“เฮ้ คนสวย มาหาความสุขกับคุณชายอย่างข้าดีไหม?” ไม่ทันใด หลี่ชิเย่ก็หมายตาไปที่ผู้หญิงอีกคนแล้ว และเข้าไปเทะโลมทันที ยโสและชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ท่าทางเหมือนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างนั้น
จางเจี๋ยตี้เองได้แต่ทอดถอนใจออกมา มองดูหลี่ชิเย่ที่เทะโลมหญิงสาวชาวบ้านกลางวันเสกๆ
ฉับ ฉับ ฉับเสียงฝีเท้าที่พร้อมเพรียงกันดังขึ้น ยังไม่ทันที่หลี่ชิเย่จะได้ไปเทะโลมหญิงสาวอีกคนหนึ่ง พลันก็ถูกกองทหารล้อมเอาไว้แล้ว
แม้ว่าจำนวนทหารกองนี้จะมีไม่มาก แต่ว่า ทหารทุกคนต่างสวมชุดเกราะ และแผ่กลิ่นอายที่…เย็นเยียบชวนหวาดหวั่น…ทำให้ผู้พบเห็นรู้ได้ทันทีว่าเป็นกองทัพที่เคยสู้ศึกเหนือใต้มาแล้ว
“กองทัพของราชวงศ์โต่วเซิ่น” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตื่นตระหนกที่ได้เห็นทหารของทัพนี้ ทยอยกันถอยห่างออกไป ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
ภายใต้การปกครองของฮ่องแต้ไท่ชิง กองทัพของราชวงศ์โต่วเซิ่นเกรียงไกรไปทั่วหล้า มีชื่อเสียงโด่งดังด้านความโหด แม้ว่ากองทัพที่เห็นอยู่ตรงหน้าจะไม่ได้สังกัดกองทัพหยินมี่ แต่ยังคงเป็นที่หวั่นเกรงของผู้คน
ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกดีใจที่เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถูกทัพของราชวงศ์โต่วเซิ่นล้อมเอาไว้ ต่างหัวเราะเยาะขึ้นมาลับๆ รู้ว่าเจ้าหนูคนนี้ตายแน่ๆ แล้ว สมควรทราบว่า ทั่วทั้งราชวงศ์โต่วเซิ่นมีใครบ้างล่ะที่กล้าเป็นศัตรูกับราชวงศ์โต่วเซิ่น?
กองทัพลักษณะเช่นนี้ก็คือตัวแทนทางการของราชวงศ์โต่วเซิ่น
“อาหลัว เป็นเขานั่นแหละ” ในเวลานี้เอง เสียงของผู้หญิงที่งดงามเฉลียวฉลาดดังขึ้น เมื่อทุกคนหันไปมอง นางคือหลัวฉีที่วิ่งหนีไปเมื่อครู่นั่นเอง
เวลานี้ข้างกายของหลัวฉีมีแม่ทัพอยู่คนหนึ่ง แม่ทัพคนนี้เป็นชายวัยกลางคน สวมใส่ชุดเกราะ ท่าทางดุเดือดรุนแรง พลันที่ผู้คนมองเห็นก็รู้ได้ทันทีว่า ต่อให้เขาไม่ใช่แม่ทัพใหญ่ของกองทัพนี้ ก็ต้องมีฐานะไม่เบาทีเดียว
ดูท่าหลังจากที่หลัวฉีหนีไปแล้วได้ไปหาคนมาช่วย จะอย่างไรเสียนางก็มีชาติกำเนิดจากตระกูลแม่ทัพ นางจะกล้ำกลืนความอัปยศได้อย่างไรเมื่อถูกเทะโลมและล่วงเกินกลางถนน ดังนั้น นางจึงไปร้องไห้และฟ้องกับผู้อาวุโสของนางที่เฝ้าประตูเมืองอยู่ ผู้อาวุโสของนางเป็นแม่ทัพเมื่อได้ยินคำจากนางแล้วโกรธจัดและนำทหารมาทันที
“ว้าว นี่ไม่ใช่น้องหนูที่หนีไปเมื่อครู่รึ?” เมื่อหลี่ชิเย่เห็นเป็นหลัวฉีแม้จะถูกทหารล้อมเอาไว้ก็ไม่ได้รับผลกระทบอย่างสิ้นเชิง หัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “น้องหนู คิดจะกลับมาโผเข้าอ้อมกอดใช่หรือไม่? แต่ว่า คุณชายอย่างข้าชมชอบบังคับฝืนใจคนอื่น ไม่สนหรอกนะว่าจะสนุกหรือไม่ สำหรับแม่หนูที่โผเข้าอ้อมกอดนั้น ข้าไม่มีอารมณ์แม้แต่น้อย”
เวลานี้ หลี่ชิเย่ยืนกอดอกตรงนั้น ยังคงอวดดีอย่างยิ่ง เหมือนว่าบนหน้าผากของเขาได้เขียนคำว่า ‘นักเลงหัวไม้’ โจ๋งครึ่มเอาไว้ ท่าทางคือคุณชายอย่างข้าคือฮ่องเต้อย่างนั้น
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ภายใต้การโบกมือของแม่ทัพหลัว มองเห็นทหารที่ล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้พลันปลายทวนชี้ไปที่หลี่ชิเย่ กระทั่งเกือบจะแตะหน้าอกของหลี่ชิเย่แล้ว เปี่ยมด้วยปณิธานการฆ่า
“เจ้าโจรมาจากไหน ถึงกับกล้าก่อความวุ่นวายในเมืองหลวง!” ดวงตาทั้งสองของแม่ทัพหลัวผู้นี้ดูไม่เป็นมิตร เผยปณิธานการฆ่าออกมา และกล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้น
“อาหลัว ฆ่าเขาเสีย” เวลานี้หลัวฉีทำเชิดคางให้กับหลี่ชิเย่ ท่าทางเหมือนลำพองใจเล็กๆ ที่จะได้แก้แค้น
แม่ทัพหลัวกล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “เจ้าหนู ยอมให้จับแต่โดยดีตอนนี้ มิฉะนั้นล่ะก็ ถูกสับจนเละแน่”
“เละบ้าอะไรของเจ้า” ท่าทีของหลี่ชิเย่ดูจะไม่ใส่ใจโดยสิ้นเชิง โบกมือและกล่าวว่า “ไสหัวไปข้างๆ ไป อย่ามายุ่งกับคุณชายอย่างข้า มิฉะนั้นล่ะก็จะให้เจ้าปลดประจำการไปเลย”
แม้ว่าหลี่ชิเย่จะถูกทหารจำนวนมากล้อมเอาไว้ ยังคงแสดงบทบาทของนักเลงหัวไม้ได้อย่างถึงอกถึงใจ ยังคงยโสชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ กำเริบเสิบสานอวดดี ไม่เห็นทุกคนอยู่ในสายตาเลย
“เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย ฆ่า” แม่ทัพหลัวผู้นี้คือผู้ที่เคยผ่านสมรภูมิรบมาก่อน ดวงตาทั้งสองของเขาดูไม่เป็นมิตร และไร้ซึ่งความปราณี
“แม่ทัพหลัว…” ขณะที่ทหารกำลังจากลงมือในทันใดนั้น จางเจี๋ยตี้ได้ส่งเสียงไอกระแอมทีหนึ่ง
“เจ้าเป็นใคร? ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม ก็ทำกำเริบเสิบสานตรงนี้ไม่ได้” แม่ทัพหลัวผู้นี้สังเกตจางเจี๋ยตี้ตั้งแต่นาทีแรกที่มาถึง เวลานี้ได้ตวาดเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
“ฮึ…” จางเจี๋ยตี้ไม่พูดอะไรมากความ เพียงแค่ส่งเสียงฮึเย็นชาขึ้นเท่านั้นเอง
เสียงฮึเย็นชาเสียงหนึ่งของจางเจี๋ยตี้ทำให้แม่ทัพหลัวคนนี้ถึงกับเหมือนโดนฟ้าผ่าเอาอย่างนั้น พลันมีใบหน้าที่ขาวซีด แม้ว่าจางเจี๋ยตี้จะปิดบังใบหน้าของตนไว้ทั้งหมด ไม่มีใครสามารถจดจำเขาได้ แต่เสียงฮึเย็นชาเสียงนี้ทำให้แม่ทัพหลัวรู้ได้ทันทีว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นใครแล้ว
“ใต้ ใต้ ใต้…” เวลานี้ แม่ทัพหลัวตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
ศาสตราวุธใต้หล้า! จางเจี๋ยตี้! นาทีนี้แม่ทัพหลอที่มีชาติกำเนิดเป็นทหารย่อมรู้แล้วว่า ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนเองนั้นเป็นผู้ใด
ศาสตราวุธใต้หล้าคือหัวหน้าองครักษ์ของฝาบาท มีฐานะอยู่ข้างกายฝ่าบาทและมีตำแหน่งด้อยกว่าซุนหลึ่งหยิ่งเท่านั้นเอง เวลานี้คนผู้นี้ก็ได้มายืนอยู่ด้านหน้าของตนเอง แล้วจะไม่ให้แม่ทัพหลัวตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อได้อย่างไรกันเล่า
สมควรทราบว่า ฮ่องแต้ไท่ชิงหาใช่เป็นฮ่องเต้ทั่วไป เมื่อไรที่เขาไม่สบอารมณ์แล้วล่ะก็ อย่าว่าแต่แม่ทัพใหญ่อย่างเขาเลย แม้แต่ปรมาจารย์ราชสำนักเขาก็จับตัดศีรษะเหมือนสับแตงโมอย่างนั้น สามารถสับจนกลิ้งเต็มพื้นได้ตามอารมณ์
เวลานี้ศาสตราวุธใต้หล้าได้มาเป็นองครักษ์ให้กับเจ้าหนูที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่ง ทำเอาแม่ทัพหลัวตกใจจนขวัญกลับร่างเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...