ตอนที่ 2800 ชนเผ่าบาป
ผู้เฒ่าผู้นี้คอยจ้องมองดูรอยประทับสลักบนระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่ตลอดเวลา จังหวะที่พวกเขาทั้งสองฝ่ายเดินสวนกันไปนั้น ดวงตาทั้งสองของผู้เฒ่าเป็นประกาย และเปล่งประกายเยือกเย็นบานเบ่งขึ้นมา
“ชนเผ่าบาป!” สุดท้าย ผู้เฒ่าผู้นี้ได้หยุดเดิน แววตาที่จ้องมองหลี่ชิเย่พลันบานเบ่งความเย็นชาขึ้นมา
เมื่อผู้เฒ่าผู้นี้หยุดเดิน กลุ่มคนของพวกเขาก็หยุดดันตามด้วย ขวับ ขวับ ขวับสายตาทุกคู่ได้ตกลงบนตัวของหลี่ชิเย่ทันที แรกทีเดียว กลุ่มคนของพวกเขายังมีคนจำนวนมากไม่ได้สังเกตหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง
“ผู้อาวุโส อะไรคือชนเผ่าบาป?” ศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งได้ยินชื่อนี้ถึงกับแปลกใจ และพิจารณาหลี่ชิเย่อีกหลายที
“ได้ยินว่า ชนเผ่าบาปนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกเนรเทศ ตามตำนานเล่าว่า บรรพบุรุษของเผ่าดังกล่าวคือผู้ที่ชั่วร้ายเกินกว่าจะให้อภัย แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษหอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเราก็ไม่สามารถโปรดเขาได้ ดังนั้น จึงได้เนรเทศเขาไป ชนรุ่นหลังของเขาจึงถูกเรียกว่าเป็นชนเผ่าบาป” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งได้เอ่ยขึ้นช้าๆ
ชายวัยกลางคนผู้นี้ระหว่างคิ้วกว้างโหนกนูน ท่าทางเรียบร้อย เวลานี้กขาก็อดที่จะพินิจพิเคราะห์หลี่ชิเย่อย่างละเอียดไม่ได้ และยังมองไม่ออกว่าเขามีส่วนไหนที่ชั่วร้าย
“ผู้อาวุโส ท่านยืนยันได้ว่าพี่น้องคนนี้มีชาติกำเนิดเป็นชนเผ่าบาปหรือไม่” ชายวัยกลางคนผู้นี้เอ่ยถาม
“ถูกต้อง เป็นชนเผ่าบาปจริงๆ” หลังจากที่ผู้เฒ่าผู้นี้จ้องมองหลี่ชิเย่อยู่ชั่วครู่ใหญ่ สายตาของเขาจ้องมองไปที่รอยประทับสลักบนระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ตามบันทึกของตำราดึกดำบรรพ์ บริเวณระหว่างคิ้วของชนเผ่าบาปจะมีรอยประทับสลักรอยหนึ่ง รอยประทับสลักบนระหว่างคิ้วของเขาเหมือนกันอย่างกับแกะกับที่บรรยายไว้ในตำรา ดังนั้น เล่าฮูจึงมั่นใจว่าเขาจะต้องมีชาติกำเนิดมาจากชนเผ่าบาป”
“ชนเผ่าบาปไม่บาปอะไร ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” หลี่ชิเย่หัวเราะส่ายหน้า กล่าวว่า “รอยประทับสลักของข้าเป็นเพียงบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเท่านั้นเอง หาใช่เป็นรอยประทับสลักของชนเผ่าบาปอะไรนั่น”
“เจ้าจะเล่นสำบัดสำนวนอะไรก็ไร้ประโยชน์” ผู้เฒ่าผู้นี้เพ่งสายตาไปข้างหน้า และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ครั้งนั้นปฐมบรรพบุรุษได้ขับไล่ชนเผ่าบาปไปยังเมืองล้างบาป หวังว่าพวกเขาและชนรุ่นหลังของพวกเขาสามารถกลับตัวเป็นคนดี และประพฤติตัวใหม่ เพียงแต่ ภายหลังชนเผ่าบาปหายสาบสูญไป มีผู้กล่าวว่าพวกเขาได้ลึกเข้าไปในป่าที่รกร้าง และไม่ปรากฏตัวบนโลกอีกเลย เวลานี้มองดูแล้ว ชนเผ่าบาปพวกเจ้าได้เข้าไปอยู่ในป่ารกร้างจริงๆ เพียงแต่ไม่ได้หายสาปสูญไป!”
พวกคนกลุ่มนั้นถึงกับจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ในเวลานี้ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของผู้เฒ่า และในขณะนี้ แววตาของพวกเขาที่มีต่อหลี่ชิเย่จะมากหรือน้อยก็มีความเป็นศัตรูอยู่บ้าง
จะอย่างไรเสีย ในบรรดาพวกเขามีอยู่ไม่น้อยที่มีชาติกำเนิดมาจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากหลี่ชิเย่มีชาติกำเนิดมาจากชนเผ่าบาป ซึ่งชนเผ่าลักษณะเช่นนี้เป็นชนเผ่าที่หอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเขารังเกียจ และขับไล่ออกไป ทำให้พวกเขาได้ถือเอาหลี่ชิเย่เป็นศัตรูอยู่ภายในใจอยู่แล้ว
“ฟังมาว่าบรรพบุรุษของชนเผ่าบาปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนชั่วที่ไม่อาจให้อภัยทั้งสิ้น ในใจมีแต่ความชั่วร้าย กระทั่งเป็นพวกที่มาจากจอมมารแห่งความชั่วร้าย เกรงว่าชนรุ่นหลังของชนเผ่าบาปต่างก็มีจิตใจที่มืดดำ ถือเป็นคนของความมืดดำ” มีชายหนุ่มที่มีอายุค่อนข้างมากรู้เรื่องเกี่ยวกับคำเล่าลือของชนเผ่าบาปมาบ้าง จึงได้เอ่ยขึ้นมา
“มาจากความชั่วร้าย…” เมื่อกลุ่มคนกลุ่มนี้ได้ยินคำพูดเช่นนี้ พลันมีกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว พวกเขาจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ แววตายิ่งดูไม่เป็นมิตรมากขึ้น ความเป็นศัตรูยิ่งชัดเจนมากขึ้น
“ความรู้แค่ผิวเผินเท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้ม ส่ายหน้า และกล่าวว่า “ต่อให้บรรพบุรุษข้าเป็นชนเผ่าบาป หรือว่าข้าก็คือคนชั่วอย่างนั้นรึ?”
“ฮึมันก็พูดยาก” มีคนผู้หนึ่งที่มีแสงสว่างแผ่ออกมาจากตัวกล่าวเย็นชาขึ้นมาว่า “สันดานสุนัขย่อมแก้ไม่ได้ต้องกลับไปกินอุจจาระอยู่แล้ว บรรพบุรุษคือคนชั่วที่ไม่อาจให้อภัยได้ เกรงว่าชนรุ่นหลังก็คงดีกว่ากันไม่เท่าไร”
“ชนเผ่าบาปไม่ได้ปรากฏตัวมานานมากแล้ว” ท่าทางของผู้เฒ่าผู้นั้นดูระมัดระวัง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “มาวันนี้ชนเผ่าบาปปรากฏอยู่ตรงนี้นับว่าเหนือความคาดคิดโดยแท้ อีกทั้ง เร็วๆ นี้ภายในป่ารกร้างเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ประหลาด มีความมืดลอยขึ้นมา ฟังว่าเป็นการทำพื้นที่ให้เป็นแดนมาร บางทีในที่นี้อาจเกี่ยวพันกันก็ไม่แน่”
“ไม่แน่นักเป็นฝีมือของชนเผ่าบาปพวกเขาที่ก่อเรื่องขึ้นมา” มีผู้ที่จับเอาเรื่องนี้ตั้งข้อสงสัยบนตัวของหลี่ชิเย่และร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา
ในเวลานี้ บรรดาพวกเขาได้มีผู้ที่เดินเข้ามาล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้แล้ว และค่อยๆ ชักอาวุธออกมาช้าๆ ท่าทางจะไม่เป็นผลดีต่อหลี่ชิเย่
“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?” หลี่ชิเย่มองดูพวกเขาที่ค่อยๆ ล้อมวงเข้ามาแวบหนึ่ง
“พูดมา เป็นฝีมือของชนเผ่าบาปพวกเจ้าใช่หรือไม่?” ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มคนที่เข้ามาล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้ร้องเสียงดังขึ้นมา และกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า ”ชนเผ่าบาปพวกเจ้าคิดไม่ดีต่อหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่ และหรือพวกเจ้าฝังแค้นในใจจากการที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าถูกขับไล่ไปในครั้งนั้น ดังนั้นจึงคิดหวนกลับมาอีกครั้ง”
“จินตนาการพวกเจ้ามากเหลือเกิน” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “พวกเจ้ามีจินตนาการที่เยี่ยมขนาดนี้ไม่ไปเล่านิทานกลับมาฝึกปรือ นับว่าเสียดายพรสวรรค์โดยแท้”
“อย่าทำพูดจาเฉไฉ” ดวงตาทั้งสองของชายหนุ่มผู้นั้นที่มีแสงสว่างแผ่ออกมาจากตัวดูดุดัน กล่าวน่าเกรงขามขึ้นว่า “รีบสารภาพมาเร็วไว มิฉะนั้นล่ะก็ น่าดู”
“ผู้อาวุโส เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่” ชายวัยกลางคนที่มีหน้าผากกว้างโหนกนูนไม่สู้จะมั่นใจนัก มองดูหลี่ชิเย่หลายครั้ง ในความคิดของเขามองว่าหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่น่าเป็นไปได้ที่สามารถสร้างแผนร้ายยิ่งใหญ่ได้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นบุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมืดได้
“ทุกอย่างระวังหน่อยเป็นดีที่สุด” ผู้เฒ่าผู้นี้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “มีผู้ที่เข้าไปในป่ารกร้างและส่งข่าวกลับมาว่า สภาพการณ์ภายในหนักหนาสาหัสกว่าที่คิดเอาไว้ ความมืดอาละวาด เกรงว่าจะไม่เป็นมงคล”
ชายวัยกลางคนมองดูหลี่ชิเย่อีกแวบหนึ่ง และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เช่นนั้นแล้วความทำอย่างไรดี?”
จะอย่างไรเสียหลี่ชิเย่ไม่ได้ทำเรื่องที่เลวร้ายโหดร้ายทารุณไร้มนุษยธรรมอะไร ต่อให้มีชาติกำเนิดเป็นชนเผ่าบาป พวกเขาก็ไม่สามารถให้หลี่ชิเย่ต้องได้รับความไม่เป็นธรรม และหรือบอกว่าจะจัดการอย่างไรกับหลี่ชิเย่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...