ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2433

เมื่อจางเจี๋ยตี้ได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้วพลันตะลึงตาค้างจนพูดอะไรไม่ออก เขายังเขาใจว่าหลี่ชิเย่แค่ต้องการเป็นฮ่องเต้ที่เสพสุข มั่วโลกีย์องค์หนึ่งเท่านั้น ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หลี่ชิเย่ถึงกับคิดจะโจมตีหอหลินไห่เก๋อ และตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ

จางเจี๋ยตี้พลันรู้สึกงงงัน รู้สึกว่าหลี่ชิเย่เสียสติไปแล้ว เนื่องจากเรื่องเช่นนี้แม้แต่ฮ่องแต้ไท่ชิงก็ไม่เคยทำมาก่อน แม้ว่าฮ่องแต้ไท่ชิงเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวมาสามยุคสมัย เกรียงไกรไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ แต่ทว่า เป็นความจริงที่เขาไม่เคยส่งกองทัพไปจัดการทำลายล้างหอหลินไห่เก๋อที่เป็นห้าผู้ยิ่งใหญ่ และหรือบางทีในใจของฮ่องแต้ไท่ชิงเคยคิด แต่ไม่เคยไปทำให้เป็นความจริง

“ฝ่าบาท ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด” จางเจี๋ยตี้ตกใจอย่างยิ่ง รีบหล่าวว่า “ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือก่อตั้งขึ้นโดยอาศัยกำลังทหาร กำลังการสู้รบแข็งแกร่งยิ่ง เกรงว่ากองทัพส่วนกลางจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ”

“อ้อ แค่กองทัพส่วนกลางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ?” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ส่งกองทัพบูรพา ทักษิณ ประจิม และอุดรสี่กองทัพใหญ่ติดตามกองทัพส่วนกลางไปด้วย จัดการทำลายล้างตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือเสีย”

“ว่าอะไรนะ…” จางเจี๋ยตี้ยิ่งงงงันหนักขึ้นกว่าเดิมอีก การโยกกำลังกองทัพส่วนกลางก็เพียงพอที่จะสร้างคามฮือฮาให้กับราชวงศ์โต่วเซิ่นแล้ว โยกกระทั่งกองทัททั้งสี่ภาค โยกรวดเดียวห้ากองทัพนี่มันคือเสียสติแล้วชัดๆ ซึ่งจะส่งผลให้ราชวงศ์โต่วเซิ่นพลันตกอยู่ท่ามกลางกระเพื่อมที่น่ากลัว กระทั่งอาจทำให้ราชวงศ์โต่วเซิ่นพังครืนลงในชั่วข้ามคืน

การโยกหลายกองทัพเช่นนี้ เว้นแต่ฮ่องแต้ไท่ชิงยังคงมีชีวิตอยู่ มิฉะนั้นแล้วหากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น จะไม่กล้าเล่นใหญ่เช่นนี้อยู่แล้ว

“ฝ่าบาท ทำเช่นนี้ไม่ได้นะ” จางเจี๋ยตี้พยายามอย่างยิ่งที่จะเตือนว่า “เมื่อไรที่กองทัพส่วนกลางกับกองทัพภาคทั้งสี่ถูกส่งไปยังสมรภูมิรบล่ะก็ จะส่งผลกระเพื่อมต่อราชวงศ์โต่วเซิ่นโดยรวมแน่ และเปิดโอกาสให้ศัตรูได้ฉกฉวยโอกาสนี้ได้ ถึงเวลานั้น ราชวงศ์โต่วเซิ่นโดยรวมทั้งหมดก็จะง่อนแง่นเต็มที่ มันอันตรายมากนะ”

“มีอะไรจะไม่ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ราชวงศ์โต่วเซิ่นจะล่มสลายก็ล่มสลายไป ไม่เห็นจะมีอะไร เป็นสั่งการให้ห้ากองทัพยกทัพไปพร้อมกัน บอกตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือว่า ถ้าไม่อยากให้ถูกทำลายล้างล่ะก็ ให้ส่งตัวปิงฉือหานยวี่อะไรนั่นออกมาทันที อีกทั้ง ยังต้องมีสาวงามที่แต่งมาพร้อมกันอีกหนึ่งร้อย ไม่ หนึ่งหมื่นคน ต้องงดงาม อกโตแบบนั้น”

“ฝ่าบาท ถ้าหากฝ่าบาทต้องการสาวงาม ขอเพียงฝ่าบาทรับสั่งมาคำหนึ่งก็พอ กระหม่อมจะส่งคนไปคัดเลือกให้ฝ่าบาท ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มีสาวงามเป็นหมื่นเป็นพัน พร้อมที่จะให้ฝ่าบาทได้คัดเลือก ฝ่าบาทต้องการแบบไหนก็มีทั้งนั้น ก้นอวบ อกโตมีทั้งนั้น” จางเจี๋ยตี้รีบกล่าวว่า “มันไม่มีความจำเป็นต้องส่งกองทัพไปยังตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ”

“เจี๋ยตี้เอ๋ย เจ้าคิดอกุศลแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะส่ายหน้า และกล่าวว่า “ถ้าหากข้าต้องการผู้หญิงจริงๆ ล่ะก็ จำเป็นต้องอาศัยวิธีการแบบนี้รึ? ขอเพียงข้าหลี่ชิเย่กวักมือ ไม่ว่าจะเป็นเทพธิดา ธิดาศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นไม่โผเข้าอ้อมกอดเหมือนกันรึ ต่อให้ฮ่องเต้อย่างข้าเลอะเทอะมากกว่านี้ก็ตาม ก็รู้ว่าลำพังอาศัยตำแหน่งฮ่องเต้หากต้องการผู้หญิง ตรงไหนบ้างที่ไม่มีให้? ต้องการแบบไหนก็มีทั้งนั้น เรื่องผู้หญิงมันก็แค่พูดขึ้นมาเล่นๆ เท่านั้นเอง”

“ถ้าเช่นนั้น ฝ่าบาท…” จางเจี๋ยตี้ที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะยังต้องตะลึงอยู่นิดหนึ่ง

“ก็เล่นน่ะสิ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ในเมื่อข้าคือฮ่องเต้มีอะไรที่เล่นไม่ได้ เล่นผู้หญิงได้ก็ต้องเล่นแผ่นดินได้สิ ส่งทหารรบไปทั่วหล้า ใครที่ขัดหูขัดตาก็ต้องโจมตีคนนั้น! อย่างไรเสียข้ามีกองทัพในมือเป็นสิบล้าน ไม่ใช่หรือ?”

“ฝ่าบาท พระองค์ยังไม่สามารถกุมอำนาจในมือได้มั่นคง หากพ่ายแพ้การศึกล่ะก็ เกรงว่าราชวงศ์ต้องล่มสลายน่ะ” จางเจี๋ยตี้อดที่จะกล่าวขึ้นมาไม่ได้

“ล่มสลายก็ล่มสลายไปสิ ถูกทำลายล้างก็ไม่มีปัญหา จะอย่างไรเสียแผ่นดินนี้ใช่ว่าข้าเป็นคนบุกเบิกขึ้นมา ถูกทำลายก็ทำลายไปสิ เกี่ยวอะไรกับข้า” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวขึ้น

จางเจี๋ยตี้ถึงกับเซ่อไปเลยเมื่อต้องเจอะเจอกับฮ่องเต้ที่บ้าระห่ำเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นฮ่องเต้องค์อื่นๆ มีใครบ้างล่ะที่ยินดีให้แผ่นดินของตนถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม ท่าทางของหลี่ชิเย่คือท่าทีที่อย่างไรก็ได้ สมควรทราบว่า นี่คืออำนาจที่เป็นใหญ่แต่ผู้เดียวในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่น่ะเนี่ย หลี่ชิเย่แค่เอามาล้อเล่นเท่านั้นเอง

“ฝ่าบาท เมื่อไรที่เกิดศึกสงครามขึ้นย่อมเป็นไฟสงครามที่ลามไปทั่ว สรรพชีวิตต้องสิ้นสลาย ไม่รู้ว่ามีประชาชนจำนวนเท่าไรที่ต้องเสียชีวิต ไม่รู้ว่ามีผู้ที่ปราศจากความผิดต้องตายในสนามรบ ขอฝ่าบาทได้เห็นแก่อาณาประชาราษฎร์ใต้หล้า ได้โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบสร้างความสงบสุขให้กับใต้หล้า” จางเจี๋ยตี้กล่าวด้วยความพยายามอย่างยิ่ง

“อาณาประชาราษฎร์ ความสงบสุขใต้หล้า” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “เจี๋ยตี้ เจ้ารู้สึกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงเป็นอย่างไร?”

จางเจี๋ยตี้งงงันนิดหนึ่ง เขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหลี่ชิเย่จึงได้โยงไปถึงฮ่องเต้ไท่ชิงกะทันหันขึ้นมา

“ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงพระปรีชาเฉลียวฉลาดทรงกำลังอำนาจมาก” เมื่อได้สติกลับมา จางเจี๋ยตี้ได้เอ่ยขึ้นช้าๆ สิ่งนี้หาใช่เป็นคำพูดที่ประจบสอพรอ เป็นความจริงที่ฮ่องเต้ไท่ชิงสามารถได้รับการยกย่องว่าทรงพระปรีชาเฉลียวฉลาดทรงกำลังอำนาจมากได้อย่างแท้จริง

“ฮ่องเต้ที่ทรงพระปรีชาเฉลียวฉลาดทรงกำลังอำนาจมากคนหนึ่ง เจ้าคิดว่าเขาจะแก่แล้วเลอะเลือนหรือไม่?” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวขึ้น

“ไม่เป็น” จางเจี๋ยตี้ส่ายหัวและตอบโดยไม่ต้องคิด จะอย่างไรเสียเขาก็คือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะคนหนึ่งแก่ตัวแล้วจะกลายเป็นตาแก่เลอะเลือน มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“ในเมื่อเป็นฮ่องเต้ที่ทรงพระปรีชาเฉลียวฉลาดทรงกำลังอำนาจมากคนหนึ่ง ทั้งยังไม่แก่แล้วเลอะเลือน ทันใดนั้น ถึงกับยกเอาบัลลังก์ให้กับข้าที่เป็นสารเลวคนหนึ่งเช่นนี้ แทนที่จะยกตำแหน่งให้กับซุนหลึ่งหยิ่ง และหรือผู้ที่มีความรู้ความสามารถโดดเด่นของราชวงศ์โต่วเซิ่น ไหนเจ้าลองบอกมาซิว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้จางเจี๋ยตี้ตอบไม่ถูก ฮ่องเต้ไท่ชิงเป็นฮ่องเต้มาสามยุคสมัย ทรงพระปรีชาฉลาดเฉียบแหลมและมีสายตายาวไกล และเขาก็จะไม่เป็นตาแก่เลอะเลือนยามแก่ตัว แต่ว่า เขากลับยกตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับหลี่ชิเย่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้อื่นไม่สามารถเข้าใจได้ หนึ่งเดียวที่จะอธิบายก็คือ หลี่ชิเย่นั้นเป็นบุตรนอกสมรสของฮ่องเต้ไท่ชิง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล