เดิมที ผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจว่าเมืองหมิงลั่วเฉิงจะต้องเงียบสงบระยะหนึ่ง ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า เมืองหมิงลั่วเฉิงเงียบสงบได้ไม่ถึงสองวัน ก็เริ่มคึกคักขึ้นมาอีกแล้ว
ในวันนี้ บนท้องฟ้าของเมืองหมิงลั่วเฉิงปรากฏเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น ช่องว่างบนท้องฟ้ามีการกระเพื่อม ถึงกับมีประตูเปิดออกมา
เวลานี้เอง ท้องฟ้าพลันมืดลง ปรากฏเรือขนาดยักษ์ลำหนึ่งออกมาจากประตู และลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า
ติดตามด้วยเสียงปัง ปัง ปังที่ตกกระทบกับพื้นดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นร่างเงาสูงใหญ่แต่ละสายที่ลงมาจากท้องฟ้า
“นั่นคืออะไร” ผู้คน และผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากภายในเมืองหมิงลั่วเฉิงต่างรู้สึกตระหนก เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้
“แขกผู้มาจากภายนอก” ผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสเคยเห็นสภาพการณ์เช่นนี้มาก่อน เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้วจึงพึมพำขึ้นมาว่า “มียอดฝีมือจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิภายนอกมาที่เมืองหมิงลั่วเฉิงของพวกเราแล้ว”
“เป็นทัพใหญ่จากตระกูลมู่รึ?” ทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อมองเห็นเรือที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าสูง
โชคดี มันหาใช่กองทัพของตระกูลมู่อย่างที่ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้ ที่ลงมาจากบนท้องฟ้าเป็นยอดฝีมือจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่ง หลังจากที่บรรดายอดฝีมือเหล่านี้ลงมาจากเรือยักษ์ถึงพื้นดินแล้ว ได้ทำการสำรวจเมืองหมิงลั่วเฉิงมารอบหนึ่ง และโชคดีที่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ นี้ค่อนข้างมีวัฒนธรรม ไม่ได้ทำการขับไล่ราษฎรที่อาศัยอยู่ในเมืองหมิงลั่วเฉิง หลังจากที่พวกเขาทำการสำรวจแล้วก็ยกออกจากเมืองหมิงลั่วเฉิง ไปตั้งค่ายอยู่ในพื้นที่รกร้างนอกเมืองหมิงลั่วเฉิง
“พวกเขามาจากที่ไหนกันนะ?” ราษฎรของเมืองหมิงลั่วเฉิงจำนวนไม่น้อยก็ให้รู้สึกแปลกใจ มีการสืบเสาะกันลับๆ เมื่อมองเห็นขบวนของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิดังกล่าวไปตั้งค่ายอู่ด้านนอกเมืองหมิงลั่วเฉิง
“นับว่าพบเห็นได้ยากมากนะเนี่ย ถึงกับมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาที่เมืองหมิงลั่วเฉิงของพวกเรา นี่เป็นเพราะจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นรึ?” หลังจากที่พบว่าไม่ใช่กองทัพตระกูลมู่แล้ว ยังคงมีผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสรู้สึกตกใจไม่หาย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในเมืองหมิงลั่วเฉิง ตลอดจนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นยากที่จะมีแขกผู้มาเยือน หรือต่อให้มีผู้มาเยือนก็มากันแค่หนึ่งหรือสองคนโดยลำพังเท่านั้นเอง มีน้อยมากที่ยกกันเป็นขบวนเข้ามายังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นเช่นนี้
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นได้เสื่อมลงแล้ว เทียบไม่ได้กระทั่งสำนักชั้นสาม จากการตกต่ำลงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น ฟ้าดินแห้งแล้ง ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นก็ไม่ได้มีสมุนไพรหรือหญ้าทิพย์ที่เป็นของล้ำค่าต่างๆ ดังนั้นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วหล้าต่างไม่ให้ความสนใจในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น
แม้แต่คนที่ทำการค้าการขายก็จะไม่มาทำการค้าขายที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น จะอย่างไรเสียระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นเป็นพวกยากจน พวกเขาไม่สามารถซื้อหาของดีได้อยู่แล้ว ถ้าหากมาทำการค้าขายที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น พวกเขาอย่าว่าแต่มีกำไรแลย เกรงว่าจะต้องควักเงินจ่ายค่าเดินทางด้วยซ้ำ
ดังนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นจึงมีแขกมาเยือนน้อยมาก ต่อให้มีก็แค่หรอมแหรมเพียงหนึ่งถึงสองคนเท่านั้นเอง
ทันใดนั้น ถึงกับมีขบวนที่แข็งแกร่งยกเข้ามายังเมืองหมิงลั่วเฉิงกะทันหัน นับว่าสร้างความตระหนกระคนกับความแปลกใจกับราษฎรผู้อาศัยอยู่ภายในเมืองหมิงลั่วเฉิงโดยแท้จริง และอยากรู้อยากเห็นมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม การมาของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิดังกล่าวเป็นเพียงการเริ่มต้นเทานั้น หลังจากที่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิดังกล่าวได้มาถึงแล้ว ได้ยินเสียงดังแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ขึ้นมา ในเวลานี้ บนท้องฟ้าปรากฏประตูแล้วประตูเล่าที่เปิดออกมา กองทัพแต่ละกองทัพถูกส่งเข้ามา
บรรดาผู้ที่ถูกส่งมาบ้างเป็นกองกำลังของสำนักๆ หนึ่ง เป็นกองทัพของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่ง และที่เป็นสหายพากันมาสามถึงห้าคน และหรือมากันเป็นกลุ่ม…
แต่ละขบวนที่ลงมาจากบนท้องฟ้ายังเมืองหมิงลั่วเฉิง กระทั่งเรียกได้ว่าภายในระยะเวลาอันสั้น เมืองหมิงลั่วเฉิงถูกบุคคลภายนอกอัดเข้ามาเป็นแสนคน กล่าวได้ว่า ภายในระยะเวลาอันสั้น บรรดาผู้ที่มาจากนอกเมืองหมิงลั่วเฉิงมีจำนวนมากกว่าคนในพื้นที่เสียอีก
บุคคลภายนอกจำนวนมากที่พากันเข้ามาอย่างกะทันหันเหล่านี้ ทั้งยังล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือ ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือที่มีชาติกำเนิดมาจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิขนาดใหญ่ หรือสำนักเจ้าลัทธิทั้งสิ้น ใช่เพียงแค่ทำลายความสงบสุขของเมืองหมิงลั่วเฉิงในทันที ยังทำให้ราษฎรภายในเมืองหมิงลั่วเฉิงถูกทำให้ตกใจจนตะลึงงัน
ปรกติแล้ว ราษฎรที่อาศัยอยู่ภายในเมืองหมิงลั่วเฉิงส่วนใหญ่จะรู้จักคุ้นเคยกัน เวลานี้บนท้องถนนเต็มไปด้วยบุคคลที่มาจากภายนอก อีกทั้งทุกคนยังมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก ไม่แน่นักหากโกรธขึ้นมาก็สามารถทำลายเมืองหมิงลั่วเฉิงได้ สร้างความหวาดหวั่นจนขนลุกซู่ไม่น้อยให้กับราษฎรของเมืองหมิงลั่วเฉิง
เมื่อมียอดฝีมือจากภายนอกเข้ามายังเมืองหมิงลั่วเฉิง ก็ทำให้ราษฎรจำนวนไม่น้อยได้รับผลประโยชน์ โรงเตี๊ยมทั้งหมดของเมืองหมิงลั่วเฉิงเต็มภายในระยะเวลาอันสั้น ขายดีกันเป็นเทน้ำเทท่า อีกทั้งบรรดายอดฝีมือเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นพิเศษ ภายในชั่วข้ามคืนทำให้พวกเขาได้รับผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ
แต่ก็มีสำนักเจ้าลัทธิบางสำนักที่ถูกใจสถานที่ของสำนักขนาดเล็ก จึงจ่ายค่าตอบแทนที่สูงลิ่วแล้วให้บรรดาศิษย์ทั้งหมดของสำนักดังกล่าวไสหัวออกไป โดยที่พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่แทน
แน่นอนที่สุด กล่าวสำหรับสำนักขนาดเล็กในเมืองหมิงลั่วเฉิงแล้ว มันคือราคาที่สูงลิบลิ่ว แต่สำหรับสำนักเจ้าลัทธิที่มาจากภายนอกแล้ว มันเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
ในเวลานี้ เมืองหมิงลั่วเฉิงที่เดิมเงียบเหงาได้กลับกลายเป็นร้อนแรง คึกคักอย่างยิ่ง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจากทั่วทุกสารทิศล้วนแล้วแต่ปรากฎตัวขึ้นที่ตรงนี้ อีกทั้งระดับความร้อนแรงเช่นนี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นไปอีก เนื่องจากยังคงมียอดฝีมือจากสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากทะลักเข้ามายังเมืองหมิงลั่วเฉิง ทะลักเข้ามายังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ หรือว่ามีขุมทรัพย์ที่สะเทือนเลื่อนลั่นจะปรากฏขึ้นมาอย่างนั้นรึ?” เมื่อผู้บำเพ็ญตนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองหมิงลั่วเฉิงมองเห็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากต่างทยอยกันทะลักเข้ามายังเมืองหมิงลั่วเฉิง พวกเขาถึงกับรู้สึกงงงัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...