ตอนที่ 2670 ต้นกำเนิดสัจธรรมตระกูลมู่
คำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนต้องนิ่งเงียบ แม้ว่าการที่จะยอมรับว่าตนเองฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย แต่ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ไม่อาจไม่ยอมรับว่า ตนเองนั้นห่างชั้นกับคนโหดอันดับหนึ่งจริงๆ
แม้ว่าปรกติแล้วราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะเป็นคนที่มองตัวเองว่าสูงเด่นเหนือใคร แต่เขายังคงเป็นคนที่รู้ตัวเองดี มิฉะนั้นล่ะก็เขาก็คงไม่สามารถกลายเป็นราชันแท้จริงแห่งยุคได้
ภายในใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็มีความชัดเจนยิ่งนักว่า ต่อให้ตนเองสู้อย่างเต็มที่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง แต่ว่า ในขณะนี้เขาไม่มีทางเลือก แม้ว่ารู้ทั้งรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเป็นการรนหาที่ตายของตนเอง เขาจำเป็นต้องสู้ให้ถึงที่สุด
กล่าวสำหรับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้ว เขาไม่ทางที่จะถอยได้อีกแล้ว เนื่องจากด้านหลังของเขาก็คือตระกูลมู่ เป็นบ้านของเขาเอง แม้เขาก้าวถอยหลังไปเพียงครึ่งก้าวมันก็คือบ้านของตนเอง เขายังจะถอยไปไหนได้อีก?
ถ้าหากเขาไม่มาขวางอยู่ด้านหน้าของคนโหดอันดับหนึ่ง คนโหดอันดับหนึ่งก็จะต้องทำให้ตระกูลมูของเขาแตกสลายไป
แม้จะกล่าวว่า ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเองก็รู้สึกเสียใจภายหลังที่เป็นศัตรูกับคนโหดอันดับหนึ่ง แต่ว่า โลกนี้ไม่มียาเสียใจภายหลังให้ซื้อ เดินผิดเพียงก้าวเดียวก็คือแพ้ทั้งกระดาน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นใด
“เป็นความจริงที่ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า” ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แต่ วันนี้หากเจ้าก้าวไปข้างหน้าก้าวเดียว ข้าก็จะสู้ถวายชีวิต ขอเพียงข้ายังอยู่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ตระกูลมู่ต้องแตกสลายไป! ข้าจะอาศัยชีวิตของข้าปกป้องมัน!”
คำพูดคำนี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพูดได้หนักแน่นมาก พูดได้จริงใจมาก ไม่มีภาษาดอกไม้ และไม่ได้อวดดี นี่คือคำพูดที่มาจากก้นบึ้งหัวใจของเขาแล้ว
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้วต่างนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ผู้คนจำนวนไม่น้อยเกิดความนับถือขึ้นมา กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วหล้าแล้ว ทุกคนต่างมีหน้าที่ปกป้องตระกูลของตน ปกป้องสำนักของตน
กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว เพื่อปกป้องตระกูลของตนเอง ปกป้องสำนักของตน แม้ว่าจะต้องร่างแหลกเละเป็นผุยผงก็ไม่หวั่น ดังนั้น ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างความเป็นความตายของตระกูลของตน หรือสำนักของตนแล้ว จะผิดหรือถูกก็ไม่มีความสำคัญอีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะเป็นอัจฉริยะบุคคลที่ปราศจากผู้ต่อกรคนหนึ่ง แต่ว่า ในการปกป้องตระกูล ปกป้องสำนักของตนนั้น เขาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนธรรมดาๆ คนหนึ่ง
“อาศัยความตายไปปกป้องตระกูล นับว่าคู่ควรให้ผู้คนนับถือ” หลี่ชิเย่พยักหน้า และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าจะสงเคราะห์เจ้าก็แล้วกัน ฆ่าเจ้าเสีย ทำลายล้างตระกูลมู่”
ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง สุดท้าย เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ลิขิตเอาไว้แล้ว บางทีนับตั้งแต่วินาทีที่น้องชายมู่เส้าเฉิงเป็นศัตรูกับคนโหดอันดับหนึ่ง ทุกอย่างก็ได้ลิขิตเอาไว้แล้ว
คนโหดอันดับหนึ่งยกตนข่มท่าน จะไม่ยอมถอยให้กับผู้ใดอย่างเด็ดขาด ขณะที่ตระกูลมู่ของพวกเขาก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับผู้หนึ่งผู้ใด หรือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหนึ่งลัทธิใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะไม่สยบต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหนึ่งลัทธิใด
ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายมาปะทะกัน ไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย หนึ่งในสองจะต้องตาย
มาวันนี้กล่าวสำหรับตระกูลมู่ของพวกเขาแล้ว ถ้าหากทนและก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ล่ะก็คือท้องทะเลกว้าง ท้องนภาไพศาล แต่หากผ่านไปไม่ได้ ย่อมต้องหายวับไปกับตาในพริบตา
“ดี เช่นนั้นแล้วก็ไม่ตายไม่เลิก!” คำพูดของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนหนักแน่นเปี่ยมด้วยพลัง เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว มีเพียงสู้กระทั่งตัวตายเท่านั้น
ความจริงแล้ว วินาทีก่อนการระเบิดศึกขึ้น ภายในใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่มีความมั่นใจเสียเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเทกำลังสูงสุดของตระกูลมู่ หรือการลงมือช่วยเหลือของนักพรตไป๋ยื่อ ส่งผลให้ภายในใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่มีความมั่นใจเลย เขาเองไม่คิดว่าตระกูลมู่สามารถหัวเราะเป็นคนสุดท้าย จะอย่างไรเสียคนโหดอันดับหนึ่งน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน และลึกล้ำยากจะหยั่งถึง
“สหาย เชิญ” ในเวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังคงมีบุคลิกลักษณะความเป็นราชันแท้จริงแห่งยุค ยังคงมีบุคลิกลักษณะที่ไม่ธรรมดาของความเป็นราชันแท้จริง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของราชันแท้จริงต้องเสื่อมเสีย และไม่ได้ทำให้ฐานะความเป็นราชันแท้จริงของเขาต้องเสื่อมเสีย
“เจ้าลงมือก่อน” หลี่ชิเย่ยืนมือไพล่หลัง ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ตระกูลมู่ของพวกเจ้ายังคงทุ่มเทสรรพกำลังจะดีกว่า วันนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า หากขวางข้าไม่ได้ ตระกูลมู่ของพวกเจ้าหายวับไปกับตาในพริบตา”
“ตกลง…” สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และไม่เกรงใจกันอีกต่อไป
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในเวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้พวยพุ่งประกายสัจธรรมออกมาทั่วตัว จากการที่เขาได้พวยพุ่งประกายสัจธรรมออกมาทั่วตัว ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ก็ได้พวยพุ่งเป็นประกายราชันที่ไม่มีสิ้นสุดออกมาชั่วพริบตา และทันใดนั้นเอง อานุภาพปฐมบรรพบุรุษพลันตลบอบอวลทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่
นาทีนี้ เสมือนดั่งปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่งได้ฟื้นและตื่นขึ้นมา อานุภาพปฐมบรรพบุรุษมีอยู่ทุกที่ อีกทั้งจากการที่ประกายบนตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมีการเปลี่ยนแปลง แสงราชันกลับกลายเป็นแสงปฐมบรรพบุรุษ ทั่งทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ก็ได้พวยพุ่งเป็นประกายของปฐมบรรพบุรุษขึ้นมา
ในเวลานี้ ประกายปฐมบรรพบุรุษได้สาดส่องไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ บนท้องฟ้าได้ปรากฏเป็นเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ นานา ทอดสายตามองออกไป มองเห็นบนท้องฟ้าปรากฏหมื่นราชันเข้าเฝ้า มังกรแท้จริงหงส์เซียนร่ายรำ การหมุนเวียนสับเปลี่ยนของนภาและสุริยัน…ที่เป็นภาพแหตุการณ์ประหลาดเป็นต้น
ในเวลานี้ เหมือนว่ามีปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเองอย่างนั้น ทั่วทุกมุมของตระกูลมู่พลันเต็มไปด้วยกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษ
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่านาทีนี้จากการที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ได้ปรับตามการโยกย้ายสัจธรรมของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ทำให้พลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิก็ได้ฟื้นขึ้นมา เมื่อพลังลักษณะเช่นนี้ฟื้นตื่นขึ้นมา จะมีอานุภาพมากกว่าครั้งก่อนที่ใช้วิธีฟื้นตื่นขึ้นมาโดยอาศัยผ่านช่องว่างที่ขวางกั้นซึ่งอยู่ไกลถึงระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...