ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2932

ตอนที่ 2932 ผู้หญิงลึกลับ

มองเห็นมุมถนนมีคนสองคนก้าวเดินออกมา พวกนางเก้าวเดินอยู่บนถนนที่คึกคักสายนี้ แต่ทว่า เมื่อพวกนางเดินผ่านมาเหมือนว่าฟ้าดินล้วนกลับกลายเป็นเงียบสงบอย่างนั้น

ทันใดนั้นถนนที่มีความคึกคัก ด่านเทียนสงกวานที่เจริญรุ่งเรือง ล้วนแล้วแต่เหมือนว่าห่างไกลจากพวกนางมากเหลือเกิน เหมือนอยู่กันคนละโลกโดยสิ้นเชิงอย่างนั้น

ขณะที่พวกนางเดินผ่านเข้ามา ทำให้ผู้คนที่มองเห็นรู้สึกไม่ค่อยจะแน่ชัดนัก ชัดเจนว่าผู้ที่ก้าวเดินอยู่ด้านหน้าคือนาย และก็คือผู้ที่เอ่ยคำขึ้นมาเมื่อครู่ แต่ว่า โฉมหน้าที่แท้จริงของนางถูกปิดบังเอาไว้แล้ว

ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้คลุมหน้าด้วยผ้าบาง และหรือใส่หมวกอะไรนั่น แม้ว่านางจะไม่ได้อาศัยสิ่งใดมาปิดกั้นรูปโฉมของตน ก็ทำให้ผู้คนมองนางได้ไม่ชัดเจน

ทั้งๆ ที่นางยืนอยู่ตรงหน้านี่เอง แต่ทว่า กลับมองเห็นรูปโฉมของนางได้ไม่ชัดเจน มองเห็นรูปลักษณ์ของนางไม่ชัดเจน แต่ก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะมองเห็นได้ชัดเจนมากอย่างนั้น แต่กลับไม่สามารถจดจำและหรือนึกขึ้นมาได้ว่านางมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ไม่สามารถค้นหาคำใดๆ มาเปรียบเปรยความรู้สึกเช่นนี้ได้อยู่แล้ว

บางทีสิ่งนี้ก็ประดุจดั่งอยู่ในความฝันอย่างนั้น มันช่างดูชัดเจนเหมือนจริงมาก แต่ก็ช่างเหมือนเป็นจินตภาพอย่างนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาจากความฝันแล้วก็ไม่สามารถจดจำได้ว่า ผู้ที่อยู่ในความฝันมีรูปร่างหน้าตาเช่นใด

ย่อมไม่ต้องสงสัย ผู้หญิงคนนี้ได้อาศัยวิธีการที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งมาปิดบังรูปโฉมของตนเอง ซ่อนเร้นร่างที่แท้จริงของตนเอง ดังนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่สามารถมองเห็นนางได้ชัดเจน ไม่รู้ว่านางมีรูปโฉมที่งดงามหรือขี้เหร่

ขณะที่หญิงรับใช้ที่เดินติดตามอยู่ข้างกายผู้หญิงคนนั้น ผู้คนกลับสมารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน หญิงรับใช้ผู้นี้มีรูปโฉมที่งดงามอย่างยิ่ง กล่าวได้ว่าหญิงรับใช้ลักษณะเช่นนี้ไม่ว่าก้าวไปถึงไหนก็ตาม ล้วนแล้วแต่สามารถยกย่องได้ว่างามหยาดเยิ้ม คิ้วเรียวยาวสีดำเข้ม ใบหน้าทรงกลมรูปไข่ นัยน์ตาทั้งสองดั่งดวงดาว เหมือนสามารถเอ่ยคำวจีอย่างนั้น

รูปร่างของหญิงรับใช้เรียกได้ว่านูนเว้าอย่างมีรสนิยมเป็นที่ดึงดูดผู้คนอย่างยิ่ง สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนได้อย่างไม่คลาดสายตา

ขณะที่หญิงรับใช้ผู้นี้กลับแต่งกายด้วยชุดที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ดูไปแล้วคล้ายเป็นชุดของบุรุษ ส่งผลให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกเหมือนหญิงปลอมเป็นชายอย่างนั้น โดยเฉพาะขณะอกของนางที่กระเพื่อมขึ้นลง ยิ่งดูจะเป็นที่ดึงดูดสายตายิ่งนัก เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้นางเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดใจผู้คนอย่างยิ่ง

เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น นายและบ่าวคู่นี้ก็เดินเข้ามาใกล้แล้ว ขณะที่พวกนางเดินเข้ามานั้น มักให้ความรู้สึกผู้คนอย่างหนึ่ง เหมือนว่าพวกนางก้าวเดินออกมาจากความฝัน ขณะที่ทุกคนล้วนแล้วแต่เหมือนกำลังอยู่ในความฝันอย่างนั้น

เมื่อนายและบ่าวคู่นี้เดินเข้ามาใกล้ กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังที่ยกตนข่มท่านเมื่อครู่ถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว พวกเขาต่างทยอยกันก้มหน้าลง สามารถมองออกว่าพวกเขาถูกทำให้ตกใจจนใบหน้าขาวซีด ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาสองคนหวั่นเกรงต่อนายและบ่าวคู่นี้เป็นอันมาก

สมควรทราบว่า ทั้งกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังก็คือสามเณรที่อยู่ภายใต้หมิงหวังฝอโดยตรง ได้รับการให้ความสำคัญอย่างยิ่งจากหมิงหวังฝอ สำหรับหมิงหวังฝอนั้นไม่ต้องกล่าวมากความ ในฐานะที่เป็นเทพแท้นจริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง กำลังความสามารถนั้นสยบทั่วหล้าเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นเจ้าอาวาสของวัดลังกา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งของเหล่าพระสงฆ์ทั้งหมด

กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังใฝในฐานะที่เป็นสามเณรภายใต้หมิงหวังฝอโดยตรง พวกเขาติดตามอยู่ซ้ายขวาข้างกายหมิงหวังฝอตลอดมา มีอุปสรรคใดบ้างที่พวกเขาไม่เคยพบ มีบุคคลเช่นใดที่พวกเขาไม่เคยเจอ กล่าวได้ว่า มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในยุคปัจจุบันที่สามารถทำให้พวกเขาต้องหวาดกลัวได้

แต่ว่า ในเวลานี้สามารถมองออกได้อย่างสิ้นเชิงว่า กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังมีความเกรงกลัวอย่างยิ่งในนายและบ่าวคู่นี้

“น่าเคารพยำเกรงมากเหลือเกินนะเนี่ย” ในขณะนี้นายและบ่าวคู่นี้ ผู้เป็นนายยังไม่ทันพูดอะไร แต่หญิงรับใช้ข้างกายของนางกลับจ้องเขม็งไปที่กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ที่ทีหมิงหวังฝอได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้แล้ว กุมารภายใต้หมิงหวังฝอโดยตรงสามารถอาศัยกำลังบังคับบิณฑบาตกลางวันเสกๆ ได้แล้ว เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก” มองออกได้ว่า ลักษณะนิสัยของหญิงรับใช้ผู้นี้ก็ไม่ได้ดีอะไรหนักหนา ท่าทางดุดันอย่างยิ่ง

ทั้งกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังล้วนแล้วแต่ไม่กล้าปริปากสักคำ เมื่อถูกหญิงรับใช้ผู้นี้ด่าว่า เหมือนว่าไม่มีความกล้าแม้แต่จะพูดตอบโต้เสียด้วยซ้ำ

ไป่จินหนิงรู้สึกแปลกใจยิ่งนักเมื่อได้เห็นลักษณะเช่นนี้ นางได้ยินชื่อเสียงของกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังมานานมาก ในฐานะที่เป็นกุมารภายใต้หมิงหวังฝอโดยตรง เรียกได้ว่ามีตำแหน่งและอำนาจสูงส่ง

แต่ทว่า เวลานี้กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังเมื่ออยู่ต่อหน้านายและบ่าวคู่นี้แล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าผู้หญิงลึกลับผู้นี้มีฐานะสูงส่งยิ่งกว่าหมิงหวังฝอเสียอีก มีประวัติความเป็นมาที่น่ากลัวยิ่งกว่าหมิงหวังฝออีก

สิ่งนี้สร้างความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างยิ่งให้กับไป่จินหนิง ผู้หญิงลึกลับผู้นี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่นะ? ”

“ช่างเถอะ ไม่ทำให้พวกเจ้าต้องลำบากใจ” ผู้หญิงลึกลับที่ปิดบังรูปโฉมผู้นั้นโบกมือเบาๆ และสั่งการออกไปว่า “ไปเถอะ จำเอาไว้ เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า”

“ศิษย์จะจดจำไว้”กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังไม่กล้าทำอะไรแม้แต่น้อย ก้มหน้า และแสดงคารวะต่อผู้หญิงลึกลับ จากนั้นหันหลังจากไปทันที กระทั่งสามารถกล่าวได้ว่าหนีไปมาเปรียบเปรยพวกเขาก็ได้

ท่าทางของกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวังคล้ายดั่งหนูเจอะเจอกับแมวอย่างนั้น โดยเฉพาะขณะผู้หญิงลึกลับปล่อยพวกเขาไปนั้น ท่าทางของพวกเขาเหมือนได้รับการอภัยโทษครั้งใหญ่ แทบอยากจะหนีไปทันทีให้รู้แล้วรู้รอดไป

หลี่ชิเย่ไม่ได้มองดูอะไรสักครั้งสำหรับการหลบหนีไปของกุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมารขวาหมิงหวัง สายตาของเขาตกไปอยู่บนตัวของผู้หญิงลึกลับผู้นั้น แม้ว่าผู้หญิงลึกลับผู้นั้นจะอาศัยวิธีการที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งมาปิดบังโฉมหน้าของตนเอง แต่ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับหลี่ชิเย่ที่จะพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด

ผู้หญิงลึกลับผู้นี้มีท่าทีสง่างามเปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่เหมาะ ปล่อยให้หลี่ชิเย่พินิจพิจารณาตามอำเภอใจ

ตรงกันข้าม หญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งข้างกายผู้หญิงลึกลับดูจะไม่ยอมรับ เมื่อเห็นสายตาหลี่ชิเย่ที่กำเริบเสิบสานจ้องมองพินิจพิเคราะห์คุณหนูของตนเอง นางรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาทันที นางจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ทันที เหมือนหนึ่งเป็นการประท้วงต่อหลี่ชิเย่อย่างนั้น

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่จึงได้ละสายตากลับมาและยิ้มๆ

“คุณหนูก็เห็นด้วยกับคำพูดของเขา” หญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งรู้สึกตกใจระคนกับแปลกใจ

“เป็นเพราะเจ้ามองเขาได้ไม่ทะลุปรุโปร่ง และไม่สามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของเขา” ผู้หญิงลึกลับส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “กุมารซ้ายหมิงหวัง และกุมมารขวาหมิงหวังนับเป็นอะไรได้ในสายตาของเขา ก็แค่มดปลวกเท่านั้นเอง แค่หนึ่งฝ่ามือก็ตบจนตายได้ อย่าว่าแต่สองกุมารเลย แม้แต่หมิงหวังฝอมาด้วยตนเองก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา”

“หรือว่าเขาจะเหนือกว่าคุณหนูอย่างนั้นรึ? ” หญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

“ไหนเลยแค่แข็งแกร่งมากกว่าข้าเท่านั้น” ผู้หญิงลึกลับมองไปยังทิศทางที่หลี่ชิเย่จากไปไกล สายตาลึกล้ำ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เกรงว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าทุกๆ คนในยุคนี้ ความแข็งแกร่งของเขานั้น หาใช่สิ่งที่รุ่นของพวกเราสามารถคาดการณ์ได้อยู่แล้ว”

“แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวรึ? ” หญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งไม่ค่อยอยากจะเชื่อ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และกล่าวว่า “เขาเหมือนคนที่ปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้าตรงไหน”

สิ่งนี้จะไปโทษหญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งมีความคิดเช่นนี้ก็ไม่ถูก จะอย่างไรเสีย ท่าทางของหลี่ชิเย่เรียกว่าธรรมดามากจริงๆ ธรรมดาจนทำให้ผู้คนมองเห็นแวบหนึ่งก็ลืมไปทันที มนุษย์ปุถุชนทั่วๆ ไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

“คนเราจะดูที่หน้าตาไม่ได้” ผู้หญิงลึกลับเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ เจ้าดูถูกเขามากไปแล้ว คนอย่างบรรพบุรุษเป็นคนอย่างไร เจ้าคิดว่าไม่ว่าใครก็สามารถเข้าตาของท่านอย่างนั้นน่ะสิ”

“ที่คุณหนูพูดมาก็ถูก” เมื่อหญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งได้ฟังคำเช่นนี้แล้วก็ยอมรับ และก้มหน้าลง

ผู้หญิงลึกลับมองไปยังทิศทางที่หลี่ชิเย่จากไปไกล ท่างทางประหลาด นางทำท่าเอียงศีรษะ เหมือนคิดอะไรบางอย่างได้อย่างนั้น

“คุณหนู เช่น เช่นนั้นพวกเขาควรทำอย่างไร? ”หญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งเงยหน้าขึ้น

“ดูไปก่อน” ผู้หญิงลึกลับเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ในเมื่อต่างก็ออกมากันแล้ว ก็ลองไปสักหน่อย ไท่อิ๋นสี่มิใช่จะจัดงานเลี้ยงใหญ่ใต้หล้ารึ? พาเจ้าไปเพิ่มพูนประสบการณ์บ้างก็ดีเหมือนกัน”

“แล้วหลี่ชิเย่คนนี้เล่า? หญิงรับใช้ที่งามเลิศล้ำยิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่ และกล่าวว่า “คุณหนูจะจัดการอย่างไรเล่า? หรือคุณหนูจะจริงๆ…”

“มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน” ผู้หญิงลึกลับส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ไม่รีบ”

………………………………………………………………………