ตอนที่ 2958 โลงศพเซียน
ของวิเศษชั้นปฐมบรรพบุรุษได้ผ่านการประมูลไปแล้ว ในที่สุดก็ได้มาถึงของวิเศษชิ้นสุดท้าย ซึ่งก็คือของวิเศษชิ้นสุดท้ายของงานประมูลในครั้งนี้
“เอาล่ะ แขกทุกๆ ท่าน ทุกท่านต่างให้ความกระตือรือร้นอย่างยิ่งต่องานการประมูลในวันนี้ และทางห้างเจียวเหิงก็ต้องขอบคุณแขกทุกๆ ท่านที่ให้เกียรติร่วมงานอย่างอบอุ่น จากนี้ต่อไป พวกเราจะได้เสนอของวิเศษชิ้นสุดท้ายขึ้นมา เป็นการปิดท้ายรายการประมูลยิ่งใหญ่ห้าปีครั้งในครั้งนี้ ให้พวกเราปิดฉากมันลงอย่างงดงาม” ผู้ดำเนินการประมูลสาวได้ประกาศต่อทุกคนที่อยู่ในงาน
“ของวิเศษชิ้นสุดท้ายจะถูกนำออกมาแล้ว” ทุกคนต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดของผู้ดำเนินการประมูล ในเวลานี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตั้งตาคอย กระทั่งมีผู้ที่ลุกขึ้นยืน รอคอยการปรากฏตัวของของวิเศษชิ้นสุดท้าย
ในเวลานี้ แม้แต่ราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร ล้วนแล้วแต่หวั่นไหวในใจ งานประมูลห้าปีครั้งของห้างเจียวเหิงจะต้องเป็นงานเลี้ยงยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน และของวิเศษชิ้นสุดท้ายล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สะเทือนเลื่อนลั่นทุกครั้ง
เวลานี้เอง ของวิเศษชิ้นสุดท้ายก็ได้ถูกยกขึ้นมาบนเวทีแล้ว เพียงแต่ของวิเศษชิ้นสุดท้ายชิ้นนี้ถูกปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา เมื่อยังไม่ได้ถูกเปิดออก ไม่ว่าใครก็มองเห็นของวิเศษชิ้นนี้ได้ไม่ชัดเจน
“ต้องขอบคุณแขกจากแดนลัทธิเซียนทุกๆ ท่านที่ให้การสนับสนุนงานประมูลยิ่งใหญ่ห้าปีครั้งนี้ เพื่อให้งานการประมูลในครั้งนี้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ พวกเราห้างเจียวเหิงได้นำเอาของวิเศษยอดเยี่ยมที่สุดที่อยู่ในมือมาทำการประมูล ของวิเศษชิ้นนี้ นายน้อยห้างเจียวเหิงพวกเราได้มันมาอย่างยากลำบาก ห้างเจียวเหิงพวกเราก็ไม่กล้าเก็บเอาไว้คนเดียว ต้องการแบ่งปันกับผู้คนทั่วหล้า ดังนั้น มาวันนี้ จึงได้นำออกมาให้ทุกท่านได้เห็นเป็นบุญตา” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลมีลักษณะท่าทางเบิกบานแสดงออกทางสีหน้า
ฟ่าววว…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ทางห้างได้เปิดผ้าที่คลุมของวิเศษชิ้นสุดท้ายออก ทำให้ของวิเศษชิ้นสุดท้ายปรากฎอยู่ตรงหน้าของทุกคน
“ทุกท่านเชิญชม ของวิเศษชิ้นสุดท้ายวันนี้ นั่นก็คือโลงศพเซียน!” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา
เวลานี้ ทุกคนมองขึ้นไปบนเวที เป็นจริงดังว่า มองเห็นบนเวทีมีโลงศพวางอยู่ลูกหนึ่ง โดยที่โลงลูกนั้นถูกวางอยู่ตรงนั้น ส่งประกายแวบวับ
โลงศพลูกนี้มีขนาดเทียบกับโลงศพธรรมดาแล้วใหญ่กว่ากันไม่น้อยทีเดียว ที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุดก็คือ โลงศพลูกนี้ปรากฏประกายที่แวบวับที่แสบตายิ่ง บอกว่ามันคือโลงศพเซียนมิสู้บอกว่าเป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเม็ดหนึ่งน่าจะเหมาะสมยิ่งกว่า
เป็นความจริงแล้วโลงศพลูกนี้มองดูแล้วเหมือนเพชรที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเม็ดหนึ่งจริงๆ โดยโลงศพทั้งลูกเต็มไปด้วยรูปร่างที่เป็นปริซึมจำนวนนับไม่ถ้วน เหมือนว่าข้างในนั้นมีสามเหลี่ยมปริซึมที่ตัดสลับไปมา เมื่อเป็นดังนี้ดูไปแล้ว ภายในโลงศพเหมือนได้บรรจุช่องว่างเป็นล้านล้านช่องอย่างนั้น เหมือนว่าโลกแล้วโลกเล่าที่ถูกผนึกและเก็บเอาไว้ในนั้น
โลงศพทั้งลูกปรากฎประกายที่แวบวับ ซึ่งประกายแวบวับดังกล่าวเป็นที่แสบตาอย่างยิ่ง มันเป็นการทำให้ดวงตาของคนต้องบอดไปชัดๆ ประกายทุกๆ สายที่แวบวับออกมาทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันเหมือนดวงดาวแต่ละดวงห้อยอยู่บนท้องฟ้าที่ส่งประกายแวบวับมากที่สุด
เมื่อผู้คนมองไปที่โลงศพลูกนี้ทำให้รู้สึกว่านี่มันคือโลงศพเสียที่ไหน มันเหมือนท้องฟ้าที่คราคร่ำด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วนเสียมากกว่า เพียงแต่ท้องฟ้าคลาคล่ำด้วยดวงดาวที่ใหญ่โตมโหฬารถูกผนึกและเก็บเอาไว้ภายในโลงศพโลงนี้เท่านั้นเอง
ต่อให้โลงศพลูกนี้โปร่งใส วัสดุของมันดูไปแล้วคล้ายเป็นคริสตัล แต่ว่า รูปปริซึมที่โลงศพเซียนมีอยู่นั้นมากมายเหลือเกิน ข้างในมีรูปปริซิมนับไม่ถ้วนที่สลับไปมา เหมือนว่าไม่มีสิ้นสุดอย่างนั้น มองดูเหมือ นช่องว่างนับล้านล้านช่องว่างถูกผนึกเก็บเอาไว้ภายใน
ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญกับโลงศพลักษณะเช่นนี้ ต่อให้เปิดเนตรฟ้าขึ้นมา แล้วทอดสายตามองออกไป สิ่งที่มองเห็นล้วนแล้วแต่เป็นช่องว่างที่ไม่มีสิ้นสุดช่องแล้วช่องเล่าที่วางซ้อนกันอยู่ภายใน มองเห็นเห็นจุดสิ้นสุดอย่างนั้น ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายในโลงศพนั้นมีสิ่งใดกันแน่
“นี่คืออะไร…” เวลานี้ไม่เพียงแต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนธรรมดาเท่านั้น แม้แต่ราชันแท้จริงที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่เปิดเนตรฟ้าและมองไปที่โลงศพลูกนี้ แต่ว่า ไม่สามารถมองทะลุโลงศพลูกนี้ไปได้ เหมือนว่าข้างในมีช่องว่างที่ไม่มีสิ้นสุดอย่างนั้น
“นี่คือโลงศพอันใด?” เวลานี้แม้แต่ราชันแท้จริงหวงจุนก็สะกดอารมณ์ไม่อยู่ และเอ่ยถามขึ้นมา
ความจริงแล้วราชันแท้จริงหวงจุนก็เคยเปิดเนตรฟ้าขึ้นมาและส่องไปที่โลงศพลูกนี้ แต่ว่า ไม่สามารถมองทะลุโลงศพลูกนี้ไปได้ เนื่องจากโลงศพลูกนี้ลึกซึ้งมากเหลือเกิน เหมือนเป็นช่องว่างไม่มีสิ้นสุดที่ซ้อนทับกันอย่างนั้น ต่อให้เขาพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดเช่นกัน
ด้วยโลงศพลูกหนึ่งเช่นนี้แหละ เหมือนว่ามันยิ่งใหญ่ไพศาลกว่าแดนสามเซียนทั้งหมดอย่างนั้น
“สำหรับโลงศพลูกนี้พวกเราก็ได้แต่เพียงตั้งชื่อมันว่าโลงศพเซียนท่านั้นเอง” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของโลงศพลูกนี้นั้น ห้างเจียวเหิงพวกเราก็ไม่สามารถทำความบรรลุได้ แต่ว่า นายน้อยของพวกเราได้มาจากสุดยอดสถานที่สูงสุด มันเสมือนหนึ่งเป็นของล้ำค่าของแดนลัทธิเซียน ดังนั้นห้างเจียวเหิงพวกเราจึงไม่กล้ามีบทสรุปเกี่ยวกับโลงศพลูกนี้ แต่ว่า ไม่ว่าใครก็ตามหากสามารถบรรลุถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของมันได้ ล้วนแล้วแต่ได้รับประโยชน์ไม่มีสิ้นสุด”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แต่ทว่า ผู้อยู่ในเหตุการณ์กลับไม่มีผู้ใดสงสัยในคำพูดของนาง ทุกคนต่างคิดว่าคำพูดนี้เป็นคำพูดที่น่าเชื่อถือมากที่สุด
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าในห้างเจียวเหิงนั้นคือที่ที่มังกรเร้นกาย พยัคฆ์หมอบ ผู้มีฝีมือสูงส่งมีจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่ขาดแคลนระดับคงความอมตะตลอดกาล ห้างเจียวเหิงเป็นห้างที่มีชื่อเสียงมานับพันล้านปี ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือเป็นอันดับหนึ่งในแดนสามเซียน ลำพังแค่เรื่องนี้ก็สมควรให้ความเชื่อถือในห้างเจียวเหิงแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้โลงศพเซียนลูกนี้ก็ถูกตั้งวางอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตามเมื่อได้เห็น ต่างเข้าใจได้ว่าสิ่งนี้หาใช่ห้างเจียวเหิงจงใจแสร้งทำเป็นลึกลับซับซ้อน ไม่ว่าใครต่างก็เข้าใจว่า โลงศพเซียนลูกนี้ซ่อนความลึกซึ้งยอดเยี่ยม และความลึกลับที่ยิ่งใหญ่เอาไว้จริงๆ !
“ข้างในนั้นมีสิ่งใดกันแน่?” ในเวลานี้ ผู้ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์อดที่จะเอ่ยถามขึ้น ความจริงแล้วมีผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ผู้ใดบ้างไม่ได้เปิดเนตรฟ้าดู แต่ เพียงแต่ว่าทุกคนล้วนมองไม่ทะลุ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...