ตอนที่ 3009 ความมืดที่ซ่อนเร้น
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ความสว่างได้ก่อเกิดเป็นคลื่นยักษ์สูงล้านล้านจ้าง โหมสาดซัดเข้าหาศิลาจารึกสีทองนั้นอย่างรุนแรง คลื่นความสว่างยักษ์ซัดเข้ามาต่อเนื่องลูกแล้วลูกเล่า ด้วยท่าทีที่โหดร้ายปราศจากสิ่งใดเทียบเทียม เสมือนดั่งต้องการพลิกโลกทั้งโลกขึ้นมาอย่างนั้น
แต่ว่า ไม่ว่าคลื่นแสงสว่างยักษ์จะพุ่งเข้าโจมตีอย่างดุร้ายเช่นใด ไม่ว่าคลื่นแสงสว่างยักษ์จะโหมสาดซัดอย่างไร แต่ทว่า ศิลาจารึกสีทองก็ยังคงตั้งสูงตระหง่านไม่เคลื่อนไหว เหมือนว่าการที่มันตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นสามารถสยบทุกสิ่งทุกอ่ย่างของเหล่าชั้นฟ้าอย่างนั้น ไม่มีสิ่งใดสามารถสั่นคลอนมันได้
ภายใต้คลื่นแสงสว่างยักษ์ที่โหมสาดซัด ศิลาจารึกสีทองคล้ายดั่งหินโสโครกในทะเลอย่างนั้น สุดแล้วแต่คลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดตามอำเภอใจ มันก็จะไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ตูม…ตูม…ตูม…ในเวลานี้ฟ้าดินดังตูมตาม พลังแสงสว่างคำรามอย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่พลังแสงสว่างก่อเกิดคลื่นยักษ์ขึ้นมานับไม่ถ้วน ภายใต้การโหมสาดซัดครั้งแล้วครั้งเล่า คลื่นยักษ์แสงสว่างกลายเป็นพายุแสงสว่างที่น่ากลัว
ท่ามกลางพายุสามารถมองเห็นเสียงฟ้าร้องดังตูม ตูม ตูมขึ้น ในเวลานี้สามารถมองเห็นภาพที่อลังการมาก ท่ามกลางพายุแสงสว่างถึงกับมีฟ้าแลบแสงสว่างนับไม่ถ้วนที่ผ่าลงมา
มองเห็นฟ้าแลบแสงสว่างที่เทลงมาท่ามกลางเสียงดังตูม ตูม ตูม มันฟาดใส่ศิลาจารึกสีทองอย่างบ้าคลั่ง ภาพความอลังการเช่นนี้เกรงว่าผู้คนจำนวนมากชั่วชีวิตก็ไม่สามารถได้เห็น
ขณะที่ฟ้าแลบแสงสว่างเทราดลงมานั้น พลันส่องสว่างไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ส่องโลกทั้งโลกจนสว่างแวบวับ ในขณะเดียวกันฟ้าแลบแสงสว่างได้ฟาดเข้าใส่ศิลาจารึกสีทองอย่างรุนแรง เสมือนหนึ่งสามารถฟาดจนมารร้ายทั้งหมดต้องอกสั่นขวัญแขวนในพริบตา ฟาดจนความมืดทุกอย่างแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี
ภายใต้การยิงถล่มที่ดุดันของฟ้าแลบแสงสว่าง ไม่ว่าใครก็ต้องมองราชันแท้จริงเซิ่นซวงเปลี่ยนไปอีกแบบ เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
แสงสว่างในทัศนะของผู้คนจำนวนมากล้วนคือความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิพิสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผ่านมานั้น ราชันแท้จริงเซิ่นซวงให้ความรู้สึกผู้คนถึงความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวตลอดเวลา
สามารถจินตนาการได้โดยสิ้นเชิงว่า ไม่ว่าใครก็ตามจะไม่นำเอาคำว่าดุร้าย คำราม ชอบใช้กำลังมาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับราชันแท้จริงเซิ่นซวง
แต่ว่า นาทีนี้พลังแสงสว่างของราชันแท้จริงเซิ่นซวงกลับนำเอาท่วงท่าความดุร้าย คำราม ใช้อำนาจบาตรใหญ่แสดงออกมาอย่างเต็มที่
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถจินตนาการได้ และเป็นเรื่องที่บ้าบิ่นและใช้อำนาจบาตรใหญ่
แต่ว่า ไม่ว่าสายฟ้าแลบแสงสว่างจะฟาดใส่ศิลาจารึกสีทองอย่างบ้าคลั่งอย่างไร หรือคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดศิลาจารึกสีทองอย่างบ้าคลั่งเช่นใดก็ตาม ศิลาจารึกสีทองยังคงยืนตระหง่านไม่ล้ม เหมือนว่าไม่สามารถสั่นคลอนมันได้อย่างนั้น
ภายใต้พลังแสงสว่างที่พาลเช่นนี้ ศิลาจารึกสีทองยังคงไม่หวั่นไหว ส่งผลให้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงมีท่าทีชะงัก ภายในใจได้สงบลง ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า พลังของศิลาจารึกสีทองหลักนี้เกรงจะอยู่เหนือนางไปแล้ว
“เปิด…” แต่ว่า ราชันแท้จริงเซิ่นซวงไม่ได้ถอยเพียงเท่านี้ เมื่อเห็นว่าการโจมตีด้วยการโหมกระหน่ำของคลื่นยักษ์ที่ดุดันไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อศิลาจารึกสีทอง ราชันแท้จริงเซิ่นซวงจึงเปลี่ยนการโจมตีทันที
ในพริบตาเดียวกันนั่นเอง พลังแสงสว่างพลันกลับกลายเป็นอ่อนโยนอย่างยิ่ง พลังแสงสว่างพลันนุ่มนวลขึ้นมาทันที เป็นความละมุนละไมที่ทำให้ผู้คนไม่รู้สึกถึงพลังโจมตีแม้แต่น้อย
พลังแสงสว่างในเวลานี้เสมือนดั่งเป็นดวงตะวันในฤดูหนาวอย่างนั้น แสงตะวันที่สว่างไสวสาดส่องลงบนตัว ทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นยิ่ง ขับไล่ความหนาวเย็นของฤดุหนาวออกไป
เมื่อพลังแสงสว่างละมุนละไมขึ้นมา ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าคล้ายกำลังแช่อยู่ท่ามกลางน้ำอุ่น ทำให้รู้สึกสบายไปทั้งตัว และเกิดความรู้สึกเหนื่อยหน่าย ทำให้มีความรู้สึกมึนๆ อยากจะหลับ
ในเวลานี้ พลังแสงสว่างหาใช่เป็นการโจมตี และไม่ใช่เป็นการทำให้บริสุทธิ์ แต่เป็นลักษณะแทรกอยู่ทุกหนทุกแห่ง เหมือนว่ามันกำลังเวทนาสรรพชีวิต เหมือนว่าได้โอบกอดอาณาประชาราษฎร์เอาไว้ ทุกๆ ความทุกข์ยากลำเค็ญ ทุกความหิวโหย ทุกๆ บาดแผล…ล้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายใต้พลังแสงสว่างที่อ่อนโยนปราศจากผู้เทียบเทียมก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
พลังแสงสว่างลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่ามีอยู่ทุกที่ แทรกซึมเข้าไปได้ทุกแห่ง ในเวลานี้พลังแสงสว่างสามารถหลอมรวมเข้ากับทุกสิ่งทุกอย่าง เข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของพลังใดๆ มันกระทั่งสามารถสัมผัสส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุดของอาณาประชาราษฎร์ทั้งหมด
ในเวลานี้ ด้วยพลังแสงสว่างลักษณะเช่นนี้แหละ มันได้สำแดงด้านที่ทรงพลังที่สุดของมันออกมาในที่สุด พลังแสงสว่างที่ไร้ซุ่มไร้เสียง มันได้ทำให้ศิลาจารึกทั้งหลักแช่อิ่มอยู่ในพลังแสงสว่าง มันแทรกซึมเข้าไปภายในศิลาจารึกสีทองทุกๆ จุด
ในที่สุด เวลานี้พลังแสงสว่างก็ได้สำแดงพลานุภาพที่แกร่งที่สุดของมันแล้ว ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ภายใต้การหลอมละลายของพลังแสงสว่าง ภายใต้การแช่อิ่มของพลังแสงสว่าง มองเห็นสีของศิลาจารึกสีทองเริ่มจางลง
เดิมทีศิลาจารึกสีทองหลักนี้เรียกได้ว่าส่องประกายสีทองเจิดจ้า แสงสีทองที่ไม่มีสิ้นสุดสว่างไปทั่วท้องฟ้า เหมือนว่ามันเป็นผู้บงการโลกนี้อย่างนั้น
ทว่าในเวลานี้ ภายใต้การแช่อิ่มของพลังแสงสว่าง ประกายสีทองที่พุ่งขึ้นฟ้าอย่างรุนแรงได้จืดจางลง พลังที่ดูโอ่อ่าสูงสุดก็ดูจะค่อยๆ จางหายไป
ภายใต้เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดสีทองค่อยๆ หายไป ขณะที่สีทองหายไปนั้น มันได้เผยโฉมที่แท้จริงออกมาในที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...