ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2823

สรุปบท ตอนที่ 2823 แพ้ไม่เป็น: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 2823 แพ้ไม่เป็น จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2823 แพ้ไม่เป็น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2823 แพ้ไม่เป็น

ผลโอมขนขาวตกลงมาเสมือนดั่งห่าฝน เหมือนตำนาน เหมือนความฝัน เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้ในความฝันเท่านั้น กล่าวสำหรับนักศึกษาจำนวนมากแล้ว มีเพียงนอนหลับและฝันไปจึงสามารถฝันเห็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของสวนผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ตกลงมาดั่งห่าฝน ในเวลานี้เกรงว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่ต้องหัวเราะจนตื่นขึ้นมาจากความฝัน

แต่ว่า เวลานี้พวกเขาไม่ได้อยู่ท่ามกลางความฝัน ทุกอย่างเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าพวกเขา มันช่างเป็นจริงอะไรอย่างนั้น และเป็นความจริงที่แท้จริงหาใช่ความรู้สึกหลอน

“เจ้าหยิกข้าทีซิ มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่” มีนักศึกษาที่รู้สึกว่าตนเองเสมือนหนึ่งกำลังอยู่ในความฝัน ถึงพูดกับพรรคพวกที่อยู่ข้างๆ

เมื่อพรรคพวกหยิกเข้าให้อย่างแรง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้ว่านี่หาใช่เป็นความฝัน แต่เป็นความจริง นี่คือเรื่องจริง

ถ้าหากภาพนี้ส่งผลกระทบต่อนักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ นักศึกษาทั้งหมดล้วนแล้วแต่อ้าปากกว้าง นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออยู่แล้ว แค่ดีดนิ้วก็สามารถเคาะเอาผลโอมขนขาวตกลงมาหลายสิบลูก เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บางทีแม้แต่ราชันแท้จริงก็คงทำไม่ได้กระมัง

พวกจ้าวชิวสือต่างกำผลโอมขนขาวที่อยู่ในมือแน่นด้วยความงุนงง หากไม่เป็นเพราะผลโอมขนขาวในมือเป็นจริงขนาดนั้นล่ะก็ พวกเขายังเข้าใจว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝัน

จางติงยวี่พลันยืนเซ่ออยู่ตรงนั้น ปากของเขาอ้ากว้างมาก กว้างขนาดสามารถยัดไข่เป็ดเข้าไปได้ฟองหนึ่ง เขาถูกภาพตรงหน้าทำให้ตื่นตระหนกหวั่นไหว จนขากรรไกรค้าง

“นี่ นี่ นี่ไม่น่าเป็นจริง ไม่น่าเป็นจริง” จางติงยวี่ถึงกับพึมพำขึ้นมา เขาไม่เชื่อว่าภาพตรงหน้าเป็นความจริง

ใช่เพียงแต่จางติงยวี่ที่รู้สึกเหมือนเป็นความฝัน เป็นความเพ้อฝัน ความจริงแล้ว บรรดานักศึกษาจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกว่ามันไร้เหตุผลเหลือเกิน นี่มันไม่เหมือนเป็นจริงเอาเสียเลย แต่ว่ามันกลับเป็นจริงเสียนี่ ความจริงเห็นกันอยู่ตรงหน้านี่เอง ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ความจริงก็คือความจริง มีหลักฐานแน่นหนา

“เสียดาย นี่เป็นความจริงอย่างแท้จริง” หลี่ชิเย่หัวเราะเอ้อระเหยทีหนึ่ง ในเวลานี้ เขาได้นำผลโอมขนขาวที่อยู่ในมือกัดเข้าไปคำหนึ่งและเคี้ยวไปตามอารมณ์ทีหนึ่งก็บ้วนทิ้ง และนำผลโอมขนขาวที่กัดกินไปคำหนึ่งโยนทิ้งไป เมื่อผลโอมขนขาวตกถึงพื้นก็หายไป กลับคืนสู่แผ่นดิน

“ผลไม้แบบนี้รสชาติไม่เอาไหน แค่สินค้าแบกับดินเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่หัวเราะตามอารมณ์ทีหนึ่ง

มองเห็นผลโอมขนขาวที่อวบสมบูรณ์ลูกหนึ่งถูกกัดกินไปคำหนึ่งก็โยนทิ้งไป แถมไม่อยากกินเสียอีก คล้ายว่านี่คือผลไม้ที่แย่ที่สุดในโลกอย่างนั้น

นักศึกษาบางส่วนมีอารมณ์พลุ่งพล่านอยากจะบีบคอหลี่ชิเย่ให้ตายกับมือ เมื่อเห็นพฤติกรรมที่ล้างผลาญสมบัติตระกูลของหลี่ชิเย่เช่นนี้

ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ขั้นห้านะเนี่ย อีกทั้งยังเป็นชั้นเลิศของขั้นห้าอีกด้วย อย่าว่าแต่นักศึกษาธรรมดาทั่วไปเลย แม้แต่กล่าวสำหรับกับนักศึกษาของสี่สถาบันศึกษาใหญ่แล้ว ผลโอมขนขาวลักษณะเช่นนี้ก็ดูจะล้ำค่านะเนี่ย

เป็นไงล่ะเวลานี้เมื่อถึงมือหลี่ชิเย่แล้ว แค่กัดกินผลโอมขนขาวไปคำหนึ่งก็เหมือนได้รับความอยุติธรรมอย่างนั้น เหมือนว่านี่คือผลไม้ที่ไม่เอาไหนที่สุดในโลก และกัดกินแค่คำเดียวก็โยนทิ้งเลย

ลูกที่ล้างผลาญสมบัติพ่อแม่ ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้เกรงว่าคงหาได้ไม่กี่คนทั่วทั้งหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ หรือทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน

ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถือเอาผลโอมขนขาวลูกหนึ่งเป็นของล้ำค่า ถือเป็นผลไม้เซียน หากตนเองได้ครอบครองสักลูกก็ต้องค่อยๆ ย่อยสลายมัน ค่อยๆ ลิ้มลอง ถ้าเป็นคนที่นำเอาผลโอมขนขาวมาทานเหมือนหนึ่งเป็นผลไม้ธรรมดา นั่นก็เรียกว่าฟุ่มเฟือย ถลุงเงินเป็นเบี้ยมากพอแล้ว ทอดสายตามองออกไปทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนก็คงหาได้ไม่กี่คน

กับหลี่ชิเย่เวลานี้เป็นไงล่ะ เขาใช่แค่นำเอาผลโอมขนขาวมาทานเสมือนดั่งผลไม้ธรรมดาเท่านั้น เมื่ออยู่ในปากของเขาแล้วผลโอมขนขาวเหมือนกลายเป็นผลไม่ที่แย่ที่สุด แม้แต่จะทานสักคำก็ไร้อารมณ์

ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่รู้สึกปวดใจ ขณะมองดูผลโอมขนขาวที่ถูกโยนลงพื้นแล้วหายไปลูกนั้น เนื่องจากพวกเขาอยากได้ผลโอมขนขาวสักลูกก็ไม่ง่ายเลย กระทั่งมีคนอยากได้แต่ก็ไม่ได้มาด้วยซ้ำ

“ให้ข้าก็ได้นะ ข้าไม่ถือสาว่าถูกใครเขากัดกินไปคำหนึ่งอยู่แล้ว” มีนักศึกษาถึงกับร้องด้วยความเจ็บปวดในใจ สำหรับพฤติกรรมของหลี่ชิเย่ที่ล้างผลาญพ่อแม่ใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย เป็นที่เศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง และเดือดดาลยิ่งนัก

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกริษยา และอิจฉาเป็นจำนวนเท่าไร สำหรับพฤติกรรมหลี่ชิเย่ที่สุรุ่ยสุร่ายและล้างผลาญพ่อแม่เช่นนี้

ในบรรดาผู้คนทั้งหมดมีเพียงตู้เหวินรุ่ยที่ไม่รู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าหลี่ชิเย่เพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่งก็สามารถเคาะเอาผลโอมขนขาวลงมาได้หลายสิบลูก ในสายตาของตู้เหวินรุ่ยมองว่าเป็นเรื่องปรกติ

“เจ้าแพ้แล้ว” หลี่ชิเย่มองดูจางติงยวี่ช้าๆ ทีหนึ่งด้วยท่าทีเอ้อระเหย

“เป็นไปไม่ได้…” จางติงยวี่ก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยสัญชาตญาณ สีหน้าขาวซีด ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างมากจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่

จางติงยวี่ไม่สามารถยอมรับความจริงเช่นนี้ได้ เมื่อครู่เขาเก็บผลโอมขนขาวมาได้ถึงห้าลูก เรียกได้ว่าชนะแน่นอนอยู่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเขาก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ และพ่ายแพ้จนเหมือนอยู่ในความฝันอย่างนั้น การพลิกกลับเช่นนี้เรียกได้ว่าทำให้เขายากที่จะยอมรับได้อยู่แล้ว

ทุกคนต่างจ้องมองไปที่จางติงยวี่ ภายใต้สายตาจำนวนมากเป็นความจริงที่แน่นอนว่าหลี่ชิเย่ชนะการพนันในเกมนี้ แม้จางติงยวี่คิดบิดพลิ้วก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ใบหน้าของจางติงยวี่แดงจนกลายเป็นแดงคล้ำ เขาร้องเสียงดังขึ้นมาและกล่าวว่า “คนของเมืองล้างบาปพวกเจ้ามีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ ฮึบรรพบุรุษของพวกเจ้าล้วนแล้วแต่เป็นคนร้ายที่ติดคุก ทำเรื่องเลวร้ายทุกอย่าง จะเป็นวิธีที่โหดเหี้ยม หรือวิธีหลอกลวงอะไรก็เอามาใช้สิ้น ฮึ มาคราวนี้ต้องเป็นพวกเจ้าที่เป็นไพร่กลุ่มนี้มีการปรึกษากันมาก่อนว่าจะใช้วิธีการหน้าไหว้หลังหลอกมาโกง และหลอกลวงทุกคน…”

คำพูดของจางติงยวี่ทำให้ทุกคนต้องมองตากันและกัน บางคนมองหน้าจางติงยวี่ด้วยท่าทางเหยียดหยามทีหนึ่ง แม้ว่า เป็นความจริงที่นักศึกษาจำนวนไม่น้อยฝังใจและดูถูกนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาป แต่ว่ามาคราวนี้จางติงยวี่พ่ายแพ้เกมพนันยังจะบิดเบือนเช่นนี้ ยิ่งทำให้ผู้คนดูถูกเขามากยิ่งขึ้น

เพียะเสียงหนึ่งดังขึ้น จางติงยวี่พูดยังไม่ทันจบก็ถูกคนเตะจนล้มลงกับพื้นในเท้าเดียว

“เจ้ากล้าตีข้า…” จางติงยวี่ร้องเสียงแหลมดังขึ้นมาด้วยความโกรธ เมื่อถูกคนเหยียบลงไปอยู่กับพื้น

คนที่จัดการเหยียบจางติงยวี่ลงไปนอนอยู่กับพื้นไม่ใช่หลี่ชิเย่ แต่เป็นตู้เหวินรุ่ย

ขณะที่จางติงยวี่แผดร้องเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ ตู้เหวินรุ่ยยกเท้าขึ้นและกระทืบลงบนแผ่นหลังของจางติงยวี่อย่างแรง ได้ยินเสียงกระดูกแตกละเอียดที่ดังคร๊ากกกขึ้นมา อ๊ากกกเสียงร้องน่าเวทนาของจางติงยวี่ดังขึ้นเสียงหนึ่ง พร้อมกับกระอักเลือดออกมาอย่างแรง

“คนหนุ่มมีบุญคุณความแค้นของคนหนุ่ม ข้าในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสจะไม่เข้าไปก้าวก่าย พวกเจ้าอยากจะก่อเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไรก็ได้ นั่นเป็นเรื่องของคนหนุ่มเช่นพวกเจ้า” ขาข้างหนึ่งของตู้เหวินรุ่ยเหยียบอยู่บนตัวของจางติงยวี่ และกล่าวเรียบเฉยว่า “แต่ว่า เล่นลูกไม้จนขึ้นมาอยู่บนหัวของสถาบันศึกษาล้างบาปล่ะก็ไม่ได้ อยากพนันด้วยก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ได้ ถ้าหากเจ้าต้องการคดโกง เช่นนั้นแล้วอธิการบดีอย่างข้าก็ต้องทวงคืนความยุติธรรมเพื่อนักศึกษาของข้าบ้าง”

การดำรงอยู่ของอธิการบดีอย่างตู้เหวินรุ่ยไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากนัก นักศึกษาจำนวนมากต่างไม่ค่อยมีความเคารพยำเกรงต่อตัวเขามากนัก แต่ว่า จะอย่างไรเสียตัวเขาก็คืออธิการบดีคนหนึ่ง และฐานะของเขาได้รับการเห็นพ้องต้องการเป็นเอกฉันท์จากสี่สถาบันศึกษาใหญ่ ดังนั้น ฐานะของเขาไม่ได้มีปัญหาใดๆ อย่างสิ้นเชิง

ขณะที่เวลานี้จางติงยวี่ต้องการคดโกง ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงเดิมพัน ตู้เหวินรุ่ยในฐานะที่เป็นอธิการบดีจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับนักศึกษาของตนก็ไม่ผิดกติกา และหาใช่เป็นการรังแกเด็กของตู้เหวินรุ่ย

ดังนั้น เวลานี้ตู้เหวินรุ่ยก้าวออกมาดำเนินการในด้านความยุติธรรม นักศึกษาจากสถาบันศึกษาใหญ่ต่างๆ ล้วนแล้วแต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมตรงไหน

“เจ้า เจ้า เจ้ากล้าตีข้า” จางติงยวี่ร้องเสียงแหลมขึ้นมา และกล่าวว่า “ข้า ข้า ข้าเป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพนะ เจ้า เจ้า เจ้ากล้าแตะต้องข้า สถาบันศึกษาสู่กวงพายัพพวก พวก พวกเราจะต้องไม่จบไม่สิ้นกับสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเจ้า!”

………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล