“นับว่าแข็งแกร่งมากอย่างแท้จริง และมีฝีมือมากทีเดียว และตัวเขาก็นับว่ามีธาตุแท้ภายในระดับหนึ่งที่จะชิงบัลลังก์กับราชันแท้จริงปาเจิ้น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นไม่เห็นว่าจะทำได้” ยอดฝีมือสำนักเจ้าลัทธิทอดถอนใจออกมา
ผู้คนจำนวนไม่น้อยก็ถูกทำให้หวั่นไหวกับการโจมตีที่โหดร้ายดุดันเช่นนี้ของทังเฮ่อเสียง ทังเฮ่อเสียงนับว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพคนหนึ่งโดยแท้
แม้ว่าหลายคนจะรังเกียจในตัวของทังเฮ่อเสียงกับการลงมือลอบโจมตีเมื่อครู่ และเหยียดหยามในการกระทำเช่นนี้ของเขา แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า แม้ว่าทังเฮ่อเสียงดูจะต่ำทรามอยู่บ้าง แต่ว่า กำลังความสามารถของเขายังคงแข็งแกร่งมาก
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ ทวนมังกรในมือของทังเฮ่อเสียงชี้ไปที่หลี่ชิเย่จากตำแหน่งที่สูงกว่า ด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว หัวเราะด้วยความหยิ่งทะนงและเย็นชา และกล่าวว่า “ความสามารถอันน้อยนิด ไร้อันดับ”
แม้คำพูดของทังเฮ่อเสียงจะอวดดีมากไปนิดหนึ่ง แต่ เป็นความจริงที่กำลังความสามารถของเขาไม่ธรรมดา ไม่อาจดูแคลนได้
เวลานี้ ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ชิเย่ แน่นอน ภายในใจของผู้คนจำนวนมากไม่คิดว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะพ่ายแพ้ จะอย่างไรเสียฮ่องเต้องค์ใหม่ช่างลึกซื้งยากจะหยั่งถึงเหลือเกิน ทุกคนเพียงแต่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้นว่า ถ้าหากฮ่องเต้องค์ใหม่ลงมืออีกครั้งหนึ่ง จะมีฝีมือลักษณะอย่างไรเท่านั้น
“ศักยภาพเพียงเท่านี้ก็กล้าคุยโตไม่รู้จักละอาย” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมาและลุกขึ้นยืนช้าๆ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เอาเถอะ ถ้าเช่นนั้นก็เล่นเป็นเพื่อนกับเจ้าสักหน่อย ให้เจ้าได้เห็นกำลังความสามารถของข้า”
“ฮ่องเต้องค์ใหม่เอาจริงแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่จะลงมือแล้ว” เรียกได้ว่าเป็นที่จับจ้องของมวลชน ทุกคนต่างมีคู่ดวงตาที่เบิกกว้าง มองดูทุกๆ ท่วงท่าของหลี่ชิเย่ แม้แต่การเคลื่อนไหวน้อยนิดก็ไม่ให้พลาด ล้วนแล้วแต่ต้องการดูว่าหลี่ชิเย่มีฝีมือที่สะเทือนเลื่อนลั่นอย่างไร
เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่เป็นที่จับจ้องของมวลชนขณะนี้ ทำให้ภายในใจของทังเฮ่อเสียงไม่สบอารมณ์เป็นพิเศษ ในอดีต ผู้เป็นที่จับตามองคือบุรุษผู้สูงศักดิ์เช่นทังเฮ่อเสียงอย่างเขา ไม่ใช่ฮ่องเต้ทรราชที่อยู่ตรงหน้า!
“ฮ่องเต้องค์ใหม่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง พลันที่เขาลงมือรับรองได้ว่าต้องสะเทือนเลื่อนลั่น” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง และเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
มีผู้ที่อดจะพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “ฮ่องเต้องค์ใหม่ลงมือ ทังเฮ่อเสียงสามารถต้านเอาไว้ได้กี่กระบวนท่าล่ะ?”
“ข้าขอทายว่าห้ากระบวนท่าก็แล้วกัน จะอย่างไรเสียเวลานี้เขาได้หลอมรวมเข้ากับค่ายกลใหญ่เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งไม่เพียงมีกำลังความสามารถของตัวเขาเองแล้ว ยังมีกำลังที่เป็นแกนหลักที่สุดของกองทัพส่วนกลาง” มียอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้หนึ่งกล่าวเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
“ห้ากระบวนท่า? ท่านให้ความสำคัญเขามากเกินไปแล้ว ดูสิ ดาบอริยะกวานไห่หลังจากสามกระบวนท่าแล้วก็ยอมแพ้ ข้าไม่คิดว่าทังเฮ่อเสียงจะแข็งแกร่งมากไปกว่าดาบอริยะกวานไห่ ดาบอริยะกวานไห่คือเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นเก้าที่จริงแท้แน่นอน กำลังความสามารถก็เป็นของแท้แน่นอน และมีพื้นฐานที่แน่นหนา” อัจฉริยะบุคคลอีกผู้หนึ่งส่ายหน้า
เสียงวิพากวิจารณ์แผ่วเบาเหล่านี้เมื่อเข้าหูทังเฮ่อเสียงแล้ว พลันทำให้สีหน้าของทังเฮ่อเสียงดูไม่จืดถึงขีดสุด หากเป็นเมื่ออดีตล่ะก็ พลันที่เขาลงมือรับรองได้ว่าจะต้องปรากฏเสียงร้องเชียร์ไปทั่ว ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องการได้เห็นบุคลิกอันสง่างามของสุดยอดอัจฉริยะบุคคลเช่นตัวเขา ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องการได้เห็นสุดยอดวิชาแห่งยุคของอัจฉริยะบุคคลเช่นตัวเขา
แต่ว่า เวลานี้เมื่อออกจากปากของผู้อื่น เขากลับกลายเป็นย่ำแย่อย่างนี้ กระทั่งกลายเป็นที่เยาะเย้ยของผู้อื่น เป็นเป้าหมายที่ถูกเย้ยหยัน แล้วทังเฮ่อเสียงจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้น ในขณะนี้สีหน้าของทังเฮ่อเสียงดูไม่จืดถึงที่สุด ดวงตาทั้งสองเผยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา ทวนมังกรในมือชี้ไปที่หลี่ชิเย่ กล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “เจ้าคนแซ่หลี่ วันนี้เจ้าอย่าหวังมีชีวิตรอดออกไปจากเขาจิ่วเหลียนซานเลย!”
“เอาล่ะ คำพูดนักเลงโตพูดพอแล้วยัง?” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น โบกมือเบาๆ ดูไม่ใส่ใจอะไรเลย กล่าวท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า “หากพูดจนพอแล้วก็เตรียมตัวให้ดี พลันที่ข้าลงมือ เกรงว่าเจ้าไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้”
“ข้านี่แหละอยากจะดูว่าเจ้าจะเก่งสักแค่ไหนเชียว” ทังเฮ่อเสียงถูกคำพูดของหลี่ชิเย่ยั่วจนโมโหขึ้นมาอย่างสิ้นเชิงแล้ว อดที่จะคำรามเสียงดังขึ้นมา
เสียงตูม…ดังสนั่น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นพลังของทังเฮ่อเสียงที่เสมือนดั่งสายรุ้งสีขาวทะลุผ่านดวงตะวัน พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง เสียงดังตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย พลังที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามดั่งลำแสงมหาประลัยผ่านทะลุตรงไปยังส่วนที่ลึกเข้าไปในจักรวาล เหมือนว่าสามารถกวาดล้างทั่วทั้งแดนสวรรค์อย่างนั้น
เพียงพริบตาเดียวนี่เอง ร่างกายของทังเฮ่อเสียงได้ปรากฏประกายที่พวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย ได้ยินเสียงดังตึง ตึง ตึงดังขึ้น โล่ยักษ์ในมือของเขาเหมือนมีโลหะศักดิ์สิทธิ์ทำการประกอบขึ้นมาใหม่อย่างนั้น พลันส่งผลให้โล่ยักษ์กลับกลายเป็นมีขนาดใหญ่ยักษ์มากขึ้นกว่าเดิมและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก
ได้ยินเสียงกรรรที่เป็นเสียงมังกรดังคำรามขึ้นมา มองเห็นทวนมังกรในมือของทังเฮ่อเสียงกลับกลายเป็นมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เสมือนดั่งเป็นมังกรทองขนาดยักษ์ที่พันอยู่กับทวนยาว ทวนยาวลักษณะเช่นนี้สามารถทิ่มแทงจนท้องฟ้าทะลุ
ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น ฟ้าดินสั่นไหวทีหนึ่ง เวลานี้มือหนึ่งของทังเฮ่อเสียงถือโล่ยักษ์ปกป้องอยู่ด้านหน้าของตน อีกมือหนึ่งถือทวนยาวลักษณะขวางอยู่หน้าลำตัว เป็นการจัดวางท่างทางที่พร้อมทั้งรุกและรับเอาไว้
“จะเริ่มแล้ว ดูซิว่าทังเฮ่อเสียงนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างอุทานด้วยความตื่นตะลึง เมื่อมองเห็นท่าทางของทังเฮ่อเสียงที่ดูสมบูรณ์แบบยิ่งทั้งรุกและรับ
“เจ้าคนแซ่หลี่ ออกมารับความตาย…” ทังเฮ่อเสียงได้รวบรวมเอาพลังทั้งหมดเอาไว้กับตัว เปี่ยมด้วยความพาล เขาเข้าใจเองว่าต่อให้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะลงมือเอง เขาก็สามารถต้านได้หนึ่งถึงสองกระบวนท่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...