ตอนที่ 2806 มีเพียงสู้ให้ถึงที่สุด
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาการเข้าศึกษาของนักศึกษาใหม่ ดังนั้น ด้านนอกของสถาบันศึกษาล้างบาปจึงมีความคึกคัก แออัดยัดเยียดอย่างยิ่ง
แต่ว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้รับการรบกวนจากบรรยากาศที่คึกคักอย่างนั้นสักนิด หลังจากที่เขาเข้าอยู่ในสถาบันศึกษาล้างบาปแล้วก็ออกไปน้อยครั้งมาก เขาจะนั่งเข้าฌานปล่อยจิตให้ล่องลอยอยู่เสมอ เพื่อกลั่นทำลายสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดนั่น
และขณะที่หลี่ชิเย่ทำการทำลายความมืดนั้นก็ได้รับผลประโยชน์มากทีเดียว ท่ามกลางทะเลแห่งความรู้นั้น ดวงตาแห่งความมืดดวงนั้นได้ถูกทำลายพลังความมืดไปแล้วทั้งหมด
ในที่สุด ภายใต้การสยบและทำลายของลัคนาจตุลักษณ์ ดวงตาแห่งความมืดดวงนี้ได้กลับไปยังรูปร่างดั้งเดิมของมัน มันก็คือดวงตาข้างหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ ภายหลังจากการที่นายของมันมีความแข็งแกร่งมากขึ้น จึงสืบทอดพลังที่ปราศจากผู้ต่อกรมาเท่านั้น เป็นต้นว่าพลังความมืด
เมื่อดวงตาข้างนี้ถูกทำลายพลังความมือทั้งหมดไปแล้ว ในที่สุดได้คืนสู่โฉมหน้าดั้งเดิมของมัน
มันเป็นดวงตาที่มีขนาดใหญ่มากข้างหนึ่ง ดูจากดวงตาข้างนี้แล้ว อย่างน้อยก็รู้ว่าเจ้าของๆ มันไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์ และหากมองดูให้ละเอียด สามารถมองเห็นได้ไม่ยากว่ามันเป็นดวงตาที่มีตาดำคู่
ลำพังดูจากดวงตาข้างนี้ยากที่จะตัดสินว่าเจ้าของดวงตาเป็นสิ่งมีชีวิตลักษณะเช่นใด และหรือเป็นสายพันธุ์อะไร
แต่ว่า เมื่อมองดวงตาดวงนี้อย่างละเอียดก็จะพบว่า ดวงตาข้างนี้มีความยอดเยี่ยมมากทีเดียว ดวงตาข้างนี้เหมือนว่าได้ซ่อนกาลเวลาที่เป็นหนึ่งไม่มีสองเป็นนิรันดร์อย่างนั้น
เหมือนว่าดวงตาข้างนี้จ้องมองดูโลกใบนี้โดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่มฟ้าดินกระทั่งถึงวันนี้ มันได้ผ่านกาลเวลาที่ยาวนานอย่างยิ่ง กาลเวลานับล้านล้านปีล้วนแล้วแต่ถูกเก็บเอาไว้ในดวงตาดวงนี้ กล่าวได้ว่าดวงตาลักษณะเช่นนี้ มันได้ผ่านการมองดูการผลัดเปลี่ยนทดแทนกันระหว่างเจริญรุ่งเรืองและเสื่อมโทรมของชาวโลกจำนวนนับไม่ถ้วน
เหมือนว่าดวงตาข้างนี้ก็คือพยานที่ดีที่สุดนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน
แม้ว่าจะเป็นเพียงดวงตาข้างเดียว แต่ มันไม่ใช่ทองหาใช่หยก มีความแข็งแกรงอย่างยิ่ง เหมือนว่าไม่มี่ของวิเศษใดๆ สามารถทำให้ดวงตาข้างนี้แตกละเอียดได้ ลำพังแค่คุณสมบัติดวงตาข้างหนึ่งก็สามารถมองออกได้ว่า เจ้าของๆ มันนั้นแข็งแกร่งและปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด กล่าวอย่างไม่เป็นการอวดอ้างว่า นั่นคือผู้ดำรงอยูในฐานะไม่มีวันตายไม่แตกดับ
หลังจากที่ทำลายลบล้างพลังความมืดของดวงตาข้างนี้ หลี่ชิเย่เคยพินิจพิเคราะห์ดวงตาข้างนี้อย่างละเอียด สุดท้ายต้องกกกล่าวชื่นชมยิ่งว่า “ยอดเยี่ยมมาก ดวงตาข้างนี้ก็คือสุดยอดของวิเศษที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษอะไรนั่นก็ไม่สามารถเทียบเทียมได้”
กล่าวได้ว่า ดวงตาข้างนี้มีพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียในครอบครอง ขอเพียงสามารถสำแดงพลังของดวงตาข้างนี้ นั่นจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ทำลายฟ้าดินได้เลยทีเดียว
“เจ้าสมควรทราบว่า แหะ ความโชคดีของเขาครึ่งหนึ่งอยู่ที่ดวงตาคู่นี้ มันสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง แย่แน่” สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดถูกหลี่ชิเย่ทำลายลบล้างจนอ่อนแออย่างยิ่งหัวเราะและกล่าวว่า “แต่ว่า ถ้าหากไม่มีดวงตาของเขา คิดจะหาเขาจนเจอยากมาก คิดจะตามหามัน ที่ดีที่สุดก็คือดวงตาของเขา”
‘มัน’ ที่สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดเอ่ยถึงก็คือเจ้าของดวงตาข้างนี้ ส่วนเจ้าของผู้นี้จะดำรงอยู่ในสถานะเช่นใดนั้น ไม่อาจทราบได้
หลังจากที่หลี่ชิเย่ครุ่นคิดพิเคราะห์พิจารณาดวงตาข้างนี้แล้ว สุดท้ายกล่าวว่า “หากพูดถึงขณะที่สมบูรณ์เต็มที่ เจ้ากับมันใครเหนือกว่ากัน?”
แหะ…สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดหัวเราะทีหนึ่งและไม่พูดถึง เพียงพูดว่า “เสียดาย การมาที่แดนสามเซียนนั้นไม่ง่าย ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ หลังจากกาลเวลาตกผลึกมานับล้านล้านปี แม้แต่สวรรค์โจรก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ”
ครั้นสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้กล่าวว่า “แต่ว่า ใกล้แล้วล่ะ ถึงวันนั้นทุกอย่างล้วนไม่คงอยู่อีกต่อไป สวรรค์โจรแล้วอย่างไร ก็ต้องมีโอกาสก้าวเดินไปถึงปลายทางเช่นกัน”
“เสียดายไม่มีวันนั้น” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง
“มีความมั่นใจเป็นเรื่องดี แต่ว่า เกมนี้เจ้าแพ้แน่” สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดกล่าวว่า “ภายใต้สภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้า เจ้าคิดว่าเทียบกับสวรรค์โจรแล้วเป็นอย่างไร?”
หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง มองไปที่ที่ห่างไกล สายตาลึกล้ำเหมือนทะลุผ่านยุคดึกดำบรรพ์ สุดท้าย เขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “หากข้าสู้ จะต้องมีชัยชนะกลับมาแน่!”
“แต่ว่า บนเหล่าชั้นฟ้านั่น เกรงว่าเจ้าจะต้องตาย” สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดกล่าวเรียบเฉยว่า “ต่อให้เจ้าอยู่ในสภาพสูงสุดปราศจากผู้ต่อกร ต่อให้เจ้าสามารถสังหารข้าได้ ชะตากรรมของเจ้าก็ต้องตายแน่นอนเหมือนกัน!”
“ข้าจะรอให้วันนั้นมาถึง” หลี่ชิเย่พูดได้เรียบเฉยมาก และกล่าวว่า “เป็นหรือตายสำหรับข้าแล้วล้วนไม่แตกต่าง ขอเพียงสู้จนสุดท้าย ตายแล้วจะเป็นไรไป”
“สภาพจิตที่ดีมาก” สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดนิ่งเงียบทีหนึ่ง สุดท้ายเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เช่นนั้นแล้วก็ขอให้เจ้ารักษาสภาพจิตเช่นนี้ไปชั่วชีวิต แต่ว่า ยากมาก เมื่อเจ้ายิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นๆ เมื่อเจ้ารู้อะไรมากขึ้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้ายืนอยู่บนจุดสูงสุดนั้น ก้มมองท่องไปหมื่นยุค มองดูฟ้าดินอดีตถึงปัจจุบัน ถึงเวลานั้นแล้วเกรงว่าเจ้าจะไม่อยากตาย ถึงตอนนั้น เกรงว่าสิ่งที่เจ้าหวังจะได้มาก็คือมีชีวิตเป็นอมตะไม่มีวันตาย!”
“จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่หวั่นไหวก็คือไม่แตกดับเป็นนิรันดร์” หลี่ชิเย่ดูเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และกล่าวว่า “สู้รบจนถึงที่สุด เพียงพอแล้ว ยังต้องการอะไรอีก”
“ยอดเยี่ยมมาก” หลังจากสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ สุดท้ายทอดถอนใจขึ้นเบาๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรข้าสู้เจ้าไม่ได้ ปราดเปรื่องน่าทึ่งชั่วชีวิตแล้วมีประโยชน์อันใด พ่ายแพ้ต่อเจ้านับว่าไม่น่าอาย อย่างนั้นข้าทำลายจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนี้ไม่ได้”
“เจ้าก็จะได้ตายอย่างสมปรารถนา” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉย “เมื่อเจ้าตายแล้ว ย่อมจะมีค่าของเจ้าเอง”
สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดไม่พูดอะไรต่ออีก ตกอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...