ตอน ตอนที่ 2542 ถวายความจงรักภักดี จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2542 ถวายความจงรักภักดี คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ข้ายินดี” สุดท้าย ผู้ที่เปิดปากก่อนกลับเป็นปิ้งจวิน เขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผยยิ่งนัก
ปิ้งจวิน…การที่ปิ้งจวินออกปากยอมรับเป็นคนแรก พลันทำให้พวกของอวี่เหยียนเซินรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง จะอย่างไรเสียในบรรดาพวกเขาทั้งหมดมีปิ้งจวินเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นผู้ที่เล่นด้วยยากที่สุด เขาหาใช่เป็นผู้ที่รักตัวกลัวตายประเภทนั้น
สมควรทราบว่า ครั้งนั้นขณะที่ฮ่องเต้ไท่ชิงเสมือนดั่งพระอาทิตย์ขึ้นกลางหาวอยู่นั้น เขายังคงสู้รบกับฮ่องเต้ไท่ชิงซึ่งหน้า แม้ว่าภายหลังฮ่องเต้ไท่ชิงจะร่วมมือกับราชันแท้จริงจิ่วหนิงก็ตาม เขายังคงต่อสู้อย่างดุเดือดจนถึงที่สุด
อย่าไปมองว่าเขาป่วยกะปลกกะเปลี้ยอย่างนั้น ความจริงแล้วเขานับเป็นบุรุษกระดูกเหล็กคนหนึ่ง เป็นคนที่ไม่เคยอ่อนข้อให้กับใคร เวลานี้กลับออกปากยอมรับเป็นคนแรก แล้วจะไม่ให้พวกของอวี่เหยียนเซินต้องตกใจได้อย่างไร
“เรื่องนี้หาใช่เป็นเรื่องน่าอับอายอะไร” ปิ้งจวินทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “พ่ายแพ้ก็แล้ว ยังจะมีอะไรน่าอับอายอีก สามารถรับใช้ภายใต้ผู้ที่เป็นใหญ่สูงสุดถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่ง”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของปิ้งจวินพลันทำให้พวกของอวี่เหยียนเซินต้องนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง กล่าวในแง่มุมของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเช่นกัน แต่ทว่า ลองนึกดู หลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งอยู่ในระดับไหนกัน สามารถเอาชนะจะพวกเขาได้อย่างสบายๆ นั่นก็คืออยู่ในระดับของปฐมบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้เทียบเทียมแล้ว
ระดับปฐมบรรพบุรุษลักษณะเช่นนี้ ปรกติแล้วไม่สามารถพานพบในแดนลัทธิราชันได้อยู่แล้ว เฉกเช่นระดับปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ อย่าว่าแต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะอย่างพวกเขา เกรงว่าแม้แต่ระดับราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขาก็ไม่อาจไม่ก้มศีรษะที่สูงส่งลงมาเช่นกัน
เฉกเช่นที่ปิ้งจวินพูดเอาไว้อย่างนั้น สามารถรับใช้ภายใต้หลี่ชิเย่ก็คือเกียรติอย่างหนึ่งแล้ว หาใช่เป็นความอัปยศ ศักยภาพของหลี่ชิเย่สามารถรับได้กับฐานะเช่นนี้อย่างสิ้นเชิง
“ข้าก็ยินดี” อวี่เหยียนเซินอดที่จะทอดถอนใจออกมาว่า “เทียบกับปิ้งจวินแล้ว ข้านับเป็นอะไรได้?”
“ถ้าเช่นนั้นพวกเรายังจะลังเลอะไรอยู่อีก? ทั้งหมดล้วนเห็นด้วยเถอะ” มังกรทองแปดแขนเห็นว่าแม้แต่ปิ้งจวินก็อ่อนข้อแล้ว มองดูเทพไฉไลหงส์พิษและวัวคลั่งแล้วกล่าวขึ้น
“พวกเรายินดีรับใช้ต่อคุณชาย” ในเวลานี้ พวกวัวคลั่งสามคนต่างทยอยกันยอมศิโรราบ
“ดีมาก” หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ นิ้วมือดีดไปตามอารมณ์ ทำการคลายการสยบบนตัวของพวกเขา และถือโอกาสสลักเครื่องหมายลงบนชะตาแท้ของพวกเขา และเอ่ยเรียบเฉยขึ้นมาว่า “จากนี้ไปก็ทำงานให้ดีก็แล้วกัน”
เมื่อหลี่ชิเย่ถือโอกาสสลักลงบนชะตาแท้ของพวกเขา ก็เท่ากับพวกเขาได้ให้คำมั่นด้วยชะตาแท้ พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของตน ต้องปฏิบัติตามคำสาบานของตน
“คารวะคุณชาย” หลังจากที่ปิ้งจวินได้รับการคลายจุดควบคุมบนตัวแล้ว ได้นำพวกวัวคลั่งลุกขึ้นยืน จากนั้นได้ก้มกราบต่อหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ดีมาก พวกเราออกเดินทางได้”
“คุณชายจะไปที่ใดรึ?” ในเวลานี้ ปิ้งจวินอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมา
หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “ที่ตรงไหนมีกลิ่นอายความชั่วร้ายมากที่สุด ก็คือสถานที่ที่ข้าต้องการจะไป”
“หลุมมรณะ…” เมื่ออวี่เหยียนเซินได้ฟังคำจากหลี่ชิเย่แล้ว อดที่จะรู้สึกใจหายใจคว่ำไม่ได้ และกล่าวว่า “คุณชายจะไปที่หลุมมรณะจริงๆ รึ?”
“คือสถานที่แห่งนั้นแหละ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉย
“สถานที่แห่งนั้น พวกเราไม่สามารถเข้าไปกันได้” วัวคลั่งก็รีบพูดขึ้นมาว่า “สถานที่แห่งนั้นแปลกประหลาดมากเกินไปและน่ากลัวมากเหลือเกิน คนที่เข้าไปต้องเป็นบ้าอย่างแน่นอน ต่อให้ไม่บ้าก็ต้องถูกกลิ่นอายความชั่วร้ายที่น่ากลัวขูดจนตาย”
หลี่ชิเย่มองหน้าพวกเขาทีหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาว่า “พวกเจ้าทดลองมาแล้วรึ?”
“พวกเราทำได้แค่เดินอยู่ริมขอบเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง” มังกรทองแปดแขนถึงกับยิ้มอย่างขมขื่น และกล่าวว่า “อย่าว่าแต่ภาพจินตนาการเพ้อฝันที่ทำให้จิตใจคนสับสนเลย แม้แต่กลิ่นอายชั่วร้ายที่นั่นก็ทำให้ผู้คนรับไม่ได้ ข้าอาศัยแขนทั้งแปดป้องกันร่างกายเอาไว้ เดินไปได้ไม่ไกลก็ต้านไม่อยู่แล้ว กระดูกแขนก็ถูกกลิ่นอายชั่วร้ายนั่นขูดจนขาดจากกัน”
“ในบรรดาพวกเราทั้งหมด ผู้ที่ก้าวเดินเข้าไปได้ลึกที่สุดก็คือปิ้งจวินแล้ว” เทพไฉไลหงส์พิษอชเอ่ยขึ้น
ปิ้งจวินยิ้มเจื่อนๆ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ข้าก็เดินเข้าไปได้ไกลสักเท่าไร เพียงแค่ไกลกว่าพวกเจ้าไปนิดเดียวเท่านั้น ข้าชำนาญในเรื่องนี้ เรื่องของกลิ่นอายความชั่วร้ายยังพอจะทนได้บ้าง แต่ประเภททำให้เกิดเป็นภาพเพ้อฝันตามจินตนาการที่คอยรบกวนทำให้รับไม่ไหว มันเหมือนดั่งเป็นใจมารอย่างนั้น หากยังคงแข็งขืนต่อไปอาจทำให้เสียสติไปได้จริงๆ”
“หลุมมรณะเป็นสถานที่ที่เพียงหนึ่งเดียวที่พวกเราไม่สามารถสำรวจได้” วัวคลั่งกล่าวว่า “ขณะที่พวกเราถูกขังอยู่ในนี้ โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าได้พลิกแผ่นดินไปทุกตารางนิ้วมาแล้ว”
“คุณชายจะเข้าไปจริงๆ รึ?” ปิ้งจวินอดถามขึ้นแผ่วเบาไม่ได้
“ในเมื่อมาถึงแล้ว ไหนเลยมีเหตุผลจะไม่เข้าไป?” หลี่ชิเย่ยิ้มไปมตามอารมณ์ ดูจะไม่ใส่ใจสักนิด
พวกของปิ้งจวินก็รู้สึกว่ามีเหตุผล ยิ่งไปกว่านั้นหลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาไม่รู้เท่าไร การที่พวกเขาเข้าไปไม่ได้ แต่กับหลี่ชิเย่ที่แข็งแกร่งก็ไม่แน่ ไม่แน่นักเขาอาจสามารถผ่านหลุมมรณะไปได้จริงก็เป็นได้
“ฮึ คนดีอายุมักไม่ยืน คนชั่วก่อกรรมนับพันปี” มังกรทองแปดแขนกล่าวด้วยความโกรธแค้นว่า “ตาแก่ฮ่องเต้ไท่ชิงสมควรตายนานแล้ว มีชีวิตอยู่มาสามยุคยังจะเอาอะไรอีก? เขามีชีวิตอยู่จนคุ้มมานานแล้ว”
แม้จะกล่าวว่า พวกของมังกรทองแปดแขนต่างก็เคยเป็นศัตรูกับฮ่องเต้ไท่ชิง เฉกเช่นปิ้งจวินนั้นมีอายุมากกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงเสียอีก
แต่ทว่า พวกเขาไม่เหมือนเช่นฮ่องเต้ไท่ชิงอย่างนั้น ฮ่องเต้ไท่ชิงเป็นฮ่องเต้มาสามยุคสมัย และเขาโลดแล่นอยู่ในโลกมนุษย์มาสามยุค ขณะที่พวกเขามักจะต้องผนึกร่างของตนเอาไว้อยู่เสมอๆ และหรือบำเพ็ญตนอยู่ในที่ลับ และด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงสามารถมีชีวิตอยู่มาโดยตลอด
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เฉกเช่นฮ่องเต้ไท่ชิงที่สามารถโลดแล่นอยู่ในโลกมนุษย์มาโดยตลอด ไม่ต้องผนึกร่างของตน ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสามยุค นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
แน่นอนที่สุด เพราะอะไรฮ่องเต้ไท่ชิงจึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสามยุค ความลับที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นปิ้งจวินเข้าใจดีที่สุด ซึ่งสิ่งนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับซุนเหลิ่งหยิ่ง เพียงแต่ปิ้งจวินไม่ต้องการเอ่ยถึงให้มากความเท่านั้นเอง
“พูดเสียจนเหมือนว่าตัวเองเป็นคนดีอย่างนั้น” เทพไฉไลหงส์พิษค้อนมังกรทองแปดแขนไปทีหนึ่ง และกล่าวช้าๆ ว่า “ในบรรดาพวกเรามีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนโฉด? คนไหนบ้างที่ไม่ใช่ประเภทฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา? ถ้าหากพูดถึงเรื่องฆ่าคนน้อย ดีไม่ดีคงเป็นอวี่เหยียนเซินฆ่าคนได้น้อยที่สุดแล้วล่ะ”
มังกรทองแปดแขนหัวเราะแห้งๆ ทีหนึ่ง แม้ว่าเขาจึงเกลียดฮ่องเต้ไท่ชิงจนเข้ากระดูกดำ แต่จะว่าไปแล้วพวกเขาก็หาใช่คนดีอะไรไม่
“ข้ากลับไม่ต้องการให้ตาแก่ฮ่องเต้ไท่ชิงตายเร็วขนาดนี้” อวี่เหยียนเซินโบกพัดในมือไปมา และกล่าวว่า “บัญชีเก่าระหว่างข้ากับเขา ข้าอยากจะคิดกับเขาสักครั้ง!”
“ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นบัญชีเก่าแก่ ไม่มีความหมายอะไรแล้ว” ตรงกันข้ามกับปิ้งจวินที่ดูจะมองเรื่องนี้จืดจาง และกล่าวว่า “ข้าแค่ต้องการรู้ว่าเขาตายแล้วใช่หรือไม่ สำหรับบุญคุณความแค้นในอดีตล้วนอย่างไรก็ได้ เมื่อคนเราตายไป บุญคุณความแค้นที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเบาบางเรื่องหนึ่งเท่านั้น”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของปิ้งจวินพลันทำให้พวกของเทพไฉไลหงส์พิษต่างนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง จะอย่างไรเสียพวกเขาล้วนแล้วแต่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วทั้งสิ้น
“การมีชีวิตอยู่นับว่าดีจริงๆ” อวี่เหยียนเซินก็อดที่จะกล่าวทอดถอนใจขึ้นมา
“ฮ่องเต้ไท่ชิงเจ้าเล่ห์ดั่งจิ้งจอก” ปิ้งจวินมองไปที่ที่ห่างไกล แววตาอดที่จะเต้นกระตุกนิดหนึ่ง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สิ่งที่เขาทำมักจะอยู่เหนือความคาดคิดเสมอๆ”
พวกของมังกรทองแปดแขนต่างยอมรับสำหรับคำพูดของปิ้งจวิน เนื่องจากปิ้งจวินเติบโตด้วยกันมากับฮ่องเต้ไท่ชิง เขาจึงเข้าใจในตัวของฮ่องเต้ไท่ชิงมากทีเดียว
……………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...