ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2498

ตอนที่ 2498 บังเกิดวามคิดขึ้นมากะทันหัน
ในเวลานี้เอง ทุกคนต่างอดไม่ได้มองไปที่หลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่า แม้ว่าหลี่ชิเย่เคยเป็นฮ่องเต้มาก่อน แต่ เขาไม่ได้ฝึกปรือ ‘เคล็ดวิชาโต่วมี่ และเคล็ดวิชาเจื่อมี่’ ที่เป็นสองเคล็ดวิชาจิ่วมี่ของราชวงศ์โต่วเซิ่นมาก่อน

“เป็นความจริง ข้าไม่เคยได้ฝึกปรือสองเคล็ดวิชานี้มาก่อน” หลี่ชิเย่ก็ดูอิสระเสรีไม่สะทกสะท้าน

“ฮึ สองเคล็ดวิชานี้คือระบบการสืบทอดของราชวงศ์โต่วเซิ่น ไม่เคยฝึกแม้แต่เคล็ดวิชาเดียว ไหนเลยมีสิทธิ์พูดถึงเรื่องของการสืบทอด” ทังเฮ่อเสียงกล่าวน้ำเสียงเย็นชา

คำพูดเช่นนี้ของทังเฮ่อเสียงต้องการปฏิเสธฐานะความถูกต้องตามกฎความเป็นฮ่องเต้ของหลี่ชิเย่ เนื่องจากทุกคนต่างก็รู้ว่า เคล็ดวิชาโต่วมี่ และเคล็ดวิชาเจื่อมี่สองเคล็ดวิชานี้คือเคล็ดวิชาที่ไม่มีการถ่ายทอดของราชวงศ์โต่วเซิ่น ถ้าหากได้กุมอำนาจปกครองแล้วไม่เคยได้ฝึกปรือเคล็ดวิชาใดวิชาหนึ่งล่ะก็ นับว่าอธิบายไม่ได้จริงๆ

ขณะที่ทังเฮ่อเสียงนั้น เขาเป็นผู้ที่ได้ฝึก ‘เคล็ดวิชาเจื่อมี่’ มาก่อน ในข้อนี้อย่างน้อยเท่ากับได้รับการถ่ายทอดมาจากราชวงศ์โต่วเซิ่นจริง อาจกล่าวได้ว่า อนาคตหากเขาจะสืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ก็นับว่าสมเหตุสมผล

หลี่ชิเย่ขึ้คร้านจะไปให้ความสนใจในตัวทังเฮ่อเสียง มองดูปิงฉือหานยวี่ทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า “แม้ว่าข้าจะไม่ได้ฝึกปรือแม้แต่เคล็ดวิชาเดียวมาก่อน แต่ว่า มันก็แค่ ‘เคล็ดวิชาเจิ้นมี่’ ขั้นสมบูรณ์เท่านั้นเอง ไม่คู่ควรที่จะมาโอ้อวดต่อหน้าข้าหรอกนะ จิ๊บๆ เท่านั้นเอง”

“โง่เขลาและอวดดี” ปิงฉือหานยวี่ยิ้มเยาะทีหนึ่งกล่าวเย้ยหยันว่า “เทียนจือสำเร็จ ‘เคล็ดวิชาเจิ้นมี่’ ขั้นสมบูรณ์ ทำให้เขาสามารถควบคุมค่ายกลทั่วหล้า ขับเคลื่อนค่ายกลทั่วฟ้าดิน ความสำเร็จของเขาไหนเลยเจ้าจะเทียบเทียมได้ เจ้าเองก็ได้แต่คุยโวสักครั้งว่า ‘คว้าเคล็ดวิชาจิ่วมี่ตามอารมณ์’ มาได้”

“ดูท่าข้าจะคุยโวแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ และถามหลิ่วชูฉิงที่อยู่ข้างกายว่า “นังหนูเอ๊ย เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถคว้าเอาเคล็ดวิชาจิ่วมี่ตามอารมณ์มาได้”

“เชื่อ” หลิ่วชูฉิงตอบโดยไม่ลังเล และพยักหน้า นางเชื่อในตัวของหลี่ชิเย่โดยไม่มีเงื่อนไขแม้แต่น้อย

“ศิษย์น้อง อย่าได้ตาบอด เคล็ดวิชาจิ่วมี่คือสิ่งที่พบได้ยากตลอดกาล” เมื่อดาบอริยะกวานไห่เห็นศิษย์น้องของตนเองไม่มีหลักการที่เป็นของตนเองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเจื่อนๆ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “นับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา มีเพียงพวกของราชันแท้จริงจิ่วหนิงเพียงคนสองคนเท่านั้นที่ฝึกปรือได้ครบ ไหนเลยจะคว้ามาได้ตามอารมณ์อย่างง่ายดาย”

แม้ว่าดาบอริยะกวานไห่ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของหลี่ชิเย่โดยตรง แต่ก็เป็นการไม่เชื่อในคำพูดของหลี่ชิเย่ทางอ้อม

“เพ้อเจ้อ” ทังเฮ่อเสียงก็หัวเราะเยาะทีหนึ่งกล่าวเหยียดหยามขึ้นมา

“ฮึ คิดจะคุยโวก็ควรจะร่างเอาไว้ก่อน” ปิงฉือหานยวี่หัวเราะเยาะทีหนึ่ง จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยสายตาที่เย็นชา กล่าวท่าทีเย็นชาว่า “ถ้าหากเจ้าสามารถคว้ามาได้ตามอารมณ์ มันก็คือสิ่งมหัศจรรย์นิรันดร์กาลแล้วล่ะ”

ในบรรดาพวกเขาทั้งหมด หนึ่งเดียวที่ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมาก็คือฉินเจี้ยนเหยา นางเอียงคอเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างไม่เชื่อในคำพูดของหลี่ชิเย่ มีผู้หัวเราะเย็นชา และกล่าวเหยียดหยามว่า “ช่างโง่เขลาเหลือเกิน เคล็ดวิชาเจื่อมี่สามารถคว้าเอามาได้ตามอารมณ์ เขาคิดว่าเขาคือใคร? คิดว่าตัวเองเป็นปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่รึ?”

“คำพูดแบบนี้ แม้แต่ความรู้ขั้นพื้นฐานที่สุดก็ไม่มี” แม้แต่ระดับปรมาจารย์ของตระกูลขุนนางโบราณก็ส่ายหน้า ไม่เชื่อในคำพูดเช่นนี้ และกล่าวว่า “เคล็ดวิชาเจื่อมี่มีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่เช่นใด ปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า ใครบ้างที่สามารถคว้ามาได้ตามอารมณ์? ราชันแท้จริงจิ่วหนิงในครั้งนั้นก็ยังทำไม่ได้”

“จะอย่างไรเสียก็เป็นฮ่องเต้ที่โง่เขลาเบาปัญญาและเหลวไหล ทำอะไรยังคงเชื่ออะไรไม่ได้” ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันส่ายหน้า ก่อนหน้านี้ มีผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะผงาดขึ้นมา เวลานี้ดูไปแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงเชื่ออะไรไม่ได้…

“ปาฏิหาริย์นิรันดร์กาลอะไร แค่ทำไปตามอารมณ์เท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว

“ตกลง ถ้าหากเจ้าสามารถคว้าเอามาได้ตามอารมณ์ ข้า ปิงฉือหานยวี่เป็นคนแรกที่เลื่อมใสและยอมรับในตัวเจ้าด้วยความจริงใจ” ในเวลานี้เอง ปิงฉือหานยวี่ได้ก้าวออกมา หัวเราะเยาะนิดหนึ่งและเอ่ยขึ้น

“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเลื่อมใสและยอมรับในตัวข้า” หลี่ชิเย่หัวเราะนิดหนึ่งและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ความเลื่อมใสศรัทธาและยอมรับในตัวข้ามีค่าเท่าไรกันเชียว แต่ทว่า เฉกเช่นคนสวยอย่างเจ้าข้ากลับมีอารมณ์ที่จะสั่งสอนเจ้าสักครั้ง น่าสนุกออก”

“เจ้า…” ปิงฉือหานยวี่พลันมีใบหน้าที่แดงก่ำ อดจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธไม่ได้ แต่ว่า มาคราวนี้น่าแปลกตรงที่นางไม่ได้โมโห จ้องเขม็งที่หลี่ชิเย่ครู่หนึ่งก็กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าหากเจ้าสามารถบรรลุเคล็ดวิชาเจื่อมี่ได้ถือว่าข้าแพ้ ข้าปิงฉือหานยวี่สุดแต่เจ้าจะจัดการ จะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่เจ้า ถ้าหากเจ้าแพ้ล่ะ?”

ปิงฉือหานยวี่ถึงกับพูดคำๆ นี้ออกมา พลันทำให้ทุกคนตกตะลึง ไม่นึกเลยว่าปิงฉือหานยวี่จะพนันกับฮ่องเต้องค์ใหม่ได้

“เจ้าต้องการอะไร?” หลี่ชิเย่จ้องมองดูปิงฉือหานยวี่ และเผยรอยยิ้มขึ้นมา

ปิงฉือหานยวี่มองดูหลี่ชิเย่ด้วยความเย้ยหยันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นกล่าวด้วยท่าทีเย็นชาว่า “ข้าก็จะไม่หาเรื่องอะไรเจ้า ไม่ต้องการให้เจ้าทำอะไร ถ้าหากเจ้าพ่ายแพ้ ง่ายมาก เจ้าประกาศต่อใต้หล้าว่าจะยกตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น!”

พลันที่ปิงฉือหานยวี่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้ทุกคนต่างตะลึงไปนิดหนึ่ง เมื่อทุกคนได้สติกลับมาแล้ว ทำให้พวกเขาต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงเงียบๆ แม้ว่าปิงฉือหานยวี่จะเป็นคนที่หยิ่งยโสคนหนึ่ง แต่นางยังคงฉลาดยิ่งนัก

ถ้าหากว่า สามารถทำให้ฮ่องเต้องค์ใหม่ประกาศต่อใต้หล้าว่ายกตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้นได้จริง เท่ากับเป็นการยืนยันความถูกต้องตามกฎในการเป็นฮ่องเต้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นอย่างไม่ต้องสงสับ ส่วนคนอื่นๆ คิดจะแย่งบัลลังก์กับเขามันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่ว่า ขอเพียงตำแหน่งฮ่องเต้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นถูกต้องตามกฎ อย่างน้อยที่สุดก็จะไม่เป็นที่วิพากวิจารณ์ของผู้คนในอนาคต ซึ่งกล่าวสำหรับชื่อเสียงของราชันแท้จริงคนหนึ่งแล้ว นับเป็นเรื่องที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง

พลันที่ปิงฉือหานยวี่พูดออกมาเช่นนี้ ทังเฮ่อเสียงพลันรู้สึกเสียใจภายหลังในทันที ทำไมเขาจึงคิดไม่ถึงจุดนี้นะ หากรู้แต่แรกเป็นเช่นนี้ เขาก็สามารถทำการเดิมพันเฉกเช่นปิงฉือหานยวี่ได้เหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล