ตอนที่ 2862 เหยี่ยวเทพห้าสี
ตูม…ตูม…ตูม…เสียงฟ้าถล่มดินทลายแต่ละเสียงที่ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน ในเวลานี้ พื้นดินสะเทือนภูเขาสั่นไหว เหมือนสวนดึกดำบรรพ์ถูกทำให้สั่นคลอนอย่างนั้น
ในเวลานี้ทุกคนมองออกไปข้างหน้า ปรากฏว่าภูเขาที่อยู่ห่างไกลออกไปข้างหน้าดูระเนระนาดเละเทะไปหมด เหมือนฟ้าถล่มดินทลายอย่างนั้น ภูเขาขนาดยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนได้แหลกละเอียดไปจนสิ้น แม่น้ำแต่ละสาย บึงน้ำแต่ละแห่ง หากไม่ถูกทำให้หักก็ถูกยิงถล่มจนทะลุ สร้างความหวั่นไหวแก่จิตใจอย่างยิ่ง
ขณะที่ทุกคนมองออกไป เห็นหนึ่งคนหนึ่งสัตว์กำลังต่อสู้กันจนฟ้าถล่มดินทลาย ไม่เพียงพื้นดินที่ถูกทำลายจนแหลกละเอียดเท่านั้น แม้แต่ดวงดาวแต่ละดวงที่อยู่บนท้องฟ้ายังถูกซัดจนระเบิดแตกออก สร้างความหวั่นไหวแก่จิตใจผู้คนเป็นอย่างยิ่ง เหมือนเป็นวันสิ้นโลกอย่างนั้น
หนึ่งคนหนึ่งสัตว์นี้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด และสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คน และหนึ่งคนหนึ่งสัตว์นี้ก็คือราชันแท้จริงหลินซินที่เคยพบกันใต้ต้นสูงศักดิ์นั่นเอง
ในขณะนี้ ราชันแท้จริงหลินซินสำแดงอานุภาพราชันออกมาอย่างเต็มที่ อานุภาพราชันที่ยิ่งใหญ่ไพศาลปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน เกรียงไกรไปทั่วหล้า ในเวลานี้ทำให้ผู้คนลืมไปแล้วว่านางคือผู้หญิงที่ดุจดั่งเอลฟ์คนหนึ่ง นี่แหละจึงเป็นฐานะที่นางพึงมี นั่นก็คือราชันแท้จริง
ขณะที่อานุภาพราชันแท้จริงของราชันแท้จริงเจ็ดลัคนาสำแดงออกมาเต็มที่นั้น เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด อานุภาพราชันของนางนั้นยิ่งใหญ่ไพศาลเหนือฟ้า ภายใต้อานุภาพราชันของนางเหมือนว่าแม้แต่ฟ้าดินก็ดูจะใกล้กันเหลือเกิน เพียงอานุภาพราชันของนางตวัดออกไปเบาๆ ก็สามารถทำลายล้างเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินจนพินาศย่อยยับ
เวลานี้ราชันแท้จริงหลินซินก็ได้สำแดงความสามารถที่แท้จริงออกมาแล้ว ลัคนาทั้งเจ็ดพุ่งขี้นฟ้าอย่างรุนแรง ล่องลอยเป็นนิรันดร์ ลมปราณทั้งหมดได้กลับกลายเป็นทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ขอบเขตราชันแท้จริงสยบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน
ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ปีกขนทองที่อยู่บนหลังของนางเรียกได้ว่ามีกระบวนการที่สลับซับซ้อนระหว่างที่กางออกและหุบเข้า ด้วยท่าทีที่สามารถเกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน
ปีกขนทองคู่นี้ของนางนับว่าแข็งแกร่งมากเหลือเกิน ขณะที่ปีกทั้งสองหุบเข้ามานั้น คล้ายดั่งเป็นเสื้อเกราะสีทองที่คลุมร่างของนางเอาไว้ พลันป้องกันการโจมตีทุกอย่างได้ และยังมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก เหมือนว่าไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายมันได้
ขณะที่ปีกขนทองของนางกางออก เสมือนหนึ่งเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์สองเล่มที่ขยับไปมาสังหารไปรอบทิศ ด้วยท่าทีเปิดฟ้าเบิกดิน ดุดันปราศจากสิ่งใดเทียบเทียม สังหารสิ้นทุกแดน
ผู้ที่ต่อสู้กับเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินคือวิหคเทพตัวหนึ่ง เจ้าวิหคเทพตัวนี้มีห้าสี มีหางเป็นแสงที่ลากยาวมาก ขณะหางที่เป็นแสงส่ายไปมานั้น เสมือนดั่งเป็นดวงดาวแต่ละดวงที่ปลิวร่อนลงมาอย่างนั้น มันมีความเข้มแข็งทรงพลังและปราดเปรียว ระหว่างที่บินร่อนเหมือนขับเคลื่อนให้ท้องฟ้าเคลื่อนตามไปอย่างนั้น มันคือวิหคเทพที่แข็งแกร่งยากจะหาผู้ใดเทียมตัวหนึ่ง
ตอนที่หางของเจ้าวิหคเทพตัวนี้กวาดผ่านนั้น ฟ้าดินถล่มดวงดาราถูกทำลาย หางแสงแต่ละสายเสมือนหนึ่งเป็นสัจธรรมสูงสุดแต่ละข้อ สุดยอดในหล้ายากจะมีผู้ทัดเทียม ดังนั้น เมื่อหางของมันลากผ่านจึงเข้าปะทะกับปีกขนทองของราชันแท้จริงหลินซินโดยตรง
ขณะที่ปีกและหางทั้งสองฝ่ายปะทะกันนั้น เสมือนดั่งฟ้าถล่มดินทลาย สะเก็ดไฟที่พวยพุ่งเจิดจ้าแสบตายิ่งนัก สะเก็ดไฟทุกเม็ดที่กระจายตกลงมาสามารถทำลายภูเขาแต่ละลูก หลอมละลายผืนแผ่นดินได้ผืนหนึ่ง มีความอันตรายยิ่งนัก
เนื่องเพราะการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายนั้นมีความอันตรายยิ่งนัก แม้ว่านักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่มาดูชมความคึกครื้นจะอยู่ห่างออกไปไกลมาก ยังคงถูกภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทำให้ต้องตระหนกตกใจ
ไม่ว่าจะเป็นวิหคเทพตัวนี้ หรือราชันแท้จริงหลินซิน พวกเขาต่างก็มีความแข็งแกร่งมากเหลือเกิน การใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสมรภูมิรบ สู้กันจนฟ้าถลุ่มดินทลาย ทำให้สัตว์ขนาดใหญ่บางส่วนทยอยกันสตื่นจากการหลับไหล พวกมันไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ แต่ถอยห่างออกจากที่ตรงนี้เมื่อพวกมันเห็นภาพนี้
ด้วยเหตุนี้เอง เสียงตูม ตูม ตูมดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย จากการที่สัตว์ขนาดยักษ์เหล่านี้ถอยห่างออกไป ทำให้ภูเขาและยอดเขาศักดิ์สิทธิ์จำนวนไม่น้อยถูกพวกมันเหยียบจนแหลกละเอียด
“นังหนูคนนี้นับว่ามีสายตาแหลมคม” กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวชื่นชมขึ้นมา เมื่อเห็นราชันแท้จริงหลินซินสู้รบพันตูอยู่กับวิหคเทพตัวหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าเหยี่ยวเทพห้าสีตัวนี้นับว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งโดยแท้ สยบมาเป็นพาหนะนับว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว ทั้งเก่งในด้านการต่อสู้ยังมีความเร็วสูงมากอีกด้วย”
บรรดานักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปอย่างจ้าวชิวสือมองจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก เอะอะก็ทำลายดวงดาว ทำลายสุริยันจันทรา กำลังความสามารถระดับนี้นับว่าน่าสยดสยองเหลือเกิน ราชันแท้จริงเช่นนี้ เรียกได้ว่าแค่ขยับตัวก็สามารถทำลายสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขาได้แล้ว
“นังหนูคนนี้นนับว่าไม่เลวจริงๆ นะเนี่ย” กระบือดำขนาดใหญ่จ้องมองดูราชันแท้จริงหลิงซิน แล้วหัวเราะแหะแหะกล่าวกับหลี่ชิเย่ว่า “ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ แหะข้างกายขาดสาวหรือไม่? จะให้ข้าช่วยเป็นสือให้ท่านหรือไม่?” กล่าวพลางหัวเราะด้วยท่าทีที่ต่ำทรามขึ้นมา
“พอใช้ได้ สายเลือดบริสุทธิ์” หลี่ชิเย่มองดูราชันแท้จริงหลิงซินแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ
พฤติกรรมของกระบือดำขนาดใหญ่ดูจะต่ำทรามมากขึ้น เขากะพริบตาทีหนึ่ง หัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “ให้ข้าช่วยจับมาให้ท่านดีมั้ย ด้วยสายเลือดที่บริสุทธิ์เช่นนี้ ทายาทที่สืบทอดต่อมาจะต้องเป็นผู้มีความสามารถมาก อนาคตไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน”
“เจ้าคิดมากไปแล้ว” หลี่ชิเย่เหลือบมองกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ข้าเพียงบอกว่า สายเลือดเช่นนี้มาเป็นสาวใช้ช่วยผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับข้าอะไรทำนองนั้น ข้ายังรับได้”
คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้นักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปงงงัน สมควรทราบว่า ราชันแท้จริงหลิงซินนั้นคือราชันแท้จริงเจ็ดลัคนาเชียวนะ นางไม่เพียงมีชาติกำเนิดมาจากเผ่าปีกสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้สืบทอดของสวนเอเดนนะเนี่ย ตำแหน่งฐานะสูงส่งเพียงใด
เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับบอกว่า เฉกเช่นราชันแท้จริงเจ็ดลัคนาอย่างราชันแท้จริงหลิงซินก็แค่เป็นสาวใช้ช่วยเปลี่ยนเสื้อให้เขา คำพูดนี้นับว่าแรงสุดๆ
“คุณชาย นางเป็นคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยนนะ” มีนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปกล่าวเตือนสติหลี่ชิเย่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...