ตอนที่ 2802 เมืองล้างบาป
ท่าทางที่เหลาะแหละของหลี่ชิเย่ได้ทำให้เกิดความโกรธเคืองของผู้คนเป็นจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับราชันแท้จริงเซิ่นซวงเจ้าตัวเองกลับไม่ถือสา นางเพียงพยักหน้านิดหนึ่งและกล่าวว่า “วันหน้าหากมีเวลา ข้าย่อมจะไปที่สถาบันศึกษาล้างบาปสักหน่อย”
ท่าทางเช่นนี้ของราชันแท้จริงเซิ่นซวงทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ แต่ก็ต้องเลิกราด้วยความแค้นใจ แม้แต่ตัวของราชันแท้จริงเซิ่นซวงยังไม่ถือสา พวกเขายังจะพูดอะไรได้อีก
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้กล่าวต่อชายวัยกลางคนกับเติ้งเหรินเซินว่า “ใต้เท้าอธิการบดี ผู้อาวุโสเติ้งพวกท่านยังคงกลับไปเถอะ ป่ารกร้างไปไม่ได้แล้ว การทดสอบร่วมกันของสถาบันศึกษาแต่ละแห่งได้ยกเลิกแล้ว เหล่าใต้เท้าอธิการบดีของสถาบันศึกษาต่างๆ ได้ให้นักศึกษาของแต่ละสถาบันศึกษากลับไปก่อนแล้ว”
“คนข้างหลังล้วนแล้วแต่กลับไปหมดแล้ว?” ชายวัยกลางคนถึงกับตะลึง เขาเองก็เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เอง เนื่องจากสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขาคือสถาบันศึกษาที่ห่างจากที่นี่ใกล้ที่สุด ไม่นึกเลยว่า นักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นๆ ยังมาไม่ถึงก็ถอนตัวเสียก่อนแล้ว
“ถูกต้อง” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงพยักหน้า และกล่าวว่า “พระอาจารย์จินกวงได้ส่งข่าวกลับมาแล้วว่า ภายในป่ารกร้างได้กลับกลายเป็นดินแดนมารไปทั่วบริเวณ มีความอันตรายยิ่ง ท่านทั้งหลายไม่เหมาะที่จะเข้าไปอีก เกรงว่าจะถูกทำให้กลายเป็นมาร ดังนั้น หลังจากพระอาจารย์จินกวงส่งข่าวกลับมาแล้ว บรรดาท่านอธิการบดีจึงตัดสินใจยุติการทดสอบชั่วคราว”
“พระอาจารย์จินกวง…” ทุกคนต่างฮือฮาเมื่อได้ยินชื่อนี้ ท่าทางของทุกคนต่างเผยให้เห็นถึงความเคารพยำเกรงอย่างยิ่งเมื่อได้ยินชื่อคนผู้นี้ หากจะกล่าวว่า กับราชันแท้จริงเซิ่นซวงพวกเขาคือเงยหน้ามอง เช่นนั้นแล้ว กับพระอาจารย์จินกวงก็คือเคารพยำเกรง กระทั่งกล่าวได้ว่าเป็นการเคารพยำเกรงชนิดที่ว่าให้ความเคารพสักกระสูงสุด
“พระอาจารย์จินกวงก็มาด้วยแล้ว” เติ้งเหรินเซินก็ให้รู้สึกตกใจและหวาดหวั่นพรั่นพรึง ท่าทางดูเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง
“พระอาจารย์จินกวงได้เข้าไปในป่ารกร้างแล้ว” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงพยักหน้า และกล่าวว่า “เขาคือหนึ่งในผู้ที่เข้าไปในป่ารกร้างได้เร็วที่สุด เกรงว่าเวลานี้คงตะลุยลึกเข้าไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดแล้ว”
“พระอาจารย์จินกวงลงมือต้องกวาดล้างความมืดจนราบคาบได้อย่างแน่นอน” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันยกย่องเมื่อได้ยินว่าพระอาจารย์จินกวงได้เข้าไปในป่ารกร้างแล้ว ในสายตาของทุกคนมองว่า พระอาจารย์จินกวงคือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกร
ชื่อของพระอาจารย์จินกวงคืออำนาจสูงสุดอย่างหนึ่งทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน คือชื่อที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าใครก็ตามหากเอ่ยถึงชื่อพระอาจารย์จินกวงก็จะรู้สึกเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง กระทั่งไม่รู้มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ให้ความเคารพสักการะสูงสุด
ชื่อของพระอาจารย์จินกวงในแดนลัทธิเซียนบ่งบอกถึงสิ่งใด? บ่งบอกถึงความไร้เทียมทาน บ่งบอกถึงความปราดเปรื่องน่าทึ่ง กระทั่งมีผู้กล่าวว่า พระอาจารย์จินกวงสามารถเทียบเคียงกับสิบเจิดจรัสตลอดกาลได้
“นั่นสิ แม้แต่พระอาจารย์จินกวงก็เข้าไปแล้ว ความมืดทุกอย่างล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว” ทุกคนต่างเข้าใจว่าต้องเป็นเช่นนี้ ทยอยกันอุทานด้วยความตื่นตะลึง
“เพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่สามรถพบเห็นตัวจริงของพระอาจารย์จินกวง หากสามารถพบเห็นสักครั้งชีวิตนี้ก็ไม่เสียใจอีกแล้ว” มีศิษย์สาวกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ดูจะบ้าผู้ชายอยู่บ้าง
แน่นอนที่สุด ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะสม ในแดนลัทธิเซียนไม่รู้ว่ามีผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระอาจารย์จินกวงจนให้ความเคารพสักการะสูงสุด และผู้คนจำนวนเท่าไรที่ให้ความเคารพเลื่อมใสในพระอาจารย์จินกวงมากทีเดียว
“ในเมื่อพระอาจารย์จินกวงพูดเช่นนี้แล้ว ทางที่ดีก็คือไม่ไป” ชายวัยกลางคนรีบเร่งพยักหน้า และกล่าวว่า “พวกเราหันหลังกลับไปเดี๋ยวนี้ เพื่อป้องกันเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น”
มาคราวนี้ สถาบันการศึกษาแต่ละแห่งต่างคัดเลือกนักศึกษาออกมาทดสอบ และสถาบันศึกษาล้างบาปอยู่ห่างจากป่ารกร้างใกล้ที่สุด เรียกได้ว่าพวกเขาคือพวกแรกที่มาถึงป่ารกร้างได้เร็วที่สุด ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
แน่นอนที่สุด กล่าวสำหรับทุกคนแล้ว ในเมื่อพระอาจารย์จินกวงก็บอกแล้วว่าป่ารกร้างได้กลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุด ทุกคนต่างรู้ว่าไม่สามารถไปเสี่ยงอันตรายอีกแล้ว
“เชิญท่านอธิการบดีกลับไปก่อน” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงพยักหน้า และเอยขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าจะเข้าไปสังเกตการณ์ป่ารกร้าง เพื่อดูว่าบรรดาพี่ๆ ทั้งหลายมีสิ่งใดให้ข้าช่วยเหลืออีกแรง” ขณะที่นางพูดยังไม่ขาดคำ นางก็ได้หายไปในเส้นขอบฟ้าแล้ว
ทุกคนต่างมองด้วยสายตาส่งราชันแท้จริงเซิ่นซวงจนไปไกลลิบ หลังจากผ่านไปนานมากจึงได้ละสายตากลับมา
“เมื่อไรจึงสามารถเหมือนเช่นราชันแท้จริงเซิ่นซวงอย่างนั้น กวาดล้างความมืด” ผู้คนจำนวนมากกล่าวด้วยความอิจฉา ไม่ง่ายนักกว่าจะละสายตากลับมาได้
พวกเขาต่างรู้ว่าการที่สามารถสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับราชันแท้จริงเซิ่นซวง สามารถเรียกพี่เรียกน้องกับราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้ จะต้องเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะแข็งแกร่งที่สุดของยุคนี้ และคืออัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค
เรื่องเช่นนี้สำหรับพวกเขาแล้วมันคือเรื่องที่ห่างไกลมาก ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาใฝ่ฝันถึง
“พวกเราไปกันเถอะ พี่น้องผู้นี้ก็ติดตามข้ากลับไปยังสถาบันศึกษาล้างบาป” สุดท้าย ชายวัยกลางคนได้เรียกหาหลี่ชิเย่และนำพาทุกคนกลับไป
หลี่ชิเย่เพียงแค่ยิ้มนิดหนึ่งและเดินไปตามอารมณ์ แม้จะกล่าวว่าพวกเขาเดินไปด้วยกัน เพียงแต่ในจำนวนนั้นมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่ชอบหลี่ชิเย่ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าหลี่ชิเย่มีชาติกำเนิดเป็นชนเผ่าบาป พวกเขาก็มองหลี่ชิเย่ในฐานะศัตรู
การที่พวกเขาไม่ได้ลงมือต่อหลี่ชิเย่ในระหว่างทาง ก็นับว่าเกรงใจมากแล้ว และมีสติมากแล้ว
หลี่ชิเย่เองก็ชื่นชอบในความสงบ เดินตามหลังพวกเขาอย่างช้าๆ โดยไม่มีท่าทีรีบร้อนแม้แต่น้อย กลับเป็นว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ในฐานะอธิการบดีเป็นผู้ที่มีจิตใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น เขาเกรงว่าหลี่ชิเย่จะตามไม่ทัน จึงสั่งการให้ศิษย์ผู้หนึ่งคอยดูแลหลี่ชิเย่บ้างเป็นพิเศษ
ศิษย์ผู้นี้ก็เป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปเช่นกัน เป็นคนที่ไม่เลวนัก กำลังความสามารถก็มีความโดดเด่นยิ่งในบรรดานักศึกษาด้วยกัน รูปร่างของเขาสูงใหญ่ ท่วงท่านั้นเผยให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา พลันที่เห็นก็รู้ว่าเป็นคนที่จริงใจมากคนหนึ่ง และการทำงานของเขาก็ทำให้ผู้คนวางใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...