ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2484

สรุปบท ตอนที่ 2484 แค่มดปลวกเท่านั้นเอง: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 2484 แค่มดปลวกเท่านั้นเอง จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2484 แค่มดปลวกเท่านั้นเอง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2484 แค่มดปลวกเท่านั้นเอง
บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อได้ยินคำบอกเล่าเช่นนี้จากหลี่ชิเย่ ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ จากนั้น คนบางส่วนหัวเราะลั่นขึ้นมา

“คุกเข่ากราบ? หรือเจ้าคิดอยากจะเป็นฮ่องเต้จนบ้าไปแล้ว ต่อให้อดีตเจ้าเป็นฮ่องเต้ เวลานี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว อาศัยอะไรให้พวกเราคุกเข่ากราบ ฮ่องเต้อย่างเจ้าเป็นเพียงในนามเท่านั้น” ในเวลานี้มีผู้ที่อดหัวเราะเสียงดังและพูดขึ้นมาไม่ได้

“ฝ่าบาท ต้องการให้พวกเรากราบสามครั้ง คำนับเก้าครั้งกับท่านหรือไม่เล่า” และมีผู้ที่หัวเราะเยาะและพูดขึ้นมา

หลี่ชิเย่นั่งตัวตรงอยู่ที่ตรงนั้น ไม่แสดงอาการโกรธแม้แต่น้อยกับคำพูดเช่นนี้ ท่าทางสงบนิ่งมาก ออกจะดูนุ่มนวลมากเป็นพิเศษ และกล่าวว่า “คนโง่เขลาไม่คู่ควรให้สงสารตลอดมา วันนี้สมสควรดื่มเลือดให้อิ่มหนำสักมื้อแล้วล่ะ ควรเป็นเวลาที่ข้าต้องเข่นฆ่าครั้งใหญ่เสียแล้ว”

“เข่นฆ่าครั้งใหญ่” เวลานี้หม่าจินหมิงหัวเราะเยาะทีหนึ่ง เผยปณิธานการฆ่าออกมา กล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นมาว่า “เวลานี้ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ยังจะพูดถึงเรื่องเข่นฆ่าครั้งใหญ่อะไรนั่น คิดว่าจะหาทางเอาชีวิตรอดไปจากที่นี่เสียก่อนจะดีกว่า”

หลี่ชิเย่ไม่รู้สึกเหนือความคาดคิดแม้แต่น้อยสำหรับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหม่าจินหมิง ยิ้มกล่าวว่า “พูดแบบนี้ เจ้าคิดอยากจะฆ่าข้าน่ะสิ”

“เจ้าว่าล่ะ?” หม่าจินหมิงก้าวขึ้นบันไดหินทีละก้าวๆ แววตาดูน่าครั่นคร้าม กล่าวน่าเกรงขามว่า “หนึ่งชีวิตชดใช้ด้วยหนึ่งชีวิต เจ้าสังหารน้องของข้า วันนี้ข้าจะแก้แค้นแทนเขา!”

แน่นอน หม่าจินหมิงไม่เพียงแค่ต้องการแก้แค้นให้กับเจิงยี่ปิงน้องของเขาเท่านั้น ต่อให้เป็นบุญคุณความแค้นส่วนตัว เขาก็จะเอาชีวิตของหลี่ชิเย่เช่นเดียวกัน

“ดูท่าพี่หม่าจะเร็วกว่าข้าก้าวหนึ่ง” เมื่อหยางฟู่ฝานเห็นหม่าจินหมิงก้าวขึ้นบันไดถึงกับหัวเราะและกล่าวว่า “ข้ากำลังคิดจะสั่งสอนคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำสักหน่อยนะเนี่ย เวลานี้มีพี่หม่าลงมือให้กับพวกเรา ระบายความคับแค้นใจให้ ข้าก็ได้แต่หลีกทางยกให้พี่หม่าแล้ว”

หยางฟู่ฝานเอ่ยขึ้นช้าๆ เหมือนว่าหลี่ชิเย่ก็คือเนื้อบนเขียงแล้ว คิดอยากจะเชือดเฉือนอย่างไรก็ได้

“พี่หยางโปรดวางใจ” หม่าจินหมิงหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “ถ้าหากพี่หยางอยากจะระบายความแค้นสักหน่อย ข้าก็จะเผื่อโอกาสนั้นให้พี่อยู่แล้ว ถึงเวลานั้น พี่หยางจะตัดแขนตัดขาอะไรประมาณนั้นล่ะก็ข้าไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย”

“หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าก็ขอขอบคุณพี่หม่าล่วงหน้าแล้ว” หยางฟู่ฝานหัวเราะออกมาและรีบแสดงคารวะแบบจีน

เวลานี้พวกเขาพูดคุยอย่างสนุกสนาน เหมือนว่าพร้อมที่จะเล่นงานหลี่ชิเย่ให้ถึงตายได้ทุกเวลาอย่างนั้น

“พวกเจ้าทั้งสองคนไม่ต้องทำเป็นวางมาดอยู่ตรงนั้น เข้ามาพร้อมกันทีเดียวสองคนก็แล้วกัน ข้าจะส่งพวกเจ้าลงนรก” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงมากนัก”

“เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย!” สีหน้าของหม่าจินหมิงเปลี่ยนไป กระโดดขึ้นมาและมุ่งตรงไปยังหลี่ชิเย่

เสียงปังเสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่หม่าจินหมิงกระโดดขึ้นมานั้น ทันใดนั้นปรากฎเท้าขนาดใหญ่ได้กระทืบลงมา จังหวะที่เท้าขนาดใหญ่กระทืบลงมานั้น เสมือนดั่งเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่สยบลงมา

ร่างกายของของหม่าจินหมิงดั่งมังกรเจียวหลงที่พุ่งสวนขึ้นไป ดุจดั่งมัจฉากระโดดข้ามประตูมังกร หลบหลีกเท้าข้างนั้นที่กระทืบลงมาได้โดยพลัน

เท้าที่กระทืบใส่หม่าจินหมิงกะทันหันนี้ไม่ได้เป็นการลงมือจากหลี่ชิเย่ แต่เป็นรูปปั้นองครักษ์หินตัวหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างของบันไดหินเป็นผู้ลงมือ การที่องครักษ์หินตัวนี้ยกเท้าเหยียบกระทืบเข้ามา เสมือนดั่งเป็นมนุษย์ยักษ์ตัวหนึ่งอย่างนั้น ประดุจเป็นองครักษ์ผู้พิทักษ์ ใครก็ตามหากไม่ให้ความเคารพล่ะก็ ฆ่าไม่มีละเว้น!

การที่องครักษ์หินมีการเคลื่อนไหวได้อย่างกะทันหัน และใช้เท้าข้างหนึ่งที่กระทืบลงมานั้น ทำเอาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดตกใจเป็นยิ่งนัก หลายคนต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความตระหนก

ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หม่าจินหมิงเพิ่งจะหลบพ้นจากเท้าข้างหนึ่งที่เหยียบลงมานั้น ทันใดนั้นองครักษ์หินตัวที่สองพลันดึงขวานสองคมหินขึ้นมาในทันใด ขวานสองคมหินที่เหนือท้องฟ้าได้พุ่งแหวกอากาศเสมือนดั่งสายฟ้าแลบที่พุ่งใส่หน้าอกของหม่าจินหมิง

“ทำลาย” หม่าจินหมิงร้องคำรามเสียงดัง มือสองข้างที่ขวางออกไปปรากฏเป็นสากตำข้าวขนาดใหญ่ในมือ และทุบเข้าไปยังขวานสองคมที่ทิ่มแทงเข้ามา หวังทุบขวานสองคมหินให้แหลกละเอียด

เสียงปังดังสนั่น เมื่อขวานสองคมหินเข้าปะทะซึ่งหน้ากับสากตำข้าวขนาดใหญ่ สะเก็ดไฟแตกกระจัดกระจาย มันไม่ได้เป็นไปตามที่หม่าจินหมิงจินตนาการเอาไว้อย่างนั้นว่าสามารถทุบขวานสองคมหินให้แหลกละเอียดไป

ตรงกันข้าม เสียงปังที่ดังขึ้น ปรากฎว่าหม่าจินหมิงที่กระโดดขึ้นถูกแรงกระแทกจากขวานสองคมหินจนร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ต่อให้สากยักษ์ของเขาจะมีน้ำหนักมากถึงหนึ่งร้อยห้าสิบตันก็สู้ขวานสองคมหินนั้นไม่ได้ ท่ามกลางเสียงดังปังเสียงนี้ ร่างของเขากระแทกเข้ากับบันไดหินอย่างแรง

ตูม…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หม่าจินหมิงยังไม่ทันได้ลุกขึ้นมา องครักษ์หินที่ลงมือเป็นตัวแรกก็ได้ยกเท้ากระทืบลงมา

ขึ้นสีหน้าของหม่าจินหมิงเปลี่ยนไปมากทีเดียว มือทั้งสองข้างยกขึ้น ปรากฏโล่วิเศษบนมือ หวังอาศัยสิ่งนี้ป้องกันเท้าข้างนั้นที่กระทืบลงมาอย่างแรง

ปังเท้าขนาดใหญ่ได้เหยียบลงบนโล่วิเศษอย่างแรง เสียงกระทบกันดังจนทุกคนแก้วหูแทบแตก

คร๊ากกกเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง บันไดหินที่อยู่ติดกับแผ่นหลังของหม่าจินหมิงถึงกับปรากฎรอยแยกขึ้นมา กล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างของเขานูนขึ้น ต้านรับกับเท้าขนาดใหญ่ที่กำลังเหยียบลงมาบนโล่วิเศษสุดแรงเกิด ในขณะนี้ หม่าจินหมิงได้อาศัยพลังที่มีอยู่ทั้งหมดไปแล้ว แต่ทว่า ยังคงดูเหมือนไม่อาจต้านเอาไว้ได้ เท้าขนาดใหญ่ที่เหยียบบนโล่วิเศษค่อยๆ เหยียบลงไปถึงหน้าอกของเขาแล้ว

ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนที่ได้มองเห็นภาพนี้แล้วถึงกับใจหายใจคว่ำ การที่องครักษ์หินมีชีวิตขึ้นมาอย่างกะทันหันก็ทำเอาทุกคนตระหนกตกใจกันยกใหญ่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าองครักษ์หินที่มีชีวิตขึ้นมาถึงกับแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้ สามารถโจมตีหม่าจินหมิงล้มลงกับพื้นในชั่วพริบตาเดียว

ปัง ปัง ปังเสียงแตกละเอียดดังขึ้น แม้ว่าโล่กระบี่ของหยางฟู่ฝานจะมีความหนาและหนัก แม้ว่าจะมีม่านกระบี่ที่ดั่งคลื่นยักษ์ ก็ไม่สามารถต้านทานกับขวานสองคมหินทั้งสามเล่มที่ทิ่มแทงเข้ามา เพียงชั่วพริบตาเดียวโล่กระบี่ยักษ์กับม่านกระบี่ก็ถูกขวานสองคมหินโจมตีจนทะลุ

“แย่แล้ว…” สีหน้าของหยางฟู่ฝานเปลี่ยนไปมากทีเดียว ร่างของเขาดั่งมังกรแท้จริงที่พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว หวังอาศัยขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วหลบหนีไป

ฉึกเสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หยางฟู่ฝานกำลังคิดจะหลบหนีไปนั้น ปรากฏขวานสองคมหินเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขาอย่างเงียบเชียบ ขวานสองคมที่ดั่งสายฟ้าแลบพลันทิ่มแทงเข้าไป

ไม่หยางฟู่ฝานรู้สึกตระหนกยิ่งนัก หวังจะหลบหลีกให้พ้น แต่มันสายเกินไปเสียแล้ว ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่งดังขึ้น เลือดสดๆ แตกกระจาย ขณะทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมา ได้ยินเสียงดังปังขวานสองคมหินวกกลับและพุ่งจากท้องฟ้าลงมา และพาตัวหยางฟู่ฝานไปตรึงเอาไว้บนบันไดหิน

เสียงปังเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง โล่วิเศษของหม่าจินหมิงแตกละเอียด ได้ยินเสียงดังคร๊ากกขึ้นมา เท้าขององครักษ์หินได้เหยียบลงบนอกของหม่าจินหมิงอย่างแรง

อ๊ากกกเสียงร้องที่น่าเวทนาดังขึ้น หม่าจินหมิงร้องน่าเวทนาพร้อมกับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ภายใต้เท้าข้างหนึ่งนั่น ได้ทำให้หน้าอกของเขาถูกเหยียบจนละเอียด เลือดสดๆ ไหลย้อมจนเสื้อผ้าของเขาแดงฉาน

เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หม่าจินหมิงถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า หยางฟู่ฝานถูกตรึงเอาไว้กับบันไดหิน เลือดสดๆ ไหลรินไปตามขั้นบันได ย้อมบันไดจนกลายเป็นสีแดงทีละขั้นๆ

“น่าสยองขวัญเหลือเกิน” ทุกคนต่างรู้สึกหวาดผวาเมื่อได้เห็นภาพนี้เข้า ถึงกับก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

ในบรรดาพวกเขา หม่าจินหมิงกับหยางฟู่ฝานคือหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน แต่ว่า ในพริบตาเดียวเท่านั้นก็พ่ายแพ้อยู่ตรงนั้น คนหนึ่งถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า คนหนึ่งถูกตรึงเอาไว้กับพื้น ช่างเป็นภาพที่น่าสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจได้มากเหลือเกิน

“ช่างน่าเบื่อเสียจริง” หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้หินถึงกับตบปากพร้อมกับทำท่าหาวขึ้นมา กล่าวด้วยความเบื่อหน่ายว่า “แค่มดปลวกฝูงหนึ่งเท่านั้น แม้แต่ให้ข้าลงมือด้วยตนเองก็ยังไม่มีอารมณ์”

ในขณะนี้ ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงัดอย่างยิ่ง ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรบรรดาองครักษ์หินที่ยืนอยู่ด้านซ้ายขวาสองด้านถึงได้มีชีวิตขึ้นมาได้กะทันหัน อีกทั้งยังแข็งแกร่งและน่าสยองขวัญได้ถึงเพียงนี้

เวลานี้สีหน้าของทุกคนล้วนแล้วแต่ขาวซีด

ในเวลานี้เอง ผู้ที่มีปฏิกิริยาโต้ตอบมากที่สุดคือทังเฮ่อเสียง เขาได้ล่าถอยไปทันทีที่เห็นองครักษ์หินเอาชนะหยางฟู่ฝาน ขณะที่ทุกคนกำลังหวั่นไหวจนเหม่อลอยอยู่นั้น ทังเฮ่อเสียงได้ถอนตัวออกไปจากป่าหินเรียบร้อยแล้ว ด้วยความว่องไวอย่างยิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล