ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มีห้าปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุด เวลานี้ยกเว้นปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของสำนักเสินสิงเหมิน และหอหลินไห่เก๋อแล้ว ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดอีกสามคนล้วนแล้วแต่มากันพร้อมหน้าแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งห้าปรากฏตัวออกมาน้อยมาก เนื่องจากพวกเขาเป็นตัวแทนพลังที่แกร่งที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ เมื่อใดที่พวกเขาปรากฎตัวย่อมเป็นการบ่งบอกว่ามีเรื่องใหญ่ที่สะเทือนเลื่อนลั่นเกิดขึ้นมาแล้ว
เวลานี้ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกัน สิ่งนี้จึงทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบตื่นตระหนกในใจ
“วัดจิ้งเหลียนกวานก็มาด้วยแล้ว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกเหนือความคาดคิด เมื่อมองเห็นปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวานก้าวเดินออกมาจากประกายศักดิ์สิทธิ์ อดพึมพำขึ้นมาไม่ได้
หากจะกล่าวว่า ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของแคว้นว่านเจิ้นและตระกลูขุนนางโบราณปิงฉือปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกันนั้น ทุกคนยังสามารถเข้าใจได้ โดยเฉพาะแคว้นว่านเจิ้นที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นตายด้วยน้ำมือของฮ่องเต้องค์ใหม่ เกรงว่าปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของแคว้นว่านเจิ้นคงไม่อาจไม่แก้แค้นให้กับเขา ยิ่งไปกว่านั้น การที่แคว้นว่านเจิ้นของพวกเขาก้าวเดินมาถึงจุดนี้ในวันนี้ก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว ระหว่างพวกเขากับฮ่องเต้องค์ใหม่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้ หากไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย
สำหรับตระกลูขุนนางโบราณปิงฉือนั้นก็สามารถเข้าใจได้เช่นกัน จะอย่างไรเสียพวกเขากับแคว้นว่านเจิ้นยืนอยู่ในแนวร่วมเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สองสำนักใหญ่จำเป็นต้องก้าวเดินไปด้วยกัน
ขณะที่วัดจิ้งเหลียนกวานนั้นแตกต่างกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาระหว่างวัดจิ้งเหลียนกวานกับฮ่องเต้องค์ใหม่ไม่ได้มีความขัดแย้งรุนแรงมากนัก แม้จะกล่าวว่าฉินเจี้ยนเหยาก็ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายในครั้งนั้น ไม่ได้แต่งงานกับฮ่องเต้องค์ใหม่ แต่ว่า ใช่ว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สำหรับเรื่องนี้ระหว่างวัดจิ้งเหลียนกวานกับฮ่องเต้องค์ใหม่ไม่ถือเป็นความขัดแย้งแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ใช่ว่าอนาคตจะไม่มีโอกาสเสียทีเดียว
จะอย่างไรเสียเรื่องที่เกี่ยวกับสัญญาหมั้นหมายนั้น ทางวัดจิ้งเหลียนกวานก็ไม่เคยพูดว่าจะฉีกสัญญาหรือไม่ให้การยอมรับตลอดเวลาที่ผ่านมา เรียกได้ว่า ความขัดแย้งระหว่างวัดจิ้งเหลียนกวานกับฮ่องเต้องค์ใหม่นั้นต่ำที่สุด
แต่ทว่า เวลานี้ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวานก็ปรากฎตัวออกมาพร้อมกับปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของแคว้นว่านเจิ้น และตระกลูขุนนางโบราณปิงฉือ นับว่าอยู่เหนือความคาดคิดของผู้คนมากเหลือเกิน
การปรากฎตัวขึ้นมาของปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดวัดจิ้งเหลียนกวานใช่เพียงทำให้ทุกคนรู้สึกเหนือความคาดคิด แม้แต่ฉินเจี้ยนเหยาเองก็ตระหนกอย่างยิ่ง เนื่องจากนางได้รายงานสถานการณ์ทุกอย่างเกี่ยวกับฮ่องเต้องค์ใหม่กับทางสำนักแล้ว และได้เสนอความเห็นต่อสำนักว่า อย่าได้เป็นศัตรูกับฮ่องเต้องค์ใหม่ เพื่อความอยู่รอดแล้วกระทั่งสามารถยอมศิโรราบต่อฮ่องเต้องค์ใหม่ได้
ฉินเจี้ยนเหยายังเข้าใจว่าบรรดาเหล่าบรรพบุรุษของสำนักจะเห็นด้วยกับความเห็นของนาง ไม่นึกเลยว่าในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของพวกเขาพลันปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน อีกทั้งยังยืนอยู่เป็นแนวร่วมเดียวกันกับแคว้นว่านเจิ้น และตระกลูขุนนางโบราณปิงฉือ สิ่งนี้พลันทำให้ฉินเจี้ยนเหยาถึงกับใจหายใจคว่ำ
นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใดบรรดาเหล่าบรรพบุรุษภายในสำนักของตนจึงได้ตัดสินใจเช่นนี้ ถูกสิ่งใดบดบังจิตใจทำให้ยังคงคิดเป็นศัตรูกับฮ่องเต้องค์ใหม่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
มาในรูปนี้พลันทำให้ฉินเจี้ยนเหยารู้สึกงงงันอยู่บ้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมานางมีได้รับการยกย่องด้านความสงบนิ่ง แต่ทว่า ในขณะนี้นางเองก็รู้สึกสับสนแล้ว การที่วัดจิ้งเหลียนกวานพลันเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเดียวกันกับตระกลูขุนนางโบราณปิงฉือ และแคว้นว่านเจิ้น ได้ทำให้แนวความคิดของนางถูกทำให้ยุ่งเหยิงไปหมด ทำให้นางพลันทำอะไรไม่ถูก
ตึง ตึง ตึงเสียงระฆังดังขึ้นมาเป็นระลอก จังหวะที่ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกเหนือความคาดคิดกับการที่วัดจิ้งเหลียนกวานยืนอยู่แนวร่วมเดียวกันกับแคว้นว่านเจิ้น และตระกลูขุนนางโบราณปิงฉืออยู่นั้น เสียงระฆังได้ดังก้องไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่
ในเวลานี้ ทุกคนต่างทยอยกันมองไปยังทิศทางต้นเสียงที่เสียงระฆังดังแว่วมา
“เป็นเขากัวชางซาน เป็นเสียงระฆังที่ส่งมาจากเมืองหลวง” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกเหนือความคาดคิดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ยินชัดเจนถึงทิศทางเสียงที่ส่งเข้ามา กล่าวด้วยความตระหนกระคนความแปลกใจว่า “เป็นใครกันที่สั่นระฆังให้ดังขึ้น? หรือจะเป็นการบัญชาการใต้หล้าอย่างนั้นรึ?”
ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้ ได้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ทอดสายตาไปยังตัวของหลี่ชิเย่
แม้จะกล่าวว่า ในวันนั้นฮ่องเต้องค์ใหม่ถูกขับไล่ลงจากบัลลังก์ สูญเสียแผ่นดินไป แต่ทว่าในทัศนะคติของผู้คนจำนวนมากแล้ว อำนาจฮ่องเต้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ยังคงอยู่ในมือที่เป็นสายของฮ่องเต้ไท่ชิงพวกเขา
ถึงจะกล่าวว่า ในขณะนี้เมืองหลวงอยู่ในความดูแลของกองทัพต่างๆ แต่ว่า พวกเขาก็เป็นเพียงกองทัพเท่านั้น ไม่สามารถเป็นตัวแทนอำนาจฮ่องเต้ และพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์บัญชาการใต้หล้า
เวลานี้ภายในเมืองหลวงปรากฏเสียงระฆังที่ดังขึ้น เป็นใครกันแน่ที่ลั่นระฆังขึ้นมากันแน่? ยิ่งไปกว่านั้นฮ่องเต้องค์ใหม่ก็อยู่ที่ตรงนี้เอง ไม่มีคำสั่งของฮ่องเต้มีใครกล้าลั่นระฆังขึ้นโดยพละการอย่างนั้นรึ?
“นี่ไม่ใช่เป็นการบัญชาใต้หล้า” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปยังได้ยินเสียงระฆังดังกล่าวเป็นครั้งแรก แต่ว่า มีระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิเมื่อฟังดูอย่างละเอียดแล้วถึงกับตื่นตระหนกและกล่าวว่า “นี่คือระฆังหลวง ไม่เคยได้ดังขึ้นมาเป็นเวลานาน นานมากๆ แล้ว”
“ระฆังหลวง? มันคืออะไรรึ?” กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่รู้กระทั่งระฆังหลวง และไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“มันคือระฆังใบที่แทนขั้วอำนาจใบนั้น” ระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิรู้สึกตื่นตระหนก และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ระฆังหลวงก็จะอยู่ในมือของราชวงศ์โต่วเซิ่นมาโดยตลอด เพียงแต่ ระฆังหลวงอยู่ในความควบคุมของคณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์ตลอดมา และมีเพียงคณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่จะมีอำนาจลั่นระฆังหลวงใบนี้ เมื่อมีการลั่นระฆังหลวงแล้ว ก็จะเป็นการประกาศต่อใต้หล้าให้ทราบโดยทั่วกัน”
‘คณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์’ เมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคยชื่อนี้แล้ว มีผู้อดที่จะตกใจไม่ได้และกล่าวว่า “คือคณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกฮ่องเต้ไท่ชิงทำลายทิ้งไปนั่นรึ?” แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีน้อยคนนักที่เอ่ยถึงชื่อของคณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ว่า ยังคงมีผู้คนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่จำนวนมากที่รู้จักคณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์
ในอดีต แม้จะกล่าวว่าเป็นราชวงศ์โต่วเซิ่นที่ปกครองใต้หล้า แต่ทว่า อำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ไม่เคยอยู่ในมือของฮ่องเต้ตลอดมา ฮ่องเต้เป็นเสมือนโฆษกของราชวงศ์โต่วเซิ่นเท่านั้น ผู้ที่สามารถกำหนดรูปแบบของราชวงศ์โต่วเซิ่นได้อย่างแท้จริงนั้น คือบรรดาเหล่าบรรพบุรุษของราชวงศ์โต่วเซิ่นที่จัดตั้งขึ้นในรูปของคณะมนตรีศักดิ์สิทธิ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...