ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2466

“เป็นเช่นนี้จริงๆ รึ? ” ครั้นหลิ่วชูฉิงได้สติกลับมา จ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยแน่ใจนัก

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา ใช้นิ้วดีดเส้นผมบนหน้าผากของนางเบาๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เด็กโง่ ใช่ว่าเจ้าจะไม่มีความกล้า ยิ่งหาใช่ไม่ได้มีจิตที่ไม่หวาดหวั่นดวงหนึ่ง ที่ว่าตนเองเป็นคนไม่กล้านั้น เป็นเพราะเจ้าเองขี้อายเท่านั้นเอง ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง สิ่งที่เจ้าขาดไปเป็นเพียงประสบการณ์ที่โชกโชนเท่านั้น”

“เป็นความจริงรึ? ” หลิ่วชูฉิงรู้สึกตื่นตระหนกตกใจระคนกับความดีใจน้อยๆ และเอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง

“วางใจเถอะ ข้าไม่หลอกเจ้าอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า “ถ้าหากว่าเจ้าไม่มีความกล้าหาญ ไม่มีจิตที่ไม่หวาดหวั่นดวงนั้น เจ้าก็จะไม่มายืนอยู่ตรงนี้ในเวลานี้ ผู้ที่มีสัญญาหมั้นหมายกับข้าในวันนั้นใช่ว่ามีเพียงเจ้าเท่านั้น มีองค์หญิงของห้าสำนักใหญ่ แต่ว่า ผู้ที่มายืนอยู่ตรงหน้าของข้าในเวลานี้ก็มีเพียงเจ้าเท่านั้น”

“สิ่งนี้ไม่เพียงเพราะเจ้าเซ่อซ่าจนดูน่ารักเท่านั้น” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ยังเป็นเพราะเจ้าไปเผชิญหน้ากับมันตรงๆ ไม่หลบเลี่ยงมัน และไม่ปฏิเสธมัน เจ้าเลือกที่จะหลีกหนีกับการหมั้นหมายในลักษณะเช่นนี้ได้ และสามารถเลือกที่จะปฏิเสธมัน กระทั่งสามารถทำหน้าไหว้หลังหลอกได้ แต่ว่า บ่อยครั้งอยู่เสมอที่จะต้องไปยอมรับเรื่องที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง ไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ต้องการไปเผชิญหน้านั้น มันจำเป็นต้องอาศัยความกล้าอย่างยิ่งทีเดียว”

“เจ้าสามารถไปเผชิญหน้ากับมัน ยินดีไปยอมรับมัน กระทั่งไปเปลี่ยนแปลงมัน” ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้ มองดูหลิ่วชูฉิงแล้วกล่าวว่า “แน่นอน สิ่งนี้ก็เป็นเพราะเจ้าโง่เขลา ขณะเดียวกันก็เพราะเจ้ามีความกล้าตรงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหัวใจที่ไม่หวาดหวั่นอยู่ดวงหนึ่ง”

“เกลียดนักเชียว ข้า ข้า ข้าไม่โง่น่ะ” หลิ่วชูฉิงถูกว่าจนเขินยิ่งนัก กระทืบเท้าเบาๆ ทีหนึ่ง ท่าทางเอียงอายอยู่เจ็ดส่วน ออดอ้อนฉอเลาะอยู่สามส่วน งดงามปราศจากผู้เทียบเทียม เสมือนหนึ่งเป็นภรรยาตัวน้อยๆ ที่น่ารักคนหนึ่ง

หลี่ชิเย่ก็แค่ยิ้มๆ นิดหนึ่งเท่านั้น จ้องมองไปยังสถานที่ที่ห่างไกลออกไป

“แต่ว่า มีบางสิ่งสามารถขัดเกลาได้อยู่แล้ว บางอย่างสามารถขัดเงาได้” หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่ได้ละสายตากลับมาและยิ้มกล่าว

“ขัดเงาต้องทำอย่างไร? ” หลิ่วชูฉิงเอ่ยถามด้วยความงุนงง

“ไม่มีใครเกิดมาก็มีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งมาแต่กำเนิดอยู่แล้ว ถ้าหากสามารถมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งไม่สั่นคลอนดวงหนึ่งมาแต่กำเนิดล่ะก็ นั่นคือผู้มีใจแกร่งดั่งเหล็กเพชร ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งที่เกิดจากการสั่งสมมาเรื่อยๆ ผ่านการลังเล ผ่านการรู้สึกขี่ขลาดตาขาว และผ่านการหวั่นไหว…แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วยังคงยืนหยัดต่อไปเรื่อยๆ ความแข็งแกร่งของจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรต้องมีเป็นขั้นเป็นตอน หาใช่ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า”

เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้จ้องมองดูหลิ่วชูฉิง หัวเราะและกล่าวว่า “สิ่งนี้เสมือนดั่งความกล้าหาญ ยามที่เจ้ารู้สึกขลาดกลัวนั้น ยามที่ภายในใจของเจ้าเกิดความท้อถอยขึ้นมา ภายในใจของเจ้าก็จะปลุกเร้าความกล้าขึ้นมา ให้เจ้าไปเผชิญหน้ากับมันอย่างกล้าหาญ ให้เจ้าได้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า”

“ถูกต้อง” หลิ่วชูฉิงถึงกับฟังจนเหม่อลอยกับคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ขณะที่นางมาปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายในครั้งนี้ นางคิดจะหลบหนี และท้อถอยอยู่หลายครั้งขณะอยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ หลายครั้งที่รู้สึกขลาดกลัว แต่ว่า สุดท้ายแล้ว ภายในใจของนางยังคงปลุกเร้าความกล้าขึ้นมาในขั้นตอนสุดท้าย ทำให้นางก้าวเดินไป่ข้างหน้าต่อไป

“ดังนั้น ที่เจ้าต้องการคือการขัดเกลาอีกสักนิด” หลี่ชิเย่ที่แฝงไว้ซึ่งรอยยิ้มจ้องมองดูหลิ่วชูฉิง และกล่าวว่า “ที่ข้ามีเคล็ดลับอยู่แขนงหนึ่งซึ่งจะมีประโยชน์ต่อเจ้า แม้ว่ามันไม่สามารถทำให้เจ้าปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า และไม่สามารถทำให้การฝึกปรือของเจ้าก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่มันกลับสามารถทำให้เจ้าบังเกิดความกล้าหาญขึ้นภายในใจ ทำให้เจ้ามีพลังที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ”

“โลกนี้มีเคล็ดวิชาเช่นนี้อยู่จริงหรือ? ”หลิ่วชูฉิงที่ได้ยินถึงกับเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“ทำไมถึงไม่มี? ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “มนุษย์ปุถุชนธรรมดาศึกษาพุทธเพื่ออะไร เพื่อพระธรรมหรือว่าเพื่อเป็นพระอรหันต์? พระธรรมไร้ขอบเขต มันสามารถช่วยให้เจ้าไปยังอภินิหารยิ่งใหญ่ ขณะที่เป็นพระอรหันต์ทำให้เจ้าไม่หวั่นไหวต่อทุกสรรพสิ่ง พุทธจิตไม่แตกดับ เจ้าคิดว่าพระธรรมไร้ขอบเขตแข็งแกร่งกว่า หรือว่าพุทธจิตไม่แตกดับแข็งแกร่งกว่า? ”

เรื่องนี้…หลิ่วชูฉิงไม่สามารถตอบได้ในเวลานี้

“เรื่องนี้ต้องไล่ย้อนกลับไปยังหลักฐานอ้างอิงการฝึกบำเพ็ญเพียร การฝึกบำเพ็ญเพียรเพื่อต้องการอภินิหารที่ปราศจากผู้ต่อกร หรือต้องการจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ไม่แตกดับกันแน่” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมย

หลิ่วชูฉิง ตะลึงงันอยู่ตรงนั้น เนื่องจากคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ได้เปิดประตูที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมาบานหนึ่ง ทำให้นางได้มองเห็นโลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมด

“การเป็นราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรคนหนึ่งไม่ยาก แต่ทว่า ต้องการกลายเป็นราชันแท้จริงที่มีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่แตกดับก็คงยากแล้วล่ะ ในหนึ่งศตวรรษก็ไม่แน่ว่าสามารถให้กำเนิดผู้ดำรงอยู่ในฐานะมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่แตกดับสักคน” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เมื่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้าไม่แตกดับ ทุกสรรพสิ่งในโลกไหนเลยทำให้เจ้าหวั่นไหวได้ แม้ว่าฟ้าดินจะแตกสลายเจ้าก็ยังคงอยู่เป็นนิรันดร์ แม้แต่ฟ้าดินถูกทำลายพินาศย่อยยับเจ้ายังคงสามารถคงอยู่เป็นนิรันดร์ เจ้าลองนึกดู เป็นวิถีแห่งการบำเพ็ญเพียรแกร่งกว่า หรือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรแกร่งกว่ากัน? วิถีแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่สามารถทำให้เจ้าไม่ดับสลายเป็นนิรันดร์ แต่ว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรกลับสามารถทำให้เจ้าไม่ดับสลายได้เป็นนิรันดร์! ”

เมื่อหลี่ชิเย่ได้อธิบายและบอกเล่าด้วยมุมมองที่ใหม่ทั้งหมดเช่นนี้ ทำให้หลิ่วชูฉิงรับฟังจนเหม่อโดยพลัน ในพริบตาเดียวนั่นเองเสมือนดั่งมีโลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมดปรากฏอยู่ตรงหน้าของนาง โดยที่โลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมดได้เปล่งรัศมีออกมา อีกทั้งโลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมดเช่นนี้ไม่เคยมีใครถ่ายทอดให้กับนางมาก่อน และไม่เคยมีใครบรรยายกับนางมาก่อน

สำหรับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่นั้น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงส่ายหน้าด้วยความระอา กระทั่งมีผู้ที่คิดว่านี่เป็นเพียงคำพูดที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเท่านั้นเอง ไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึง

แต่ว่าหลิ่วชูฉิงนั้นแตกต่าง นางมีจิตใจที่บริสุทธิ์ดวงหนึ่ง ไร้เดียงสาแต่มีสติปัญญาฉลาด ความโชคดีของนางนั้นหาใช่พวกที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว นางจึงเป็นผู้ที่มีความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

เมื่อนางได้ฟังคำบอกเล่าเช่นนี้จากหลี่ชิเย่แล้ว ทำให้นางพลันหลงใหลไปกับวิธีการพูดเช่นนี้ กล่าวสำหรับนางแล้วนี่คืออาณาจักรที่ใหม่ทั้งหมด

“เป็นไปได้จริงๆ รึ? ” ไม่ง่ายนักกว่าหลิ่วชูฉิงจะได้สติกลับมา จึงเอ่ยขึ้นมาเบาๆ

“กล่าวสำหรับข้าแล้วมีอะไรที่ไม่ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ฟังให้ดี ข้าจะถ่ายทอดเคล็ดลับกับเจ้า เจ้าไปพินิจพิเคราะห์และฝึกปรือให้ดีก็แล้วกัน มีอะไรไม่เข้าใจมาถามข้า” กล่าวพลางได้ถ่ายทอดเคล็ดลับบทหนึ่งให้กับหลิ่วชูฉิง

หลิ่วชูฉิงฟังอย่างตั้งใจ โดยจดจำเคล็ดลับที่หลี่ชิเย่ถ่ายทอดให้ทุกตัวอักษร ไม่ปล่อยให้ข้อปลีกย่อยใดๆ พลาดหลุดรอดไปได้

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่ใยดีและส่ายหน้าด้วยความระอา สมควรทราบว่า หลิ่วชูฉิงนั้นมีชาติกำเนิดมาจากหอหลินไห่เก๋อ ในฐานะที่เป็นองค์หญิงแห่งหอหลินไห่เก๋อ นางได้ฝึกปรือเคล็ดวิชาที่ลึกซึ้งและยอดเยี่ยมที่สุดของหอหลินไห่เก๋อมา กระทั่งได้ฝึกปรือ ‘เคล็ดวิชาหลินมี่’ หนึ่งในเก้าเคล็ดวิชาจิ่วมี่ที่ผู้คนใฝ่ฝันถึง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล