การที่หลี่ชิเย่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง อีกทั้งยังพูดจาฉะฉานไม่สะทกสะท้านอีกด้วยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชันแท้จริงปาเจิ้น สิ่งนี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องมองตากันและกัน
ไม่ว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะเป็นอย่างไรก็ตาม แม้ว่าในสายตาของยอดฝีมือทุกคนจะเป็นแค่ไก่อ่อนที่เพิ่งจะเข้ามาเป็นผู้บำเพ็ญตนก็ดี แต่ว่า ท่ามกลางกองทัพกบฏนับสิบล้านที่บุกมาถึงถิ่น ราชันแท้จริงมาด้วยตนเอง เขายังคงสามารถสงบนิ่งได้อย่างหน้าตาเฉย จุดนี้นับว่าเป็นที่นับถือของผู้คน อย่างน้อยที่สุดความกล้าเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถทำได้
“ไม่เสียทีที่เป็นลูกหลานของฮ่องเต้ไท่ชิง อย่างน้อยข้อนี้ก็ไม่ได้ทำให้ฮ่องเต้ไท่ชิงต้องเสียชื่อ” ระดับปรมาจารย์ที่เห็นภาพนี้แล้วถึงกับพึมพำขึ้นมา
จนกระทั่งบัดนี้ ยังคงมีผู้คนจำนวนมากเข้าใจว่าหลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่องค์นี้คือลูกนอกสมรสของฮ่องเต้ไท่ชิง หาไม่แล้วฮ่องเต้ไท่ชิงก็จะไม่มอบตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับเขา
ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงปาเจิ้นดูไม่เป็นมิตร เผยปณิธานการฆ่าออกมา เมื่อถูกผู้บำเพ็ญตนน้อยที่อ่อนแอจนไม่รู้ว่าอ่อนแออย่างไรมาพูดวิจารณ์ไปเรื่อยเช่นนี้ ยามที่ราชันแท้จริงคนหนึ่งเผยปณิธานการฆ่าออกมานั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่ง ทุกๆ ปณิธานการฆ่าก็คล้ายดั่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มที่ทำให้ผู้คนต้องตัวสั่นดั่งลูกนก
“พูดจบหรือยัง?” เวลานี้ราชันแท้จริงปาเจิ้นพูดน้ำเสียงน่าเกรงขามขึ้นมา
“พูดจบแล้ว” หลี่ชิเย่ทำท่าผายมือและดูตามอารมณ์ กล่าวว่า “แคว้นว่านเจิ้นพวกเจ้าคิดจะส่งตัวองค์หญิงมาให้เมื่อไหร่ล่ะ พอดีข้างกายของข้ายังขาดนังหนูที่จะมาล้างเท้าและอุ่นเตียงคนหนึ่ง”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับใจหายใจคว่ำมองหน้ากันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่
“นี่มันคนบ้าชัดๆ” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องพึมพำขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ มันจบสิ้นไปแล้ว วังที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้เหลือตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับราชันแท้จริงปาเจิ้นยังคงกล้าพูดจาไม่รู้จักละอาย พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องใจหายใจคว่ำ ฮ่องเต้องค์ใหม่นับเป็นคนบ้าคนหนึ่งโดยแท้ มิฉะนั้นล่ะก็คงไม่ส่งกองทัพทั้งห้าไปโจมตีตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว
“ไม่รู้จักคำว่าตาย!” พริบตาเดียวนั่นเอง ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงปาเจิ้นปรากฎปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวเบ่งบานขึ้นมา ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้น ฝ่ามือที่กางออกพลันทำลายอากาศและฟาดใส่หลี่ชิเย่ทันที
จบแล้ว…ทุกคนที่มองเห็นราชันแท้จริงปาเจิ้นพลันลงมือฟาดใส่หลี่ชิเย่กะทันหัน ไม่ต้องดูต่อไปก็รู้แล้วว่าผลจะลงเอยอย่างไร ฮ่องเต้องค์ใหม่มีทักษะอ่อนด้อยจนสามารถมองข้ามไปได้ แค่นิ้วมือนิ้วเดียวของราชันแท้จริงปาเจิ้นก็สามารถทำให้เขาต้องหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียว เวลานี้หนึ่งฝ่ามือที่ฟาดลงไปนั้น ฮ่องเต้องค์ใหม่ต้องถูกฟาดจนกลายเป็นเนื้อบดแน่นอน
จังหวะที่ฝ่ามือของราชันแท้จริงปาเจิ้นกำลังจะฟาดถึงตัวหลี่ชิเย่แล้วนั้น ทันใดนั้น ได้ยินเสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงที่แผ่วเบามาก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ยิน จังหวะที่เสียงแผ่วเบามากเสียงนี้ดังขึ้น ช่องว่างได้มีการกระเพื่อมสั่นไหวทีหนึ่ง
ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรพลันหายตัวไปทันที
ปังเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หนึ่งฝ่ามือของราชันแท้จริงปาเจิ้นที่ฟาดลงมา บัลลังก์มังกรถูกฟาดจนแหลกละเอียด แต่หลี่ชิเย่ได้หายตัวไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย เหมือนระเหยไปจากโลกใบนี้อย่างนั้น
คนล่ะ…มองเห็นบัลลังก์มังกรที่ถูกฟาดจนแหลกละเอียด ขณะที่หลี่ชิเย่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนระเหยไปอย่างนั้น
“หรือว่าถูกฟาดจนกลายเป็นเนื้อบด และหรือกลายเป็นหมอกเลือดแล้วระเหยไปแล้ว?” มีผู้ที่อดสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นเพียงบัลลังก์มังกรที่แหลกละเอียด แต่ไม่เห็นซากศพของหลี่ชิเย่
“ไม่ มีคนลงมือช่วยเขาไปแล้ว” ระดับปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งยิ่งเพ่งสายตาออกไป เอ่ยขึ้นช้าๆ ด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจัง
“ถูกคนเขาช่วยเหลือไปแล้ว?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ ผู้ที่ลงมือช่วยเหลือฮ่องเต้องค์ใหม่มีความไวที่รวดเร็วมาก ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถมองเห็นได้อยู่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สามารถช่วยฮ่องเต้องค์ใหม่ไปจากมือของราชันแท้จริงปาเจิ้นได้นั้น รับรองว่าจะต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่งสุดเปรียบเปรย มิฉะนั้นล่ะก็ เกรงว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นคงสกัดเอาไว้นานแล้ว
“เป็นใครกันนะที่ช่วยเหลือฮ่องเต้องค์ใหม่ไป?” ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างผุดคำถามเช่นนี้ในใจขึ้นมาทันที เป็นใครกันนะที่ช่วยเหลือฮ่องเต้องค์ใหม่ไป? เป็นซุนหลึ่งหยิ่งที่ได้ปลีกตัวไม่ยุ่งเกี่ยวโลกภายนอก และหรือเป็นคนอื่นๆ? ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องสะท้านในใจ เมื่อนึกถึงซุนหลึ่งหยิ่ง
จะอย่างไรเสีย อำนาจบารมีของซุนหลึ่งหยิ่งยังคงเหมือนเดิม เงาทมิฬของเขายังคงสามารถปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้
สีหน้าของราชันแท้จริงปาเจิ้นเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อหลี่ชิเย่ถูกคนเขาช่วยเหลือไปโดยฉับพลัน จะอย่างไรเสีย ผู้ที่สามารถช่วยเหลือฮ่องเต้องค์ใหม่ไปจากมือเข้าได้ในพริบตาย่อมแข็งแกร่งกว่าเขามากเลยทีเดียว ทั้งยังสามารถไปมาอย่างอิสระเสรีต่อหน้าเขาโดยไม่ต้องเผยโฉมหน้าที่แท้จริง บุคคลเช่นนี้ย่อมน่ากลัวเหลือเกิน
แม่ทัพใหญ่ของกองทัพทั้งหกก็พลันมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากเช่นกัน เมื่อหลี่ชิเย่ถูกคนเขาช่วยเหลือไปโดยฉับพลัน พวกเขาต่างจ้องมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเป็นใครกันนะที่ช่วยเหลือหลี่ชิเย่ไป
“ค้น ค้นให้ทั่ว” สุดท้าย พวกของราชันแท้จริงปาเจิ้นสั่งการออกไป กองทัพและม้าหมื่นพันเริ่มค้นหาร่องรอยของหลี่ชิเย่ทันที
ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้าซึ่งกันและกันเมื่อมองเห็นจุดจบในลักษณะเช่นนี้ แม้ว่าพวกของราชันแท้จริงปาเจิ้นจะตีวังหลวงจนแตก แต่ ฮ่องเต้องค์ใหม่กลับถูกคนเขาช่วยเหลือไปได้
การที่หลี่ชิเย่ถูกคนอื่นช่วยเหลือไปได้ พวกของราชันแท้จริงปาเจิ้นมีสีหน้าที่ดูไม่จืดเลย โดยเฉพาะสีหน้าของพวกของทังเฮ่อเสียงยิ่งดูไม่จืดมากกว่า
ขอเพียงฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็จะไม่สงบสุขยากที่จะหลับตาได้ลง กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ขอเพียงฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็จะกลายเป็นหนามยอกอกของพวกเขาสักวัน
ในอนาคต ไม่ว่าใครก็ตามขึ้นนั่งบัลลังก์ ไม่ว่าใครก็ตามที่กุมอำนาจ แต่ว่า ขอเพียงฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งฮ่องเต้ของเขาก็จะไม่ชอบด้วยหลักธรรมนองคลองธรรม ต้องถูกกล่าวหาว่าชิงบัลลังก์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงมีชีวิตอยู่ เขาก็จะเป็นฮ่องเต้ที่ถูกต้องตามกฎหมายวันยังค่ำ ใครจะรับประกันได้ว่าวันหนึ่งเขาจะไม่กลายเป็นเบี้ยในมือของคนอื่นหวนคืนกลับมาอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...