ตอนที่ 2801 ราชันแท้จริงเซิ่นซวง
ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ตรงนั้น แสงสว่างส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค กลิ่นอายราชันเซียนตลบอบอวล ทำให้ผู้คนต้องเคารพยำเกรงและเงยหน้ามอง
“ท่านอธิการบดี อยู่ที่นี่ด้วยเรื่องอะไรกันเล่า?” ผู้หญิงคนนี้เปิดปากพูดขึ้นมา น้ำเสียงนั้นไพเราะน่าฟังอย่างยิ่ง เสมือนดั่งเสียงธรรมชาติอย่างนั้น ทำให้ผู้คนหลงใหลในสิ่งนี้ ทำให้ผู้คนได้ยินแล้วรู้สึกสบายอกสบายใจ
ผู้หญิงคนนี้พูดกับชายวัยกลางคนที่หน้าผากกว้างและโหนกนูนคนนั้น
ฝ่าบาท…ชายวัยกลางคนรีบแสดงคารวะแบบจีน และตอบคำถามของผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนี้ส่ายหน้า และกล่าวตัดบทคำพูดของชายวัยกลางคน และกล่าวว่า “เมิ่งซิละอายกับการคารวะเช่นนี้จากท่านอธิการบดี ท่านอธิการบดีมีศักดิ์เสมอด้วยเหล่าผู้อาวุโสของเป่ยเยี่ยนอุดรพวกเรา เมิ่งซิเป็นเพียงนักศึกษาของเป่ยเยี่ยนอุดร หากว่ากันด้วยเรื่องอาวุโสแล้ว ท่านอธิการบดีคือผู้อาวุโสของเมิ่งซิ หากท่านอธิการบดีไม่รังเกียจเรียกชื่อของข้าก็ได้”
บรรดาชายหญิงกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ต่างชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงนิดหนึ่ง เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้เข้ากับคนง่ายถึงเพียงนี้ นางที่แข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว ยังคงมีจิตใจที่กว้างเสมือนดั่งหุบเขา ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้ ยิ่งทำให้เลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง นับว่าหาได้ยากยิ่งนัก
“น่าละอาย ข้ามีชีวิตอยู่มาถึงปูนนี้เสียเปล่า” ชายวัยกลางคนหัวเราะด้วยความรู้สึกละอาย และกล่าวว่า “เช่นนั้นเคารพมิสู้ปฏิบัติตาม แม่นางเมิ่ง ผู้อาวุโสเติ้งบอกว่า พี่น้องผู้นี้มีชาติกำเนิดมาจากชนเผ่าบาป พวกเราแค่ต้องการตรวจสอบนิดหนึ่ง”
‘ผู้อาวุโสเติ้ง’ ที่ชายวัยกลางคนพูดถึงก็คือผู้เฒ่าที่จ้องมองหลี่ชิเย่ตลอด และเป็นคนแรกที่เรียกหลี่ชิเย่ว่าเป็นพวก ‘ชนเผ่าบาป’
สายตาของผู้หญิงคนนี้พลันตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ ยามที่แววตาของนางครอบคลุมบนตัวของหลี่ชิเย่นั้น พลันทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงแสงสว่างที่ส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค มีความรู้สึกของแผ่นดินกลับสู่ฤดูใบไม้ผลิอย่างนั้น เหมือนหนึ่งแช่ร่างกายไว้กับน้ำอุ่นอย่างนั้น รู้สึกสบายตัวเป็นพิเศษ และภายใต้แววตาเช่นนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงตัวเองที่ด้อยกว่า
“คุณชายท่านนี้มีชาติกำเนิดมาจากชนเผ่าบาปรึ?” ในเวลานี้สายตาของผู้หญิงที่ตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ก็ดูไม่ออกถึงเส้นสนกลใน เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกแปลกก็คือ หลี่ชิเย่ยังคงมีท่าทีเป็นปรกติภายใต้สายตาของนาง เหมือนไม่คิดว่านางมีอะไรดีนักหนาอย่างนั้น
“อ้อ เจ้าเป็นใครรึ?” หลี่ชิเย่มองดูผู้หญิงคนนี้แวบหนึ่ง และมองดูนางอย่างละเอียด สายตานั้นช่างตามอารมณ์ และไร้มารยาทอะไรอย่างนั้น แน่นอนที่สุด ในสายตาของชายหญิงกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ ท่าทีของหลี่ชิเย่นับว่าไร้มารยาทมากเหลือเกิน ไม่มีความเคารพเลยแม้แต่น้อย
“บังอาจ ถึงกับกล้าพูดจาไร้ยางอายต่อหน้าราชันแท้จริง ไม่รู้จักคำว่าตาย” ชายหนุ่มผู้ที่มีแสงสว่างปรากฏบนตัวจึงร้องกล่าวเสียงดังต่อหลี่ชิเย่ทันที เขามีความเลื่อมใสศรัทธายิ่งต่อผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างยิ่ง กล่าวสำหรับตัวเขาแล้ว สามารถมองเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของนางในระยะใกล้ถึงเพียงนี้ เรียกว่าพึงพอใจอย่างที่สุดแล้ว
เวลานี้หลี่ชิเย่เสียมารยาทขนาดนี้ เขาจึงกล่าวตำหนิเสียงดังไปทันที อยากจะลงมือสั่งสอนหลี่ชิเย่ทีหนึ่งให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
ผู้หญิงคนนี้โบกมือเบาๆ ห้ามไม่ให้ชายหนุ่มผู้นี้ตำหนิเสียงดัง ยังคงมีแสงสว่างส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค ให้ความรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์สูงส่ง แต่ก็เข้ากับคนง่ายอะไรอย่างนั้น
“ผู้คนมากมาย ท่านไม่รู้จักข้าก็สมควรแล้ว” ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ถือโทษอะไร
“ฮึคนโง่เขลาเช่นนี้ แม้แต่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงยังไม่รู้จัก กบในกะลา” มีชายหญิงกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่งเสียงฮึเย็นชาขึ้นมา
กล่าวได้ว่า ในบรรดาพวกเขาใครบ้างที่ไม่เลื่อมใสศรัทธาในตัวของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ากันเล่า แม้ว่านางจะมีอายุใกล้เคียงกับพวกเขา แต่ว่านางได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว เป็นราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกร และเป็นความภาคภูมิใจของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
ชื่อเสียงของราชันแท้จริงเซิ่นซวงเรียกได้ว่าโด่งดังมากในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ และอยู่ในฐานะที่ชื่อเสียงโด่งดังมากในแดนลัทธิเซียนเช่นเดียวกัน ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่เรียกได้ว่าปราดเปรื่องน่าทึ่ง ถือได้ว่าสุดยอดในหล้ามีเพียงหนึ่งไม่มีสอง
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงมีชาติกำเนิดมาจากเป่ยเยี่ยนอุดรของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ อายุน้อยๆ ก็ได้เป็นราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรแล้ว ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ราชันแท้จริงเซิ่นซวงไม่เพียงมีชาติกำเนิดมาจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ เป็นราชันแท้จริงที่กำเนิดและเติบโตอยู่ที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งนี้ และนางยังมีชาติกำเนิดมาจากเผ่าเซิ่นหลิงอีกด้วย
เผ่าเซิ่นหลิงนับเป็นชนเผ่าที่สูงส่ง คนของเผ่าดังกล่าวพลันที่ถือกำเนิดขึ้นมาก็จะมีปีกแสงคู่หนึ่งอยู่ด้านหลัง
ด้วยชาติกำเนิดเช่นนี้ ทั้งยังเป็นราชันแท้จริงที่ถือกำเนิดและเติบโตที่หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ลองนึกภาพดูว่า ราชันแท้จริงเซิ่นซวงจะไม่ให้ผู้คนทั้งหมดในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ถือเอาเป็นความภาคภูมิใจได้อย่างไรกัน
“อ๋อ ที่แท้เป็นราชันแท้จริง” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งท่าทีตามอารมณ์ยิ่ง
ท่าทีลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ได้นำมาซึ่งความโกรธจากผู้คนจำนวนไม่น้อย ชายหญิงจำนวนไม่น้อยพลันจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งต่อท่าทางที่ไม่ให้ความเคารพของหลี่ชิเย่
“ท่านมีชาติกำเนิดมาจากชนเผ่าบาปใช่หรือไม่?” ประกายศักดิ์สิทธิ์ในสายตาที่เสมือนดั่งน้ำไหล ดูอ่อนโยนยิ่งนักขณะที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงจ้องมองที่หลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนมากภายใต้ประกายตาเช่นนี้ของนาง ล้วนแล้วแต่มีสภาพจิตที่ต้องการจะบวชอย่างนั้น
แต่ว่า หลี่ชิเย่ กลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย หัวเราะและยักไหล่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ชนเผ่าบาป ไม่บาปอะไรข้าไม่เคยได้ยิน ข้าแค่ออกมาจากป่าที่รกร้างผืนนี้เท่านั้น พวกเจ้าบอกว่าเป็นเผ่าบาปก็เผ่าบาปแล้วกัน”
“แม่นางเมิ่ง ที่ระหว่างคิ้วของชนเผ่าบาปจะมีรอยประทับสลักรอยหนึ่ง” คนที่ชื่อผู้อาวุโสเติ้ง และก็คือผู้เฒ่าที่คิดว่าหลี่ชิเย่คือชนเผ่าบาปผู้นั้น เขามีชื่อว่าเติ้งเหรินเซิน มีกำลังความสามารถที่สูงมาก เขากล่าวว่า “รอยประทับสลักบริเวณระหว่างคิ้วของเขาเหมือนกับรอยประทับสลักของชนเผ่าบาปทุกอย่าง”
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับจ้องมองดูรอยประทับสลักบริเวณระหว่างคิ้วของหลี่ชิเย่ เมื่อได้ยินคำพูดของเติ้งเหรินเซิน ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริงอีกทั้งยังมีแสงสว่างส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค ต่อให้มีการเก็บงำกลิ่นอายราชันแท้จริง ไม่อาศัยกลิ่นอายราชันแท้จริงมาสยบคนอื่น
แต่ว่า ภายใต้สายตาที่จ้องมองเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงยากที่จะรองรับได้นานแล้ว และหรือคุกเข่าก้มกราบกับพื้นไปนานแล้ว แต่ สิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อหลี่ชิเย่
“รอยประทับสลักชนเผ่าบาปอะไร ความรู้ตื้นเขิน” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและกล่าวว่า “นี่มันเป็นเพียงบาดแผลจากอุบัติเหตุเท่านั้นเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...