ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2435

สรุปบท ตอนที่ 2435 กบฏ: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปตอน ตอนที่ 2435 กบฏ – จากเรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2435 กบฏ ของนิยายActionเรื่องดัง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลี่ชิเย่ที่เอนนอนอยู่ตรงนั้น เหมือนนอนหลับสนิทไปแล้วอย่างนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้ไปแตะต้องตัวปิงฉือหยิ่งเจี้ยนเลยสักครั้ง ยิ่งไม่ได้ไปลวนลามนาง

การที่หลี่ชิเย่ไม่ได้แตะต้องตัวเองเลยสักครั้ง และไม่ได้ยี่นมือมารมายังตน ทำให้ภายในใจของปิงฉือหยิ่งเจี้ยนถึงกับรู้สึกโล่งอกลับๆ ไปที แต่ก็รู้สึกแปลกๆ ในใจ

การแต่งเข้าวัง นางก็คือคนของหลี่ชิเย่แล้ว หลี่ชิเย่สามารถทำตามอำเภอใจกับนางได้ทุกอย่าง นางไม่มีปัญญาจะต่อต้าน ได้แต่คล้อยตามและสอดรับ แต่ว่า หลี่ชิเย่กลับไม่มีพฤติกรรมที่ไม่อยู่ในกฎในเกณฑ์ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเคยเป็นจอมมารน้อยที่โดดเด่นด้านชื่อเสียงไม่ดี เป็นอันธพาลน้อยที่แย่งชิงหญิงสาวชาวบ้านโดยเฉพาะ

การที่หลี่ชิเย่ไม่แตะต้องตัวเอง ทำให้ภายในใจของปิงฉือหยิ่งเจี้ยนรู้สึกแปลกๆ รู้สึกอ้างว้างอยู่บ้าง เป็นรสชาติที่บอกไม่ถูกอย่างหนึ่ง

“เจ้าแต่งเข้ามาแทนปิงฉือหานยวี่ ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือตกลงให้ผลประโยชน์อะไรให้เจ้า?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย

ปิงฉือหยิ่งเจี้ยนถึงกับชะงักนิดหนึ่ง เมื่อถูกหลี่ชิเย่ถามขึ้นมาเช่นนี้ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ นางจึงได้เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “ปรมาจารย์รับปากจะให้กิจการบางอย่างแก่พวกเรา ให้ตระกูลพวกเรามีที่พักพิง”

“นั่นมันก็แค่มีสถานที่ที่ให้มีชีวิตรอดได้แห่งหนึ่งเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “จะไม่สามารถเอื้อมไปถึงอำนาจของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือได้ตลอดกาล”

ปิงฉือหยิ่งเจี้ยนนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายพูดเสียงอ่อยว่า “มีสถานที่สำหรับเอาชีวิตรอดได้ก็นับว่าไม่เลวแล้วล่ะ” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ภายในใจอดที่จะสลดนิดหนึ่งไม่ได้

ครั้งนั้นหลังจากที่ปิงฉืออ๋าวฟ่างพ่ายแพ้สงคราม พวกเขาที่เป็นสายของปิงฉืออ๋าวฟ่างถูกกำจัดอย่างสิ้นเชิงในตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ หากไม่เป็นเพราะเห็นแก่ราชันแท้จริงพั่วปิงล่ะก็ ไม่แน่นักสายของพวกเขาอาจจะถูกตระกูลของตนเองเข่นฆ่าจนไม่เหลืออีกแล้ว

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม คนในตระกูลของพวกเขาถูกตระกูลตัวเองเนรเทศ ไม่มีที่ที่จะยืน ไม่มีที่ที่จะอยู่ ได้แต่ร่อนเร่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ

มาคราวนี้ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือให้นางแต่งเข้าวังแทนปิงฉือหานยวี่ นางเองไม่อาจไม่ตัดสินใจเลือก เพื่อหาที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งให้กับตระกูลของตนที่ถูกเนรเทศ

“การที่ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือจะถูกทำลายหรือไม่ มันเกี่ยวข้องกับเจ้ามากมายอย่างไร?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว

ปิงฉือหยิ่งเจี้ยนตะลึงงันนิดหนึ่ง สุดท้ายพูดเสียงแผ่วเบาว่า “มัน มันจะอย่างไรเสียก็คือตระกูลของพวกเรา และเป็นสิ่งที่มาจากกำลังกายกำลังสมองของบรรพบุรุษแต่ละรุ่น ดังนั้น ขอ ขอฝ่าบาทถอนรับสั่ง…”

“เรื่องราวบนโลกดั่งเกมหมากรุก เป็นสิ่งที่เจ้าไม่รู้และดูไม่เข้าใจอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่กล่าวตามอารมณ์ว่า “เจ้าก็อยู่ข้างกายของข้า คอยปรนนิบัติข้าก็พอแล้ว”

ปิงฉือหยิ่งเจี้ยนอ้าปากจะพูด แต่ ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี สุดท้ายได้แต่หุบปากและทอดถอนใจภายในใจทีหนึ่ง

นางเป็นเพียงบุคคลที่ไม่มีความสำคัญคนหนึ่งเท่านั้นเอง นางก็คล้ายดั่งเป็นแหนที่อยู่ภายใต้สายน้ำที่เชี่ยวกรากไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ในครั้งนั้นบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งอย่างปิงฉือเอ๋าฟ่างยังต้องพ่ายแพ้การศึกและเสียชีวิต นางที่เป็นเพียงบุคคลไม่มีความสำคัญคนหนึ่งจะนับเป็นอะไรได้?

ด้านนอกตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ กองทัพทั้งสองฝ่ายตั้งประจันหน้ากัน บรรยากาศตึงเครียดจนถึงขีดสุด

“ฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะนะ” มีผู้อดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นกองทัพใหญ่ตั้งประจันหน้ากัน กลิ่นอายการฆ่ารุนแรง สถานการณ์ตึงเครียดถึงขีดสุด

“เรื่องนี้พูดยาก” ระดับบรรพบุรุษได้วิเคราะห์ว่า “แม้ว่าตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือจะแข็งแกร่ง แต่ว่า กองทัพทั้งห้าก็ใช่ย่อย ทั้งสองฝ่ายยกออกมาทั้งหมด ใครจะเป็นฝ่ายกำชัยยังพูดยาก ถ้าหากกองทัพหยินมี่ยังอยู่ล่ะก็ ขณะกองทัพทั้งห้าประชิดเมืองเกรงว่าตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือคงไม่กล้าต่อต้าน ต้องยอมแพ้แต่โดยดีทันที เวลานี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือได้บังเกิดใจเป็นอื่นแล้ว ไม่ได้มองราชวงศ์โต่วเซิ่นอยู่ในสายตาอีกแล้ว”

ทุกคนรู้สึกว่ามีเหตุผลเมื่อได้ฟังคำพูดของระดับบรรพบุรุษผู้นี้ ขณะที่ฮ่องเต้ไท่ชิงยังอยู่ แม้ว่าตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ต้องยอมก้มหัวให้ ฮ่องเต้ไท่ชิงสั่งให้ไปทางขวา ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือไม่กล้าไปทางซ้ายอย่างเด็ดขาด ไม่กล้าต่อต้านราชวงศ์โต่วเซิ่นอยู่แล้ว

เวลานี้ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ซุนหลึ่งหยิ่งถอนตัวไม่ยุ่งกับโลกภายนอก กองทัพหยินมี่หายสาบสูญ ดังนั้น ภายในใจของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือจึงมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่มองฮ่องเต้องค์ใหม่อยู่ในสายตา และไม่ได้ใส่ใจในราชวงศ์โต่วเซิ่น ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่ยินยอมให้คุณหนูของตระกูลตนเองแต่งเข้าวัง ด้วยการไปตามหาองค์หญิงตกยากมาแต่งเข้าวังแทน

ถ้าหากซุนหลึ่งหยิ่ง และกองทัพหยินมี่ยังอยู่ ต่อให้ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือแข็งแกร่งมากกว่านี้ ยังคงต้องให้ปิงฉือหานยวี่แต่งเข้าวังแต่โดยดี

ตูม ตูม ตูม…จังหวะที่กองทัพใหญ่ทั้งห้ากำลังประจันหน้ากับทัพของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉืออยู่นั้น พลันปรากฏกองทัพอีกทัพหนึ่งขึ้นมา ดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดเข้ามา ฝุ่นฟุ้งตลบจนปิดฟ้าบังตะวัน

กองทัพใหญ่ลักษณะเช่นนี้ที่ดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดพุ่งเข้ามา ผืนแผ่นดินสั่นไหว ท้องฟ้าสั่นเทา เสมือนดั่งสั่นคลอนฟ้าดินอย่างนั้น ขณะที่กองทัพยังเคลื่อนพลมาไม่ถึง แต่กลิ่นอายการฆ่าก็ได้ตลบอบอวลระหว่างฟ้าดินไปแล้ว

“แคว้นว่านเจิ้น เป็นทัพของแค้วนว่านเจิ้น!” มองเห็นทัพใหญ่ที่มีไพร่พลนับสิบล้านยกเข้ามาดั่งคลื่นยักษ์ที่บ้าคลั่ง

ผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วนต่างสะดุ้งภายในใจ กองทัพนี้ก็คือกองทัพที่มาจากแค้วนว่านเจิ้น การส่งทหารเข้ามาในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มที่สุดอย่างกะทันหัน จะไม่ทำให้ผู้คนทั้งหมดต้องตกใจได้อย่างไร

แคว้นว่านเจิ้นก็คือหนึ่งในห้าผู้ยิ่งใหญ่ ศักยภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ แค้วนว่านเจิ้นเชี่ยวชาญในเรื่องของค่ายกล ได้รับกายยกย่องว่ามีค่ายกลที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ดังนั้น เมื่อไรที่กองทัพแค้วนว่านเจิ้นตั้งเป็นค่ายกลขึ้นมาล่ะก็ไร้เทียมทาน ปราศจากผู้ต่อกร

“แคว้นว่านเจิ้นยกทัพมาเพื่อช่วยฮ่องเต้ หรือว่าช่วยตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือเล่า?” พลันที่มองเห็นแค้วนว่านเจิ้นส่งกองทัพเข้ามาดั่งคลื่นที่บ้าคลั่งมายังตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ สร้างความกระวนกระวายให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยในเวลานี้

เวลานี้ สีหน้าของแม่ทัพทั้งห้าทัพต่างก็หนักแน่นจริงจังยิ่งนัก

“ฝ่าบาท แย่แล้ว” ในเวลานี้เอง จางเจี๋ยตี้ปรากฏตัวต่อหน้าหลี่ชิเย่เสมือนดั่งสายฟ้าแลบ รายงานสถานการณ์ล่าสุดต่อหลี่ชิเย่ “ฝ่าบาท แค้วนว่านเจิ้นส่งทัพร่วมมือกับตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ ตีขนาบซ้ายขวาต่อกองทัพทั้งห้า เกรงว่ากองทัพทั้งห้าจะต้องพ่ายแพ้ราบคาบ…”

“เจี๋ยตี้ เรื่องนี้มีอะไรไม่ดี และมีอะไรที่น่าตกใจระคนกับแปลกใจ” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้า ไม่ได้ให้ความสำคัญแม้แต่น้อย ยิ้มกล่าวว่า “ฮ่องเต้องค์ก่อนไม่อยู่แล้ว กองทัพหยินมี่ก็ไม่มีแล้ว เวลานี้ไม่สังหารข้ายังจะรออะไรอีก หรือจะรอให้ข้าปีกกล้าขาแข็งแล้วค่อยมาสังหารข้ารึ? แน่นอน ย่อมต้องฉวยโอกาสที่ข้านั่งบัลลังก์ยังไม่ทันมั่นคงดี จัดการสังหารข้าเสียก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน”

“แต่ว่า ฝ่าบาท หากทัพทั้งห้าสู้ไม่ได้ เกรงว่า…” จางเจี๋ยตี้กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

“ไม่ ฉากเด็ดเพิ่งจะเริ่มต้นนะเนี่ย” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าคอยดูต่อไปก็แล้วกัน ยังมีฉากเด็ดที่สนุกและอันตรายมากกว่าจะแสดงแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเจ้าจะมีความอดทนไปรอดูหรือไม่”

“เรื่องนี้…” เมื่อจางเจี๋ยตี้เห็นท่าทางของหลี่ชิเย่ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย เขายังจะพูดอะไรได้อีก พลันที่เขาทราบข่าวก็รู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์แย่แล้ว อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ แต่หลี่ชิเย่กลับอย่างไรก็ได้อย่างสิ้นเชิง

“ฮ่องเต้องค์ใหม่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม ทำร้ายผู้จงรักภักดี ก่อกรรมกับราษฎร…” ขณะที่ทุกคนต่างเข้าใจว่ากองทัพทั้งห้าจะต้องพ่ายแพ้ภายใต้การล้อมปราบของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือกับแค้วนว่านเจิ้นนั้น

แต่ว่า ในเวลานี้เอง แม่ทัพใหญ่ของกองทัพส่วนกลางได้อ่านแถลงการระดมพลปราบปราม ความว่า “…ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เป็นของร้อยเผ่าพันสำนัก เป็นของทุกๆ คน ในฐานะที่เป็นทหารคนหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ จะไม่อนุญาตให้มีฮ่องเต้ที่เป็นทรราชมาทำร้ายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ทรราชใดก็ตามหากเป็นศัตรูกับทั่วหล้า เป็นศัตรูกับอาณาประชาราษฎร์ ล้วนแล้วแต่สมควรถูกปราบปราม…”

ในเวลานี้ คำแถลงการณ์ของแม่ทัพใหญ่ของกองทัพส่วนกลางได้ดังก้องไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ และได้แพร่กระจายไปทั่วทุกๆ แคว้นเจ้าลัทธิในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ภายในระยะเวลาอันสั้น

“กองทัพใหญ่ทั้งห้าแปรพักตร์!” ภายในชั่วข้ามคืน ข่าวที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวเช่นนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ เสมือนดั่งเป็นพายุฝนฟ้าคะนองที่พุ่งเข้าโจมตีไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่

ไม่รู้ว่ามีแคว้นเจ้าลัทธิจำนวนเท่าไรที่หวั่นไหวหลังจากได้ทราบข่าวนี้แล้ว ไม่รู้ว่ามีระดับปรมาจารย์จำนวนเท่าไรที่รู้สึกใจหายใจคว่ำ

“กองทัพใหญ่ทั้งห้าก่อกบฏ ปราบปรามฮ่องเต้องค์ใหม่” เวลานี้ภายในใจของผู้คนจำนวนมากต่างสะดุ้ง เมื่อได้รับทราบคำแถลงการณ์ระดมพลเพื่อปราบปราม ทิศทางลมเปลี่ยนแปลงได้เร็วมากเหลือเกิน จนผู้คนจำนวนมากปรับตัวไม่ทัน

………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล