ตอนที่ 2541 เจรจาเงื่อนไข – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2541 เจรจาเงื่อนไข จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“หรือเจ้าสามารถออกไปได้อย่างนั้นรึ?” เทพไฉไลหงส์พิษอดที่ร้องกล่าวออกมาไม่ได้ และไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก
“แค่ออกไปเท่านั้นเองจะไปยากอะไร?” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “หรือว่าข้าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วจริงๆ? คิดว่าข้ามารนหาที่ตายจริงรึ? พวกเจ้าเป็นเพียงผู้ถูกจับโยนเข้ามา ขณะที่ข้านั้น ข้าเดินเข้ามาด้วยตนเองนะ”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้พวกของปิ้งจวินสะดุ้ง การลงมือเมื่อครู่ก็รับรู้แล้วว่าหลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งและน่ากลัว น่ากลัวจนปราศจากผู้ใดเทียม
หลี่ชิเย่นั้นแตกต่างจากพวกเขา พวกเขาถูกฮ่องเต้ไท่ชิงจับเป็นแล้วโยนเข้ามาในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ ขณะที่หลี่ชิเย่นั้นเดินเข้ามาด้วยตนเอง ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นหลี่ชิเย่ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเสียสติ
รู้ทั้งรู้ว่าคุกหลวงดึกดำบรรพ์เป็นคุกสำหรับนักโทษประหาร ไปแล้วไปลับ แต่ทว่า หลี่ชิเย่ยังคงเข้ามาจนได้
เมื่อพวกของปิ้งจวินนึกถึงข้อนี้แล้วต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจ ในเมื่อหลี่ชิเย่ที่แข็งแกร่งจนปราศจากผู้ต่อกรกล้าเข้ามา ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าเขาก็ต้องกลับออกไปได้ อย่างน้อยที่สุดเขาต้องรู้วิธีที่จะออกไป เขาจึงกล้าเสี่ยงภัยมากมายเพียงนี้เพื่อเข้ามาในคุกหลวงดึกดำบรรพ์อยู่แล้ว หาไม่แล้วเขาจะเข้ามาเพื่ออะไร? หรือจะมารนหาที่ตายอย่างนั้นรึ?
“นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” มังกรทองแปดแขนร้องเสียงดังออกมา และกล่าวว่า “คุกหลวงดึกดำบรรพ์คือคุกสำหรับนักโทษประหาร เข้าได้ออกไม่ได้ เข้ามาแล้วก็มีแต่ความตาย ไม่สามารถออกไปได้อยู่แล้ว”
มังกรทองแปดแขนยากที่จะเชื่อคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ จะอย่างไรเสียพวกเขาถูกกักขังอยู่ในนี้นานมาก ไม่ว่าจะเป็นวิธีอะไรพวกเขาทดลองมาหมดแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ มันไม่สามารถออกไปได้อยู่แล้ว อย่าว่าแต่พวกเขาเลย คนที่เข้ามาก่อนหน้าก็ไม่สามารถออกไปได้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ตายอนาถอยู่ในนี้ทั้งสิ้น
เวลานี้หลี่ชิเย่กลับบอกว่าสามารถออกไปได้ จะให้มังกรทองแปดแขนเชื่อได้อย่างไรกันเล่า
“นั่นเป็นพวกเจ้าเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “ที่ไม่สามารถออกไปได้ บอกได้แต่เพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเจ้าไม่แกร่งพอ”
“สามารถออกไปได้จริงๆ รึ?” แม้แต่อวี่เหยียนเซินก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ จะอย่างไรเสียพวกเขาได้ทดลองมาแล้วทุกวิธี แต่ยังคงทำไม่สำเร็จ
กระทั่งกล่าวได้ว่า พวกเขาไม่พบร่องรอยแม้แต่นิดเดียว ที่ตรงนี้คือพื้นที่แห่งความตาย เข้ามาแล้วอย่าว่าแต่ออกไปเลย มันไม่ได้มีทางออกอยู่แล้ว พวกเขาคลำหามาเป็นเวลานานมาก ยังคงไม่พบเบาะแสใดๆ ที่จะออกไปได้ หรือบางทีมันก็คือคุกสำหรับนักโทษประหารที่ไม่มีทางออกอยู่แล้ว
“เชื่อหรือไม่แล้วแต่พวกเจ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มออกมาตามอารมณ์ ท่าทางเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นี่ นี่เป็นไปได้อย่างไร?” ในเวลานี้ ปิ้งจวินผู้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขายังอดที่จะมีจิตสั่นไหวไม่ได้ แต่ยังคงมีความรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ตามบันทึกของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ไม่เคยมีใครสามารถมีชีวิตกลับออกมาจากคุกหลวงดึกดำบรรพ์ได้ ตายไปแล้วก็ออกไปไม่ได้”
ปิ้งจวินมีชาติกำเนิดมาจากราชวงศ์โต่วเซิ่น และเป็นอัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยมของราชวงศ์โต่วเซิ่น เขามีความเข้าใจในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เป็นอย่างยิ่ง เขาเคยอ่านบันทึกที่เกี่ยวกับคุกหลวงดึกดำบรรพ์มาทั้งหมด
ความจริงแล้ว ใช่ว่าในยุคของฮ่องเต้ไท่ชิงจึงมีการจับนักโทษโยนเข้าไป ในช่วงต้นของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ปรัชญาเมธีของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ก็เคยนำเอานักโทษประหารจำนวนไม่น้อยโยนเข้าไปในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ กระทั่งมีผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปิ้งจวินเสียอีก แต่ทว่า พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่สามารถมีชีวิตไปจากคุกหลวงดึกดำบรรพ์ได้ ท้ายสุดแล้วต้องตายอยู่ในนี้ทั้งหมด
“ช่างเถอะ นั่นมันเรื่องของพวกเจ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “ข้าก็จะไม่ฆ่าพวกเจ้า จะอย่างไรเสียพวกเจ้าอยู่ที่นี่ก็มีแต่ความตายเท่านั้น” กล่าวจบหันหลังจากไป
ในเวลานี้ พวกของปิ้งจวินถึงกับมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อเห็นหลี่ชิเย่หันหลังเดินจากไป พวกเขาล้วนแล้วแต่ทำอะไรไม่ถูก
พวกเขาถูกขังเอาไว้ในสถานที่ที่ไม่มีใครอยากจะมาเป็นเวลาหนึ่งยุคสมัยแล้ว หลังจากผ่านการทดลองจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว พวกเขาต่างรู้ดีว่าสถานที่แห่งนี้ไม่สามารถออกไปได้ พวกเขาได้แต่รอความตายอยู่ที่ตรงนี้ ดังนั้นสภาพจิตของพวกเขาก็สงบลงมากแล้ว จะอย่างไรเสียก็ยากจะหนีความตายไปได้พ้น พวกเขายังจะมีสิ่งใดต้องการมากมาย? ได้แต่รอความตายมาเยือนเท่านั้น
แต่ว่า การมาถึงของหลี่ชิเย่ในเวลานี้ ได้ทำลายความสงบของที่นี่ไป โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าหลี่ชิเย่ถึงกับมีวิธีที่จะไปจากที่ตรงนี้ได้ ยิ่งทำให้ความสงบที่มีอยู่ภายในใจถูกทำลาย พลันทำให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้
มดปลวกยังรักชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคน พวกเขาต่างก็เคยเป็นบุคคลที่ดำรงอยู่ในฐานะยิ่งใหญ่น่าเกรงขามบงการสถานการณ์ใต้หล้าได้ ย่อมต่องการมีชีวิตไปจากที่นี้ สิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ถ้าหากสามารถมีชีวิตไปจากที่นี่เท่ากับได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง เสมือนหนึ่งได้เกิดใหม่อย่างนั้น
“นี่ เจ้า เจ้า เจ้ารอนิดหนึ่ง” ในขณะนี้อวี่เหยียนเซินอดที่จะส่งเสียงเรียกออกมา เรียกตัวหลี่ชิเย่เอาไว้
หลี่ชิเย่หยุดก้าวเดินและหันหลังกลับมา มองดูพวกเขาทีหนึ่งและยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ยังมีเรื่องอะไรรึ? ข้ากำลังจะรีบเดินทางนะเนี่ย”
ในเวลานี้เอง พวกอวี่เหยียนเซินห้าคนอดที่จะมองตากันและกัน สุดท้ายเป็นอวี่เหยียนเซินที่ทำท่าลังเลนิดหนึ่ง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งและกล่าวว่า “เจ้า เจ้าสามารถออกไปได้จริงๆ รึ?”
“พวกเจ้าคิดว่าข้าจำเป็นต้องโกหกพวกเจ้าอย่างนั้นรึ? ข้าจะเอาชีวิตพวกเจ้ามันง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีก ฆ่าพวกเจ้าเหมือนดั่งบี้มดตาย” หลี่ชิเย่ยิ้มตามอารมณ์
คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้พวกปิ้งจวินล้วนแล้วแต่แทบหายใจไม่ออก พวกเขาต่างก็เป็นบุคคลที่ดำรงอยู่ในฐานะยิ่งใหญ่น่าเกรงขามบงการสถานการณ์ใต้หล้าได้ ในแดนลัทธิราชันพวกเขาแค่กระทืบเท้าทีหนึ่งก็ทำให้พสุธาต้องสั่นสะเทือนสามครั้ง เวลานี้กลับถูกหลี่ชิเย่มองว่าเป็นมดปลวก
แต่ทว่า นาทีนี้พวกเขาก็ไม่อาจไม่ยอมรับความจริงในเรื่องนี้ หลี่ชิเย่ สามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างสบายๆ เป็นความจริงที่ว่าจะสังหารพวกเขานั้นง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือเสียอีก ช่วงห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายมันช่างมากมายเหลือเกิน
“เรื่องนี้นับว่าสร้างความยุ่งยากให้กับข้าแล้วสิ พูดกันตามตรงเลยนะ ข้าไม่เคยอยากจะได้ของของพวกเจ้าเลยจริงๆ” หลี่ชิเย่เอามือลูบคาง และยิ้มกล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
คำพูดของหลี่ชิเย่ที่เลือกมากพลันทำให้พวกของปิ้งจวินต้องนิ่งเงียบ พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือที่หยิ่งยโสทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าใครในแดนลัทธิราชัน พวกเขาก็จะคงความเป็นผู้ที่สูงเด่นยโสและได้รับการปฏิบัติที่ดีเยี่ยม แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้ว พวกเขาต้อยต่ำประดุจมดปลวกอย่างนั้น
แม้จะอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ไท่ชิง พวกเขาก็สามารถทำตัวสูงเด่นยโสและมั่นใจในตนเองเช่นกัน ยิ่งปิ้วจวินด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตัวเขาเองไม่ได้ด้อยไปกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงอยู่แล้ว
แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ในเวลานี้พวกเขาล้วนแล้วแต่โงหัวไม่ขึ้น สิ่งที่พวกเขาภูมิใจนักภูมิใจหนาเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้ว ล้วนแล้วแต่ไร้ค่า
“แต่ว่า การที่จะช่วยพวกเจ้าให้ออกไปจากที่นี่ใช่ว่าจะไม่ได้” หลี่ชิเย่เอามือลูบคางพักหนึ่ง เอ่ยคำเรียบเฉยขึ้นมา
คำพูดลักษณะเช่นนี้พลันทำให้พวกของปิ้งจวินถึงกับมองเห็นทางสว่าง เป็นการจุดประกายความหวังขึ้นในใจพวกเขาโดยพลัน
“จริงรึ?” ในขณะนี้ วัวคลั่งแทบจะรอต่อไปไม่ไหว เอ่ยถามขึ้นมาทันที
หลี่ชิเย่มองดูพวกของปิ้งจวินแวบหนึ่ง ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “แม้ว่าสมบัติของพวกเจ้าข้าจะไม่เห็นมันอยู่ในสายตา แต่ว่า ข้ายังขาดผู้ที่จะมาคนรับใช้ทำธุระใช้แรงงานอยู่หลายคน หากพวกเจ้ายินดี ข้ากลับได้เว้นตำแหน่งให้กับพวกเจ้า”
พวกของปิ้งจวินถึงกับตะลึงงันเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ พวกเขาต่างมองหน้ากันและกันในเวลานี้
พวกเขาหากไม่ใช่ระดับเจ้าสำนักของสำนักใดสำนักหนึ่ง ก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าๆ หนึ่ง ที่ข้างนอกพวกเขาได้รับการกราบไหว้จากคนในเผ่า และลูกหลานของตนเอง ด้วยกำลังความสามารถของพวกเขา ไม่รู้ว่ามีผู้คนในแดนลัทธิราชันจำนวนเท่าไรที่ให้ความเคารพพวกเขายิ่งนัก เวลานี้กลับให้พวกเขาต้องมาเป็นคนรับใช้ที่ทำธุระและใช้แรงงานให้กับหลี่ชิเย่
การเปลี่ยนแปลงบทบาทอย่างกะทันหัน ทำให้จิตใจของพวกเขารับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่ได้
จะอย่างไรเสียพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะทั้งสิ้น มีฐานะที่สูงเด่นตลอดเวลาที่ผ่านมา อาณาประชาราษฎร์ในสายตาของพวกเขาเป็นเพียงผู้อ่อนด้อยเท่านั้น
………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...