่นกัน
ที่เขากัวชางซานมีบันไดที่สร้างวนรอบเขาขึ้นไป และมีสะพานหินที่เชื่อมไปยังที่ต่างๆ ดังนั้น การมาอยู่ที่เขากัวชางซานทั้งสามารถอาศัยการก้าวเดินทีละก้าวๆ ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ แต่หากเป็นผู้บำเพ็ญตน โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตนประเภทแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งก็สามารถเหาะขึ้นไป ซึ่งจะทำให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อเป็นเช่นนี้
หลี่ชิเย่ก้าวเดินอยู่ภายในเมือง มองดูตัวเมืองที่เออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คน ก้าวเดินอย่างสบาย และพอใจยิ่งนัก อีกทั้งท่าทางของเขานั้นเป็นการพาลและใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างสิ้นเชิง ท่าเดินของเขาคล้ายดั่งปูที่เดินขวางไปอย่างนั้น
ในเวลานี้เอง สายตาของหลี่ชิเย่ตกไปอยู่บนตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้สวมชุดทะมัดทะแมง พลันเผยให้เห็นถึงรูปร่างที่ร้อนแรงยิ่งออกมา
ผู้หญิงคนนี้มีรูปร่างทรวดทรงที่เรียกว่าหุ่นละเบิดยิ่ง อกตั้งชูชันอวบอั๋นยิ่งนัก ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเต็มไม้เต็มมือ เอวบางที่ทั้งเล็กและนุ่มนวลดั่งงูน้ำที่เลื้อยช้าๆ เรียกได้ว่ามีหลากหลายรูปแบบแลดูไม่รู้จักเบื่อ
ในขณะเดียวกัน ภายใต้การเสริมส่งด้วยขาที่เรียวยาว และก้นงอนที่อวบอิ่มถูกเผยออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการกุมเอาไว้ในมือย่ำยีให้เต็มที่ กระทั่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนถูกฟาดด้วยเส้อย่างนั้น
ชุดทะมัดทะแมงที่ผู้หญิงคนนี้สวมใส่มาจากช่างฝีมือที่โด่งดังของเมืองกัวชางเฉิน อีกทั้งด้านหน้าบริเวณอกได้กลัดเครื่องหมายของตระกูลเอาไว้ ทำให้ผู้พบเห็นรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้หากไม่ใช่มีฐานะที่สูงส่งก็คือมีฐานะที่ร่ำรวย
อีกทั้งข้างกายผู้หญิงคนนี้มีชายหนุ่มหลายคนห้อมหน้าห้อมหลัง ประดุจดาวล้อมเดือนอย่างนั้น เมื่อมองดูให้ละเอียดอีกครั้ง ก็สามารถมองออกว่าพวกเขาต่างฝึกยุทธมาไม่เบาทีเดียว น่าจะมาจากสำนักที่มีชื่อเสียง
หลี่ชิเย่อดที่จะเผยรอยยิ้มขึ้นมา เดินเข้าไปหา เสียงเพียะเสียงหนึ่งดังขึ้น หนึ่งฝ่ามือได้ตบเข้าให้ที่ก้นงอนของผู้หญิงคนนี้อย่างแรง และคว้าเอาเนื้อที่เต่งตึงของก้นงอนมาขย้ำ
ว้ายยย…เมื่อถูกผู้ชายแปลกหน้าลอบจู่โจมสัมผัสบีบเค้นก้นงามของนางเข้า ทำให้ผู้หญิงที่มีรู้ร่างหุ่นละเบิดพลันตกใจจนกระโดดตัวลอยไปอยู่อีกด้านหนึ่ง ทำเอานางตกใจจนหน้าถอดสี หันขวับมาจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่
คนอื่นๆ ที่อยู่บนถนนสายนี้ต่างตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เนื่องจากที่นี่คือเมืองกัวชางเฉิน ใครหาญกล้ามาก่อกรรมทำเข็ญ
ส่วนจางเจี๋ยตี้ที่ติดตามอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่นั้น มองเห็นหลี่ชิเย่ทำการลวนลามสาวงามกลางถนน อดที่จะยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้ โชคดีที่เขาได้ปิดบังใบหน้าเอาไว้อย่างมิดชิด มิฉะนั้นล่ะก็คงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหน
จะอย่างไรเสียกล่าวสำหรับจางเจี๋ยตี้แล้ว ถ้าหากให้เขาเข่นฆ่าไปทั่วหล้าเขาไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย แต่ให้เขาเคียงข้างหลี่ชิเย่นักเลงหัวไม้ที่ลวนลามผู้หญิงกลางถนน เป็นสุนัขรับใช้ให้กับนักเลงหัวไม้คนหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกกดดันสูงมาก
โดยที่ผู้หญิงคนนี้มีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เมื่อถูกผู้ชายคนหนึ่งลวนลามกลางถนน นางจึงบันดาลโทสะพุ่งปี๊ดขึ้นมา
ชายหนุ่มหลายคนที่มากับผู้หญิงคนนี้ก็หันขวับมาทันที ดวงตาทั้งสองเผยประกายน่าเกรงขามออกมา พวกเขากระทั่งยอมเป็นผู้คุ้มครองมาแล้ว เวลานี้ถึงกับมีผู้ที่มีตาแต่ไร้แววส่งมาถึงที่ เท่ากับเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมือเต็มที่
“เฮ้ น้องหนู มาสนุกกับคุณชายอย่างข้าสักหน่อยเป็นไร?” เวลานี้หลี่ชิเย่ยืนสองมือกอดอก ท่าทางเหมือนเป็นบุคคลอันดับหนึ่งใต้หล้าอย่างนั้น ตาทั้งสองมองขึ้นฟ้า ท่าทางเหมือนนักเลงหัวที่ชอบชุดคร่าหญิงสาวชาวบ้านดีๆ นี่เอง
จางเจี๋ยตี้ที่ปิดบังใบหน้าอดที่จะยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าที่หลี่ชิเย่แสดงออกมาเป็นธาตุแท้ หรือเพียงแค่ต้องการเล่นสนุกๆ เท่านั้น ท่าทางของหลี่ชิเย่เมื่อครู่นี้ยังไม่เป็นแบบนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นนักเลงหัวไม้ที่เหมือนมากๆ คนหนึ่ง
“เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย!” มาคราวนี้ ชายหนุ่มหลายคนที่อยู่ข้างกายสาวงามพลันโกรธจัดขึ้นมา นี่เป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงละครฉากเด็ดตอนวีรบุรุษช่วยสาวงามเลยนะเนี่ย!
สำหรับหลี่ชิเย่นั้นก็คือผู้ที่เล่นบทร้ายของละครฉากนี้ ปรกติแล้ว นักเลงหัวไม่ลักษณะเช่นนี้ล้วนแล้วแต่ไม่มีจุดจบที่ดี ล้วนแล้วแต่ถูกวีรบุรุษที่เข้ามาช่วยสาวงามซ้อมอย่างหนัก กระทั่งอาจเสียชีวิตไป
“ตายคืออะไร?” หลี่ชิเย่ยืนกอดอก เหลือบมองชายหนุ่มเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าหนูอย่างพวกเจ้าหากรู้จักกาลเทศะก็ไสหัวไปเสีย อย่าได้ทำเสียเรื่องคุณชายอย่างข้า มิฉะนั้นล่ะก็ ข้าจะเหยียบพวกเจ้าให้ตายคาเท้า!”
หลี่ชิเย่ในเวลานี้คือนักเลงหัวไม้ประเภทที่ไม่เห็นกฎหมายและกฎแห่งกรรมอยู่ในสายตา ชอบฉุดคราหญิงสาวชาวบ้านอย่างนั้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเมืองกัวชางเฉินเป็นเมืองที่มีการปกครองที่เข้มงวดตลอดมา ภายใต้การปกครองของฮ่องเต้ไท่ชิง ไม่มีใครหาญกล้าเหิมเกริมมากถึงเพียงนี้
ชายหนุ่มหลายคนพลันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ เผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าขึ้นมาทันที มีชายหนุ่มที่คิดจะลุยเข้าไปเพื่อสั่งสอนหลี่ชิเย่ทันที
แต่ว่า สาวงามที่มีรูปร่างหุ่นละเบิดได้ขวางพวกเขาเอาไว้ ก้าวเดินออกมาจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ด้วยแววตาที่น่าครั่นคร้าม กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...