ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2933

ตอนที่ 2933 มูลค่าที่แท้จริง

หลังจากที่หลี่ชิเย่ไปไกลจากนายและบ่าวคู่นั้นแล้ว ได้พลิกดูพระพุทธรูปไม้ที่อยู่ในมือ พลิกไปมาหลายครั้ง จากนั้นก็ได้มองดูไป่จินหนิงที่อยู่ข้างๆ

ไป่จินหนิงเองก็อดที่จะมองดูพระพุทธรูปไม้ที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ จ้องมองดูชนิดไม่อยากจะละสายตาไปที่อื่น สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเพราะว่าพระพุทธรูปไม้องค์นี้ซื้อมาด้วยเงินหนึ่งร้อยล้าน

“ดูท่า เจ้าจะชอบพระพุทธรูปไม้นี้เป็นพิเศษ” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ ทีหนึ่ง

สายตาของไป่จินหนิงเหมือนถูกพระพุทธรูปไม้นี้ดึงดูดเอาไว้ตั้งแต่ต้น รู้สึกจะไม่เคยละสายตาไปเลยอย่างนั้น

“มัน มันเคยเป็นสิ่งที่ถูกพวกเราเอาไปจำนำ” ไป่จินหนิงเองก็ไม่รู้ว่าตนเองมีอากัปกิริยาอย่างไรในขณะนี้ ได้แต่หัวเราะแห้งๆ ทีหนึ่ง จำเป็นต้องละสายตาไปจากนั่น และพูดด้วยน้ำเสียงที่เบามากๆ คำหนึ่ง “มัน มัน มันเคยเป็นสมบัติประจำตระกูลของพวกเรา เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมายาวนานจากบรรพบุรุษ”

“ตระกูลเจ้ามีวาสนากับศาสนาพุทธรึ? ” หลี่ชิเย่หัวเราะ และโยนพระพุทธรูปไม้ที่อยู่ในมือ

ไป่จินหนิงถึงกับอกสั่นขวัญแขวนขณะที่หลี่ชิเย่โยนพระพุทธรูปไม้ไปตามอารมณ์ สายตาของนางอดที่จะมองตามพระพุทธรูปไม้ที่ขึ้นลง หัวใจของนางหล่นไปถึงตาตุ่ม นางเกรงว่าหลี่ชิเย่ไม่ทันระวังและไม่สามารถรับพระพุทธรูปไม้นี้เอาไว้ได้ เกิดหล่นลงพื้นจนแตกละเอียดไปแล้วจะทำอย่างไร

“ข้า ข้า ข้าก็ไม่ชัดเจนนัก” จิตใจของไป่จินหนิงในเวลานี้ไม่สงบ สายตาของนางมองขึ้นลงตามจังหวะการขึ้นลงของพระพุทธรูปไม้ และกล่าวว่า “สรุปคือขณะที่ข้ายังเด็กมาก มัน มันก็อยู่ในบ้าน ภายหลัง ภายหลังที่บ้านนำมันไปจำนำเพื่อให้ข้าได้ไปบำเพ็ญตน”

ไป่จินหนิงมีชาติกำเนิดมาจากผืนแผ่นดินไกลกันดาร แต่ว่า ตามคำกล่าวอ้างผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้านของนาง พวกเขาย้ายมาจากแดนลัทธิเซียน ส่วนย้ายมาด้วยเหตุผลใดนั้น ผู้อาวุโสในบ้านของนางก็ไม่ชัดเจนแล้ว

จากปากคำของผู้อาวุโสในบ้านทราบมาว่า ช่วงที่ยังอยู่ที่แดนลัทธิเซียนนั้น ฐานะทางบ้านของพวกเขามีฐานะที่ร่ำรวยมาก ภายหลังได้เสื่อมลง และยิ่งเสื่อมโทรมลงทุกวันหลังจากที่ได้ย้ายมาอยู่ที่แผ่นดินไกลกันดารแล้ว จากการที่ความเป็นอยู่ยิ่งยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่มีค่าภายในบ้านได้ถูกจำนำไปทีละชิ้นๆ ท้ายที่สุดก็เหลือไว้เพียงพระพุทธรูปไม้องค์นี้เท่านั้น

ฟังจากผู้อาวุโสที่อยู่ในบ้านเล่าว่า พระพุทธรูปไม้องค์นี้คือสมบัติประจำตระกูลของพวกเขา สมาชิกในบ้านล้วนแล้วแต่เคารพบูชาพระพุทธรูปไม้องค์นี้มาทุกยุคทุกสมัย ฟังว่า เป็นเพราะพระพุทธรูปไม้องค์นี้นี่เอง ที่คอยคุ้มครองตระกูลของพวกเขาอยู่ร่มเย็นเป็นสุขมาทุกยุคทุกสมัย

แต่ทว่า จากการที่ไป่จินหนิงเติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในบ้านของพวกเขาก็ไม่ได้มีสิ่งใดสามารถมีค่าเพียงพอที่จะนำไปจำนำได้อีกแล้ว

เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ตระกูลของพวกเขาก็ได้เสื่อมลงจนไม่เหลือสภาพอีกแล้ว ในเวลานี้เอง ผู้อาวุโสในตระกูลของพวกเขาก็คิดอยากจะผงาดขึ้น จะอย่างไรเสีย ผู้บำเพ็ญตนในตระกูลของพวกเขาดูจะลดน้อยลงไปทุกทีๆ แล้ว หากไม่ผงาดขึ้นมาอีกครั้งล่ะก็ ตระกูลของพวกเขาก็จะต้องตกต่ำกลายเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆ ตัดขาดจากโลกของผู้บำเพ็ญตนอย่างสิ้นเชิงแล้ว

สุดท้าย เพื่อให้ไป่จินหนิงได้ไปบำเพ็ญตน ผู้อาวุโสของตระกูลจึงตัดสินใจเด็ดขาดด้วยการจำนำพระพุทธรูปไม้องค์นี้ออกไป เพื่อสามารถมีปัจจัยเพียงพอที่จะให้ไป่จินหนิงได้ไปฝึกบำเพ็ญตน

นับว่าไป่จินหนิงเองก็ไม่ได้ทำให้ผู้อาวุโสของตระกูลต้องผิดหวัง และทำให้นางประสบความสำเร็จที่เป็นอยู่ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยเล็กๆ หน่วยหนึ่งของกองทัพเทียนเชี่ยน

แม้ว่าความสำเร็จในภาพรวมของไป่จินหนิงนี้ ไม่สามารถกล่าวได้ว่ายอดเยี่ยมปราศจากผู้ต่อกรเมื่อทอดสายตามองไปทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน แต่ว่า ก็นับได้ว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ทว่า กล่าวสำหรับตระกูลของพวกเขาแล้ว นั่นคือศิษย์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดสำหรับบุคคลยุคหลังๆ หลายยุคที่ผ่านมาแล้ว

ไป่จินหนิงเองก็นึกไม่ถึงว่าเวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้แล้ว ยังสามารถมองเห็นพระพุทธรูปไม้องค์นี้ที่ถูกตระกูลจำนำไปในครั้งนั้นอีกครั้ง ก็นับว่าเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง

ดังนั้น เมื่อไป่จินหนิงมองเห็นพระพุทธรูปไม้องค์นี้อยู่ในตู้จึงถูกมันดึงดูดเอาไว้ โดยไม่อาจละสายตาไปไหนได้อีกเลย แต่ว่า ด้วยราคาสามแสนมันเป็นสิ่งที่นางไม่สามารถรับได้อยู่แล้ว

เพียงแต่ เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเป็นเรื่องที่อยู่เหนือความจินตนาการของนางไปมากทีเดียว หลี่ชิเย่ถึงกับอาศัยราคาที่ไร้เหตุผลที่สุดซื้อพระพุทธรูปไม้องค์นี้เอาไว้

“ผู้อาวุโสของตระกูลบอกว่า พระพุทธรูปไม้องค์ องค์นี้ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยตลอดกาล” เวลานี้ ไป่จินหนิงดูจะตื่นเต้นมาก ขณะมองดูหลี่ชิเย่ที่โยนพระพุทธรูปไม้ในมือขึ้นลง ทำให้นางตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ในเวลานี้ ไป่จินหนิงอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ว่า พระพุทธรูปไม้ที่คุ้มครองตระกูลของนางให้ปลอดภัยองค์นี้จะต้องตกจนแตกละเอียดไปด้วยน้ำมือของหลี่ชิเย่ แม้ว่าพระพุทธรูปไม้องค์นี้จะไม่ใช่ของนางอีกต่อไปแล้ว และนางก็รู้ว่าชาตินี้ก็ไม่สามารถนำเอาพระพุทธรูปไม้องค์นี้กลับมาได้อีก จะอย่างไรเสียด้วยราคาหนึ่งร้อยล้านนี้ชั่วชีวิตของนางก็ไม่สามารถเอาจำนวนเงินมากมายเช่นนี้ออกมาได้

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม แม้ว่าพระพุทธรูปไม้องค์นี้จะไม่ได้เป็นของตระกูลนางอีกต่อไป แต่ว่า ไป่จินหนิงเองก็ไม่ต้องการให้ถูกทำให้แตกละเอียดไปด้วยมือของหลี่ชิเย่

“พระพุทธรูปสามารถคุ้มครองคนให้ปลอดภัยรึ? ” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งและไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น ยังคงโยนพระพุทธรูปไม้ในมือขึ้นลงเหมือนเดิม

เจ้าอย่าโยนอีกเลย…สุดท้าย ไป่จินหนิงที่ถูกทำให้ตกใจไม่น้อยรีบห้ามหลี่ชิเย่เอาไว้ อดที่จะจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “เกิดเจ้าโยนมันแตกไปจะทำอย่างไร? ไม่ว่าอย่างไรก็มีค่าถึงหนึ่งร้อยล้านเลยนะ”

หลี่ชิเย่จับพระพุทธรูปไม้แน่นอยู่ในมือ อดหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “ถ้าหากมันง่ายต่อการถูกโยนจนแตกละเอียดก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องคุ้มครองตระกูลของเจ้าให้สงบสุขมาทุกยุคทุกสมัยแล้ว แค่ตกลงไปเบาๆ ก็แตกละเอียดได้ล่ะก็ นี่มันคือแม้แต่ตัวเองยังรักษาไม่ได้ ไหนเลยจะปกป้องผู้อื่นให้ปลอดภัยได้? ” ไป่จินหนิงถึงกับตะลึงนิดหนึ่งเมื่อได้ฟังทัศนะที่ประหลาดเช่นนี้ ทัศนะเช่นนี้นับว่าแปลกประหลาดมากเกินไปแล้ว แต่ว่า เมื่อฟังดูก็รู้สึกว่ามีเหตุผล

เพียงแต่พระพุทธรูปไม้องค์นี้ถูกตั้งบูชาอยู่ภายในบ้านตลอดมา ไป่จินหนิงเองก็ไม่ทราบว่ามันจะทนต่อการโยนหรือไม่อย่างใด

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การที่ไป่จินหนิงเห็นหลี่ชิเย่จับพระพุทธรูปไม้เอาไว้ใสมืออย่างมั่นคงนั้น ทำให้นางรู้สึกโล่งอกไปเปราะหนึ่ง มองดูหลี่ชิเย่ที่ดูจะมีท่าทีไม่แคร์เลย นางไม่เข้าใจเสียเลยว่า ของที่มีมูลค่าหนึ่งร้อยล้านเมื่ออยู่ในมือของเขาแล้ว เขาไม่แคร์เลยแม้แต่น้อย

“เหตุใดเจ้า เจ้าจะต้องเสียเงินถึงร้อยล้านไปซื้อมัน? ” ไป่จินหนิงที่มองดูหลี่ชิเย่แล้วรู้สึกฉงนอยู่บ้าง และกล่าวว่า “ต่อให้เจ้าใช่เงินแค่สามสิบล้านก็สามารถซื้อมันได้อยู่แล้ว”

แรกทีเดียวไป่จินหนิงยังเข้าใจว่า การที่หลี่ชิเย่ขึ้นราคาอย่างบ้าคลั่ง เสียเงินถึงหนึ่งร้อยล้านเพื่อซื้อพระพุทธรูปไม้องค์หนึ่งนั้น เป็นเพราะหลี่ชิเย่ชอบพระพุทธรูปไม้องค์นี้มากจริงๆ กระทั่งไม่อยากจะวางมันลง

เวลานี้ดูไปแล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เห็นหลี่ชิเย่จับพระพุทธรูปไม้ที่มีมูลค่าถึงหนึ่งร้อยล้านโยนแล้วโยนอีกตามอารมณ์ เหมือนเป็นของเล่นที่ไม่มีราคาอย่างนั้น ทำให้ไป่จินหนิงเข้าใจทันทีว่า การที่หลี่ชิเย่ซื้อพระพุทธรูปไม้องค์นี้เอาไว้ใช่ว่าเขาชอบมากอะไรทำนองนั้น บางทีอาจเป็นไปได้ว่าเขาแค่ซื้อเอาไว้ตามอารมณ์เท่านั้นเอง

“มันมีข้อแตกต่างกันรึ? ” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง และเอ่ยขึ้นตามอารมณ์ว่า “เหมือนดั่งตอนเช้าที่เจ้าไปซื้อซาละเปาข้างถนน ด้วยฐานะในวันนี้ของเจ้าแล้ว ซาลาเปาลูกหนึ่งจะซื้อด้วยราคาสามอีเปะ หรือสิบอีเปะ ราคานี้มีข้อแตกต่างรึ? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล