“อย่างไรก็ได้” หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ริมหน้าผา ห้อยแกว่งเท้าไปมา สองมือยันกับพื้น มองดูทะเลเมฆที่ล่องลอยอยู่ใต้เท้า
เทพวายุเพียงจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง ฮ่องเต้ไท่ชิงทรงพระปรีชาเฉลียวฉลาดชั่วชีวิต และปราศจากผู้ต่อกรมาชั่วชีวิต กลับให้กำเนิดลูกชายที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเช่นนี้ สิ่งนี้นับว่าเป็นจุดด้อยในชีวิตของฮ่องเต้ไท่ชิงกระมัง
“เวลานี้เจ้าฝึกยุทธไปถึงขั้นไหนแล้วล่ะ และฝึกเคล็ดวิชาอะไรมาบ้าง?” เทพวายุมองหน้าหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง กล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา
“ขั้นที่สิบสาม ส่วนเรื่องเคล็ดวิชาน่ะหรือ ก็แค่ฝึกไปตามอารมณ์ ง่ายเกินไปไม่มีความยากอะไรเลย” หลี่ชิเย่ตอบตามอารมณ์ขึ้นมา
เมื่อเทพวายุได้ฟังคำเช่นนี้แล้วแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา แค่มองเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าหนูคนนี้มีทักษะไม่ถึงไหน แค่ผู้บำเพ็ญตนน้อยที่เพิ่งจะก้าวเข้าไปขั้นต้นเท่านั้นเอง ถึงกับพูดออกมาได้อย่างไม่ละอายว่าเคล็ดวิชาใดๆ ก็ไม่ได้มีความยากอะไร ช่างโง่เขลาและไม่หวาดหวั่นโดยแท้
“ไม่มีระดับขั้นที่สิบสาม!” เทพวายุพูดเสียงเย็นชาขึ้นมา
“อ้อ เช่นนั้นก็ขั้นที่สามก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ทำท่ายักไหล่ทีหนึ่ง หัวเราะและกล่าวว่า “แต่ว่า คนอย่างข้าชอบขั้นที่สิบสามมาโดยตลอด ตัวเลขสิบสามมีระดับมาก เหมาะกับคนอย่างข้ามาก”
เทพวายุเพียงจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง ถ้าหากเจ้าหนูคนนี้เป็นศิษย์สำนักเสินสิงเหมินพวกเขาล่ะก็ เข้าจะต้องกระทืบเขาตายคาเท้าแน่นอน ทั้งโอหัง ทั้งอวดดี ยิ่งกว่านั้นยังโง่เขลาอีก เจ้าหนูลักษณะเช่นนี้สารเลวชัดๆ
“ทำไมรึ เคล็ดลับโต่ว และเจ่อที่เป็นสองเคล็ดลับของราชวงศ์โต่วเซิ่น ลองดูสักหนึ่งไหม?” หลี่ชิเย่เหลือบมองเทพวายุทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวขึ้นมา
เทพวายะเพียงเหลือบมองเขาทีหนึ่ง รู้สึกเคืองๆ และกล่าวเยาะเย้ยว่า “เคล็ดลับโต่วและเจ่อทั้งสอง? อาศัยเจ้าน่ะหรือก็สามารถเข้าใจและนำมาใช้ได้?”
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มีเคล็ดลับอยู่เก้าคำ ได้แก่ หลิน ปิง โต่ว เจ่อ เจีย เจิ้น เลี่ย เฉียน สิง ประโยคดังกล่าวนี้เป็นสุดยอดเคล็ดลับสูงสุด มีตำนานเล่าว่า สุดยอดเคล็ดลับสูงสุดประโยคนี้สร้างขึ้นโดยปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่ แต่ก็มีคนคิดว่าเป้าผูเป็นผู้ทิ้งเอาไว้ให้
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของเคล็ดลับประโยคนี้ โดยอักษรเก้าคำนี้คือรากฐานของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมด
แต่ว่า ไม่มีสำนักใดๆ ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ที่สามารถมีเคล็ดลับเก้าคำนี้อยู่ในความครอบครองอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถมีคำใดคำหนึ่งก็นับว่าสุดยอดมากแล้ว
เฉกเช่นราชวงศ์โต่วเซิ่น มันมีคำว่า ‘โต่ว และ เจ่อ’ สองคำอยู่ในครอบครอง ดังนั้น จึงได้เรียกตัวเองว่าเป็นราชวงศ์โต่วเซิ่น
หรืออย่างสำนักเสินสิงเหมินของเทพวายุ พวกเขามีคำว่า ‘สิง’ ดังนั้น จึงได้ใช้ชื่อว่าสำนักเสินสิงเหมิน
การทีราชวงศ์โต่วเซิ่นสามารถแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ อาจกล่าวได้ว่าในระดับหนึ่งนั้นเป็นเพราะได้ครอบครอง ‘โต่ว และ เจ่อ’ เคล็ดลับสองคำดังกล่าว
ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่นั้น นอกเหนือจากราชวงศ์โต่วเซิ่นแล้ว อีกหนึ่งที่มีเคล็ดลับสองคำอยู่ความครอบครองก็คือวัดจิ้งเหลียนกวาน ส่วนผู้ยิ่งใหญ่รายอื่นๆ เช่น หอหลินไห่เก๋อ ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ แคว้นว่านเจิ้น…ล้วนแล้วแต่มีเคล็ดลับเพียงคำเดียวเท่านั้นเอง
เคล็ดลับโต่ว และเจ่อสองคำนี้คือหนึ่งในรากฐานที่ใหญ่ที่สุดของราชวงศ์โต่วเซิ่น ในราชวงศ์โต่วเซิ่นทั้งหมด ผู้ที่สามารถสัมผัสของเคล็ดลับคำว่าโต่วและเจ่อนั้นมีอยู่ไม่มาก แม้แต่ฮ่องเต้ที่เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวอย่างฮ่องแต้ไท่ชิง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทอดเคล็ดลับโต่ว และเจ่อนี้ให้กับหลี่ชิเย่ได้ตามใจปรารถนาได้
ดังนั้น เฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่มีทักษะอ่อนด้อยเช่นนี้ เทพวายุไม่มีทางที่จะเชื่อว่าเขาสามารถเข้าใจและนำเอาเคล็ดลับโต่ว และเจ่อสองคำนี้มาใช้ได้ เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นยังไม่มี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการฝึกแล้ว
“ไม่เชื่อก็ช่างเถอะ” หลี่ชิเย่ทำท่ายักไหล่ และยิ้มกล่าวอย่างตามอารมณ์
“ก่อนหน้านั้นจะอาศัยอยู่ที่ใด?” เทพวายุเอ่ยถามขึ้นขณะจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่
ความจริงแล้ว เทพวายุที่เป็นหนึ่งในห้าปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดก็รุ้สึกแปลกใจในชาติกำเนิดของหลี่ชิเย่ ที่พวกเขาสามารถคาดเดาได้ก็คือ หลี่ชิเย่น่าจะเป็นบุตรนอกสมรสของฮ่องแต้ไท่ชิง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ปัญหาเกิดขึ้นมาแล้ว ถ้าหากหลี่ชิเย่คือบุตรนอกสมรสของฮ่องแต้ไท่ชิง แล้วมารดาของเขาคือใคร? จะอย่างไรเสียเฉกเช่นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะอย่างฮ่องแต้ไท่ชิง ผู้หญิงที่สามารถเข้าตาเขาได้ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ประเภทสามัญชนทั่วๆ ไป ต้องเป็นผู้มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาแน่นอน
กระทั่งอาจกล่าวได้ว่า สำหรับบุตรนอกสมรสอย่างหลี่ชิเย่นั้น ภายในใจของห้าปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดก็รู้สึกแปลกใจ
เนื่องจากที่ทุกคนรู้มาก็คือ ฮ่องแต้ไท่ชิงมีบุตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือราชันแท้จริงจิ่วหนิง แต่ว่า นั่นมันเป็นเรื่องราวในยุคสมัยที่แล้ว
นับตั้งแต่ราชันแท้จริงจิ่วหนิงไปจากแดนลัทธิราชันแล้ว ฮ่องแต้ไท่ชิงก็ไม่เคยมีบุตรอีกเลย และข้างกายก็ไม่เคยมีผู้หญิง อีกทั้ง ดูจากอายุของหลี่ชิเย่แล้วก็แค่ยี่สิบกว่าเท่านั้นเอง
นี่แหละที่ทำให้ผู้คนคาดเดาว่า ช่วงยี่สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ ได้เกิดอะไรขึ้นกับฮ่องแต้ไท่ชิงกันแน่
“หล่นลงมาจากฟ้า” หลี่ชิเย่ทำท่ายักไหล่และชี้ไปบนฟ้า หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าไม่เคยได้ยินลูกรักของสวรรค์รึ? ข้าเป็นคนแบบนี้แหละ เป็นลูกรักของสวรรค์ ดังนั้น แต่ก่อนข้าย่อมอาศัยอยู่บนสวรรค์น่ะสิ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ข้าจะกลายเป็นฮ่องเต้ได้อย่างไรเล่า แล้วกลายเป็นฮ่องเต้โดยพลันได้อย่างไรเล่า ที่มีการพูดกันว่าเป็นโอรสจากการคัดเลือกของสวรรค์ คนที่ถูกพูดถึงนั่นก็คือข้า”
“พูดเพ้อเจ้อ!” เทพแท้จริงขั้นอมตะเช่นเทพวายุก็ถูกเขายั่วโมโหจนบันดาลโทสะไม่เบา อยากจะกระทืบให้แบน กล่าวเสียงเย็นชาว่า “โลกนี้ไหนเลยมีโอรสจากการคัดเลือกของสวรรค์กัน!”
“ก็ข้านี่แหละ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “วันนั้น ข้าอยู่บนสวรรค์ ทันใดนั้นไม่ทันระวังแล้วตกลงมา เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ข้ากระแทกเข้ากับกองทัพหยินมี่ พลันที่ฝ่าบาทมาเห็นเข้า ว้าว นี่คือโอรสจากการคัดเลือกของสวรรค์นะเนี่ย จะต้องนำพาความเจริญรุ่งเรืองให้กับราชวงศ์โต่วเซิ่นได้อย่างแน่นอน ดังนั้น จึงแต่งตั้งข้าเป็นรัชทายาททันที และยกแผ่นดินที่ดีงามให้กับข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...