ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2492

สรุปบท ตอนที่ 2492 ยกตนข่มท่าน: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 2492 ยกตนข่มท่าน จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2492 ยกตนข่มท่าน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2492 ยกตนข่มท่าน
“ฝ่าบาท แย่แล้ว แม่ทัพหม่านำกองทัพนับล้านมา ขณะนี้มาถึงด้านหน้าของเขาจิ่วเหลียนซานแล้ว” พลันที่หลิ่วชูฉิงทราบข่าวรู้สึกตระหนก จึงรีบแจ้งข่าวต่อหลี่ชิเย่ทันที

หลี่ชิเย่มีท่าทีเฉยเมย แค่เลิกหนังตาทีหนึ่ง และมองไปที่เส้นขอบฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไป ท่าทางไม่ได้ใส่ใจโดยสิ้นเชิง ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “กองทัพนับล้านมากันได้นับเป็นเรื่องดี ข้ากลับอยากจะเข่นฆ่าสักล้านหนึ่งให้เลือดไหลนองรวมกันเป็นธาร เล่นบทเข่นฆ่าครั้งใหญ่อะไรนั่น จะได้สมฐานะความเป็นฮ่องเต้โหดของข้า”

“เกรงว่าสองแขนยากจะต้านสี่กร” หลิ่วชูฉิงยังคงเป็นกังวลแทนหลี่ชิเย่ จะอย่างไรเสียด้านหลังของหม่าหมิงชุนยังมีหกกองทัพคอยให้การสนับสนุนอยู่ ด้วยกำลังเช่นนี้เพียงพอที่จะท้ารบกับหนึ่งในห้าแกร่งใดๆ ก็ได้

“เด็กโง่” หลี่ชิเย่ดีดดั้งจมูกโด่งน้อยๆ ของนาง ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “บนโลกใบนี้ คนหมู่มากแทนอะไรไม่ได้ อย่างมากก็แค่เพิ่มศพขึ้นอีกศพหนึ่งเท่านั้น ทุกคนสามารถบีบฮ่องเต้ชั่วอย่างข้าได้ตามใจอย่างนั้นรึ? วางใจเถอะ อย่าว่าแต่ลำพังแค่กองทัพส่วนกลางเท่านั้น ต่อให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เข้ามาพร้อมๆ กัน ข้าก็ไม่ได้เห็นอยู่ในสายตา”

หลิ่วชูฉิงทำจมูกย่นท่าทางดูน่ารักนิดหนึ่ง แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ดูจากท่าทางของนางแล้วยังคงมีร่องรอยความกังวลอยู่บ้าง

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ และไม่ได้พูดอะไรต่อ

ด้านนอกเขาจิ่วเหลียนซาน หม่าหมิงชุนได้ตั้งกำลังทหารนับล้านอยู่ที่ตรงนั้น โดยเฉพาะหม่าหมิงชุนเองได้ก้าวออกมาร้องท้าทายด้วยตนเอง แต่ทว่า เขาจิ่วเหลียนซานยังคงเงียบสงัดไม่มีผู้ใดออกมาตอบโต้แม้แต่คนเดียว

ภายใต้ท่าทีของเขาจิ่วเหลียนซานที่ไม่มีผู้ใดที่สังกัดเป็นศิษย์ของเขาจิ่วเหลียนซานออกมาตอบโต้ เหมือนว่าไม่เคยมีเรื่องใดๆ เกิดขึ้นอย่างนั้น แท้ว่ากองทัพนับล้านยกมาประชิด ทางเขาจิ่วเหลียนซานก็ปราศจากความเคลื่อนไหวใดๆ

แม้แต่ชายวัยกลางคนที่อยู่บริเวณประตูทางเข้าสำนักก็นั่งอยู่ในบ้านไม้ ด้วยท่าทางสะลืมสะลือท่ามกลางแดดที่ร้อนแผดเผา กำลังนั่งสัปหงกอยู่ตรงนั้น

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้ากันและกันเมื่อเห็นว่าเขาจิ่วเหลียนซานมีแต่ความเงียบสงัด ไม่มีศิษย์คนใดที่ก้าวเดินออกมา

“เจ้าสำนักของเขาจิ่วเหลียนซานไปไหนเสียล่ะ? ชั่วดีอย่างไรก็ควรให้ศิษย์ออกมาสักคน” มีผู้พึมพำออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าเขาจิ่วเหลียนซานไม่มีศิษย์คนใดคนหนึ่งก้าวออกมา

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนไหนที่เป็นศิษย์เขาจิ่วเหลียนซานที่แท้จริง? เจ้าเคยพบเห็นเจ้าสำนักของเขาจิ่วเหลียนซานหรือไม่?” ยอดฝีมือรุ่นอาวุถามกลับ

การถามกลับในลักษณะเช่นนี้ พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับตะลึงงัน และถึงกับอึ้งในเวลานี้

“บอกตามตรง นับว่ายากที่จะแยกแยะว่าคนไหนที่เป็นศิษย์เขาจิ่วเหลียนซานที่แท้จริง เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีผู้บำเพ็ญตนจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่จำนวนไม่น้อยมาบรรลุสัจธรรมที่เขาจิ่วเหลียนซาน กระทั่งมีบางคนได้มาอาศัยอยู่ในเขาจิ่วเหลียนซานรวดเดียวหลายปี กระทั่งหลายสิบปี อีกทั้งพื้นที่ของเขาจิ่วเหลียนซานกว้างขวางเช่นนี้ ใครเล่าจะไปรู้ว่าผู้บำเพ็ญตนคนไหนที่เป็นศิษย์ของเขาจิ่วเหลียนซานที่แท้จริง”

สำหรับเจ้าสำนักของเขาจิ่วเหลียนซานนั้น เหมือนว่าไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน อีกทั้งดูเหมือนเจ้าสำนักของเขาจิ่วเหลียนซานจะไม่เคยเผยโฉมมาก่อน

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกเหม่อลอย ความจริงแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่รู้ว่าใครคือศิษย์ของเขาจิ่วเหลียนซานที่แท้จริง และหรือเคยพบเห็นเจ้าสำนักเขาจิ่วเหลียนซานจริงๆ นั้นคงมีอยู่ไม่กี่คน

สีหน้าของหม่าหมิงชุนดูบึ้งตึง เขาน่ะคือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเลยเชียวนะ ทอดสายตามองออกไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่าเขานั้น อาศัยนิ้วห้านิ้วก็นับได้หมด อีกทั้งเขามีกองทัพส่วนกลางอยู่ในมือ ยิ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอื่นๆ ทั้งห้ากองทัพ

อาศัยธาตุแท้ภายในที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ อย่าว่าแต่สำนักเจ้าลัทธิทั่วไปเลย แม้แต่หนึ่งในห้าแกร่งใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องให้เกียรติเขาอยู่สามส่วน ตัวของหม่าหมิงชุนเป็นผู้ที่สามารถบงการสถานการณ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้

แต่ทว่า มาวันนี้เขายกทัพใหญ่มาประชิด และร้องท้าทายเขาจิ่วเหลียนซาน ปรากฏว่าเขาจิ่วเหลียนซานกลับไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย มันเป็นการหยามเขาอย่างโจ่งแจ้งชัดๆ ไม่มองเขาอยู่ในสายตาเลย

หม่าหมิงชุนในฐานะผู้ดำรงอยู่สถานะเช่นนี้ หากจะบอกว่าภายในใจของเขาไม่บังเกิดความโกรธเลยแม้แต่น้อยย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น บุตรชายของเขาเพิ่งถูกฮ่องเต้องค์ใหม่สังหารไปได้ไม่นาน ซึ่งเป็นบุตรโทนของเขาที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ในเวลานี้เขาจึงเรียกได้ว่ามีเพลิงโกรธสุมอยู่เต็มอก

ดังนั้น นาทีนี้หม่าหมิงชุนที่มีเพลิงแห่งความโกรธสุมเต็มอกจึงมีสีหน้าบึ้งตึง กล่าวน่าเกรงขามขึ้นว่า “ขอถามเขาจิ่วเหลียนซานจะเอาแต่ให้การปกป้องคนแซ่หลี่อย่างเดียวเลยใช่หรือไม่? เอาแต่เป็นศัตรูกับผู้ผู้คนทั่วหล้าอย่างเดียวเช่นนั้นรึ?”

แม้ว่าเวลานี้หม่าหมิงชุนจะมีเพลิงโกรธที่สุมอยู่เต็มอก คำพูดค่อนข้างตรง แต่ยังคงใช้คำว่า ‘ขอ’ ในคำพูด จะอย่างไรเสีย เขาจิ่วเหลียนซานยังคงมีความสำคัญในใจของผู้คนจำนวนมาก

ถึงแม้ว่าหม่าหมิงชุนในขณะนี้จะมีเพลิงโกรธที่สุมอยู่เต็มอก เหมือนหากคุยกันไม่เข้าหูก็จะส่งกำลังทหารบุกเข้าไปในเขาจิ่วเหลียนซานอย่างนั้น แต่ทว่าเขาจิ่วเหลียนซานยังคงเงียบสงบ ไม่มีใครก้องออกมาตอบหม่าหมิงชุนสักคน ไม่ปรากฏกระทั่งศิษย์ธรรมดาๆ สักคน เหมือนว่าเขาจิ่วเหลียนซานขี้คร้านจะไปตอบหม่าหมิงชุนอย่างนั้น

“หากเป็นเช่นนี้ ข้าเองก็ได้เจรจาด้วยเหตุด้วยผลแล้วค่อยใช้กำลัง ข้าได้ปฏิบัติตามธรรมเนียมอย่างเต็มที่แล้ว อย่าหาว่าข้าไม่ให้ความเคารพก็แล้วกัน” ภายใต้การร้องท้าทายเช่นนี้ของตนนับว่าได้ให้ความเคารพนับถือต่อเขาจิ่วเหลียนซานมากแล้ว แต่ทว่า เขาจิ่วเหลียนซานกลับไม่สนใจใยดี หม่าหมิงชุนที่เดิมเพลิงโกรธสุมเต็มอกอยู่แล้วพลันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นอย่างรุนแรง

ในเวลานี้เอง หม่าหมิงชุนไม่เพียงถูกเพลิงความโกรธที่ต้องการแก้แค้นสุมอยู่เต็มอก ขณะเดียวกันก็ถูกการเหยียดหยามจากเขาจิ่วเหลียนซานทำให้บังเกิดเป็นเพลิงความโกรธที่ดั่งคลื่นยักษ์ขึ้นมา

“ตั้งค่าย…” ในขณะนี้ ดวงตาทั้งสองของหม่าหมิงชุนดูไม่เป็นมิตร เผยให้เห็นปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวขึ้นมาสบัดมือทีหนึ่ง ร้องตวาดเสียงทุ้มต่ำออกมา

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกผิดหวัง เมื่อมองเห็นภายใต้การเข้าแทรกแซงของทังเฮ่อเสียง กองทัพนับล้านของหม่าหมิงชุนไม่ได้บุกตีเขาจิ่วเหลียนซานในทันที จะอย่างไรเสีย ภายในใจของผู้คนจำนวนมากยังต้องการได้เห็นว่าเขาจิ่วเหลียนซานมีธาตุแท้ภายในอย่างไรกันแน่

หลังจากที่หม่าหมิงชุนและทังเฮ่อเสียงได้เข้าไปยังค่ายทหารแล้ว ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ทราบว่าพวกเขาได้พูดคุยถึงมาตรการรับมืออย่างไรกันแน่

ตูม…เสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากที่หม่าหมิงชุนและทังเฮ่อเสียงได้หารือเรื่องการรับมือแล้ว กองทัพส่วนกลางนับล้านได้กระจายตัวกันออกไป ทำการเฝ้าเส้นทางทุกเส้นทางของเขาจิ่วเหลียนซาน ปิดล้อมทางเข้าออกทุกทิศทุกทางเอาไว้

“หากพบเห็นคนแซ่หลี่หลบหนี ให้ส่งสัญญาณแจ้ง และฆ่าไม่มีละเว้น” สุดท้าย หม่าหมิงชุนได้ออกคำสั่งและเผยปณิธานการฆ่าน่าเกรงขามออกมา

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกัน เมื่อเห็นกองทัพส่วนกลางของหม่าหมิงชุนได้ปิดกั้นทางออกของเขาจิ่วเหลียนซานทุกเส้นทาง เกรงว่าการที่หม่าหมิงชุนทำเช่นนี้คือป้องกันการหลบหนีของฮ่องเต้องค์ใหม่ ขณะเดียวกันก็ต้องการให้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือ

ทุกคนต่างเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นหม่าหมิงชุนหรือว่าทังเฮ่อเสียงก็ตาม ยังคงมีความหวาดหวั่นต่อเขาจิ่วเหลียนซาน พวกเขายังไม่สามารถทำได้ถึงขั้นสั่งการให้กองทัพนับล้านบุกเข้าไปยังเขาจิ่วเหลียนซานอย่างแท้จริง การกระทำเช่นนี้จะเป็นการหักหน้ากับเขาจิ่วเหลียนซานอย่างสิ้นเชิง และประกาศเป็นศัตรูกับเขาจิ่วเหลียนซานโดยสิ้นเชิง ค่าตอบแทนเช่นนี้มันหนักเกินไป

ดังนั้น ท้ายที่สุดแล้วหม่าหมิงชุนที่มีเพลิงโกรธรุนแรงภายใต้การกล่อมของทังเฮ่อเสียงแล้ว ได้ทำการปิดกั้นเส้นทางออกจากเขาจิ่วเหลียนซานเอาไว้ทั้งหมด ขอเพียงหลี่ชิเย่ก้าวออกจากเขาจิ่วเหลียนซานเพียงก้าวเดียว ก็ต้องพบกับการล้อมปราบจากกองทัพส่วนกลางของพวกเขา

อีกทั้งมาคราวนี้หม่าหมิงชุนได้มีคำสั่งฆ่าออกมาเพื่อแก้แค้นให้กับบุตรชายของตน นับว่าเป็นการทุ่มเต็มที่แม้ต้องเสียเท่าไรก็ยอม เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะกล่าวว่าเป็นการสังหารฮ่องเต้เพื่อชิงบัลลังก์หรือไม่อีกแล้ว

เนื่องจากบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาได้ถูกฮ่องเต้องค์ใหม่สังหารไปแล้ว เขายังจะแคร์เรื่องชื่อเสียงเพียงเท่านั้นอีกรึ? เวลานี้หม่าหมิงชุนที่ถูกครอบงำด้วยความโกรธคิดแต่จะทำเรื่องๆ เดียวเท่านั้น ก็คือแก้แค้นให้กับบุตรชายของเขา

“น่าเสียดาย” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเมื่อเห็นกองทัพนับล้านตั้งค่ายอยู่ด้านนอกเขาจิ่วเหลียนซาน หัวเราะและกล่าวว่า “เดิมทีคิดจะเข่นฆ่าสักล้านหนึ่ง ดูท่าคงทำไม่สำเร็จเสียแล้ว ไม่รีบ รอให้ข้าเสร็จธุระที่นี่เสียก่อน การเข่นฆ่าสักล้านไม่มีอะไรมากมายอยู่แล้ว สังหารสิ้นทุกๆ กองทัพ นั่นแหละจึงเรียกว่าหายอยาก”

“น่าเสียดาย” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณก็ทอดถอนใจออกมา เมื่อเห็นว่ากองทัพนับล้านไม่ได้บุกเขาไปยังเขาจิ่วเหลียนซาน และกล่าวว่า “ถ้าหากกองทัพส่วนกลางสามารถหยั่งเชิงธาตุแท้ภายในของเขาจิ่วเหลียนซานสักทีน่าจะดีไม่น้อย”

……………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล