ตอนที่ 2722 ถ้ำเซียนมาร
ถ้ำเซียนมารเป็นชื่อที่คุ้นเคยจนไม่รู้จะคุ้นเคยอย่างไรของนิกายหู้ซานจง กระทั่งทั่วระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเซียนมาร ที่นี่คือที่ที่ปฐมบรรพบุรุษ เป็นสถานที่ผู้เฒ่าอมตะบรรลุสัจธรรม และเป็นสถานที่ที่ผู้เฒ่าอมตะสามารถกลับชาติมาเกิดได้
กล่าวสำหรับกัวเจียหุ้ยแล้ว ในอดีตถ้ำเซียนมารเสมือนหนึ่งเป็นตำนาน ได้แต่ฟังคำเล่าลือต่างๆ นานาของมัน ไม่เคยนึกเลยว่าสักวันหนึ่งจะได้เห็นถ้ำเซียนมารด้วยตาของตนเอง
แต่ว่า มาวันนี้นางก็ได้ยืนอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ นางได้ยืนอยู่ด้านหน้าถ้ำเซียนมารที่อยู่ในตำนาน ถ้ำเซียนมารอยู่ใกล้กับนางมากเหลือเกิน
ภายในใจของกัวเจียหุ้ยถึงกับสั่นเทา และมีความตื่นเต้นอยู่บ้างเมื่อมองเห็นสถานที่ที่วัฏสงสารกลับชาติมาเกิดใหม่ของปฐมบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเซียนมารของพวกเขา จะอย่างไรเสีย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่นางไม่กล้าที่จะจินตนาการถึงแม้ในความฝัน
สุดท้าย กัวเจียหุ้ยได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง แบกหลี่ชิเย่ก้าวเดินไปยังถ้ำเซียนมารอย่างช้าๆ
เสียงปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่กัวเจียหุ้ยเพิ่งจะก้าวเดินไปถึงปากถ้ำของถ้ำเซียนมาร พลันไปสัมผัสกับพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรเข้า ทำให้ร่างของนางถูกกระแทกจนตัวปลิว เสียงปังเสียงหนึ่งดังวขึ้น นางได้ตกและกระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง
ในเวลานี้เอง ถ้ำเซียนมารที่เดิมมืดตึ๊ดตื๋อปรากฎประกายขึ้นมา บริเวณปากถ้ำปรากฎเป็นฟิล์มขึ้นมาชั้นหนึ่ง ฟิล์มดังกล่าวนี้มีประกายแสงที่เคลื่อนไหว คล้ายดั่งสัจธรรมนับพันนับหมื่นกำลังเคลื่อนที่อยู่ในฟิล์มอย่างนั้น
แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นเพียงแผ่นฟิล์มบางๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างหนึ่ง เหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นพลังใดๆ ก็ไม่สามารถทำลายมันได้
เวลานี้ เมื่อกัวเจียหุ้ยมองเห็นแผ่นฟิล์มที่มีประกายแสงเคลื่อนไหวแล้วจึงได้เข้าใจว่า ที่แท้ถ้ำเซียนมารยังมีสิ่งต้องห้ามเช่นนี้อยู่ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปยังถ้ำเซียนมารได้
กัวเจียหุ้ยถึงกับจนแต้มเมื่อมองเห็นถ้ำเซียนมารที่อยุ่ตรงหน้า ในใจของนางเข้าใจเป็นอย่างดี นางไม่มีกำลังพอที่จะไปทำลายสิ่งต้องห้ามที่อยู่ตรงหน้าเช่นนี้ได้อยู่แล้ว เกรงว่าในนิกายหู้ซานจงของพวกเขาก็คงไม่มีใครสามารถทำลายสิ่งต้องห้ามเช่นนี้ได้
จังหวะที่กัวเจียหุ้ยกำลังจนปัญญาอยู่นั้น ด้านหลังของนางพลันมีมือขนาดใหญ่ยื่นมา ที่แท้เป็นหลี่ชิเย่นั่นเอง
มองเห็นเพียงมือ่ขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่วางอยู่ที่ฟิล์มที่เป็นประกายนั่น ทันใดนั้นเอง ฟิล์มนั้นเสมือนดั่งประกายที่กระเพื่อมและเคลื่อนไหว ขณะที่ลวดลายเต๋าแต่ละสายที่ออกมาจากฝ่ามือของหลี่ชิเย่ได้กระจายแทรกเข้าไปในประกาย และหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับฟิล์มที่เป็นประกายดังกล่าว
ตามติดด้วยเสียงปุที่ดังขึ้น เสมือนดั่งฟองอากาศระเบิดอย่างนั้น และฟิล์มที่เป็นประกายดังกล่าวก็หายไป
“คุณชาย…” กัวเจียหุ้ยรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง เมื่อหลี่ชิเย่ยืนมือขนาดใหญ่ออกมาทำลายฟิล์มที่เป็นประกายนั้น นับตั้งแต่นาทีที่ปีนขึ้นเขาเป็นต้นมา หลี่ชิเย่ก็ไม่เคยตื่นขึ้นมาเลย ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า นาทีนี่เขาถึงกับฟื้นตื่นขึ้นมาได้แล้ว
หลี่ชิเย่ไม่ได้ลืมตาและส่งเสียงใดๆ ออกมา เมื่อเขาชักมือกลับไปนั้นก็เสมือนดั่งนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น ยังคงไม่มีการขยับตัว เหมือนว่าเขาไม่เคยฟื้นหรือตื่นขึ้นมาอย่างนั้น
กัวเจียหุ้ยค่อยๆ คุ้นชินกับลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้ว นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง แบกหลี่ชิเย่เดินเข้าไปในถ้ำเซียนมารต่อไป
เมื่อกัวเจียหุ้ยเดินเข้าไปยังถ้ำเซียนมารนั้น นางถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง เวลานี้นางยังเข้าใจว่าตนเองนั้นมาผิดที่เสียแล้ว
ถ้ำเซียนมารที่อยู่ตรงหน้าคือถ้ำหินที่ธรรมดาๆ จนไม่รู้ว่าจะธรรมดาได้มากกว่านี้อีกแล้ว ณ ที่ตรงนี้ไม่ได้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันเซียน และไม่มีประกายเซียนที่วูบวาบในจินตนาการ และไม่ได้มีการสลักสุดยอดเคล็ดวิชาปราศจากผู้ต่อกรจนถี่ยิบบนผนังถ้ำอย่างที่จินตนาการ
เรียกได้ว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีอะไรเลย เป็นเพียงถ้ำหินที่ธรรมดาๆ จนไม่รู้จะธรรมดาไปอย่างไรแล้ว เรียกได้ว่าภายในนิกายหู้ซานจงพบเห็นได้ทุกที่
ถ้าหากมีศิษย์ของนิกายหู้ซานจงมาที่ตรงนี้และได้เห็นถ้ำหินนี้แล้ว เกรงว่าล้วนแล้วแต่ไม่เชื่อว่าถ้ำหินที่อยู่ตรงหน้าก็คือถ้ำเซียนมารที่อยู่ในตำนาน นี่แหละคือสถานที่ที่ปฐมบรรพบุรุษของพวกเขาบรรลุสัจธรรม เป็นสถานที่ที่กลับชาติเกิดใหม่ของปฐมบรรพบุรุษพวกเขา จะอย่างไรเสีย สถานที่ที่อยู่ตรงหน้านี้นับว่าธรรมดามากเหลือเกิน
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ กัวเจียหุ้ยได้สติกลับมา สายตาของนางตกไปอยู่ที่มุมๆ หนึ่งของถ้ำเซียนมาร มองเห็นมุมดังกล่าวมีคนนั่งอยู่คนหนึ่ง นางถึงกับตกใจจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว
มองเห็นมุมดังกล่าวมีคนนั่งขัดสมาธิอยู่คนหนึ่ง เป็นผู้เฒ่าคนหนึ่ง ผู้เฒ่าคนนี้สวมใส่ชุดชาวบ้านทั่วไป มีความเรียบง่ายยิ่งนัก บนตัวปราศจากสิ่งประดับใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้เฒ่าผู้นี้มีรูปร่างที่กำยำสูงใหญ่มาก แม้ว่าเขาจะนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น ยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภูเขาลูกหนึ่ง
ผู้เฒ่าผู้นี้มีหนวดยาวเสมออก ภาพรวมของเขาแลดูทรงกำลังอำนาจอย่างยิ่ง เหมือนว่าเมื่อตัวเขาลืมตาทั้งสองขึ้น เสมือนดั่งใต้หล้าก็ต้องถูกเขาสยบเอาไว้อย่างนั้น
ผู้เฒ่าผู้นี้ปราศจากกลิ่นอายใดๆ เหมือนว่าได้เสียชีวิตไปนานมากแล้ว เนื่องจากเสื้อผ้าบนตัวของเขามีฝุ่นที่สะสมอยู่เต็มไปหมด
ดังนั้น เมื่อผู้เฒ่าที่นั่งขัดสมาธิอยู่ท่ามกลางมุมๆ หนึ่งลักษณะเช่นนี้ หากไม่ทันสังเกต ยังเข้าใจว่าเขาคือรูปแกะสลักหินรูปหนึ่ง
“นี่เป็นใครกันนะ?” ภายในใจองกัวเจียหุ้ยบังเกิดความสงสัย เมื่อเป็นผู้เฒ่าที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...