ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3103

ตอนที่ 3103 สวรรค์รึ

เขาเซียนถงซานได้ปิดกั้นผืนแผ่นดินผืนนี้ แม้ว่าก็มียอดฝีมือได้ลอบเข้าไปภายใน แต่ว่า กลับไม่มีใครพบสิ่งที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมในนั้น

จะอย่างไรเสีย การปิดกั้นของเขาเซียนถงซานนั้นแข็งแกร่งมากเหลือเกิน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้ที่มีฐานะเช่นเจ๋อหลงนั่งบัญชาการด้วยตนเอง ต่อให้มีระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ลอบเข้ามาในนี้ ก็ไม่กล้าเข้าใกล้มากเกินไป ไม่กล้ากำเริบเสิบสานเกินไป

หลังจากที่ผืนแผ่นดินผืนนี้ถูกปิดกั้นไว้แล้ว ผืนแผ่นดินผืนนี้ก็อยู่ในความเงียบสงัด ขณะที่แดนลัทธิเซียนก็กลับคืนสู่ความสงบชั่วคราว

แต่ว่า ความสงบเช่นนี้รักษาเอาไว้ได้ไม่นาน ในวันนี้เอง ได้ยินเสียงตูมดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง บริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของท้องฟ้าด้านทิศเหนือปรากฎลำแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นสายหนึ่ง

ขณะที่ลำแสงศักดิ์สิทธิ์สายนี้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงนั้น พลันส่องสว่างท้องฟ้าด้านทิศเหนือในพริบตาเดียว ลำแสงศักดิ์สิทธิ์สายนี้ช่างเจิดจ้าร้อนแรงยิ่งเหลือเกิน ภายใต้ลำแสงเจิดจ้าที่สาดส่อง ทำให้ผู้คนไม่สามารถลืมตาทั้งสองขึ้นมาได้

ลำแสงเจิดจ้าสาดส่อง ส่งผลให้ท้องฟ้าด้านทิศเหนือเสมือนดังเป็นกลางวันอย่างนั้น สายตาของทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกแสงสว่างที่เจิดจ้าเช่นนี้ดึงดูดเอาไว้

“นั่นมันอะไรน่ะ…” ทุกคนอดที่จะมองออกไป เมื่อมองเห็นลำแสงที่เจิดจ้าเช่นนี้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง เสมือนหนึ่งต้องการระเบิดท้องฟ้าให้เปิดออกอย่างนั้น

“คือสระเฟยตี้ฉือรึ?” พลันทำให้ภายในใจของยอดฝีมือจำนวนมากต่างรู้สึกตื่นตระหนก เมื่อมองเห็นลำแสงศักดิ์สิทธิ์สายนี้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจากบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของท้องฟ้าด้านทิศเหนือ

ระยะนี้ไต้หล้าไม่สงบ ทะเลปุ๊ตู้ไห่มีสิ่งประหลาดลอยล่องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือก็ปรากฏเหตุการณ์ประหลาดครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน ส่งผลให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนของแดนลัทธิเซียนต่างหงุดหงิดไม่มีความสุข

ก่อนหน้านี้ไม่นาน สระเฟยตี้ฉือเพิ่งจะก่อตัวกลายเป็นมือขนาดยักษ์ขึ้นมา เวลานี้บริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของท้องฟ้าด้านทิศเหนือก็ปรากฎลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง พลันทำให้มีคนที่รู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะมีความไม่สงบเกิดขึ้น

“ไม่เหมือนเป็นที่สระเฟยตี้ฉือ ตรงนั้นน่าจะเป็นสถานที่ที่ไม่เคยเข้าไปถึงนะเนี่ย” ระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งมองจากระยะไกลขึ้นไปยังลำแสงที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

แต่ว่า ลำแสงที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรงสายนี้นับว่าร้อนแรงมากเหลือเกิน นับว่าเจิดจ้าละลานตามากเหลือเกิน แม้แต่ระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งดูด้วยเนตรฟ้าก็ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งหมด

ผู้ที่มีทักษะอ่อนหากแข็งขืนจ้องมองดูลำแสงสายนี้ตรงตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางที่มีความสว่างร้อนแรงที่สุดล่ะก็ จะต้องถูกแสงสว่างที่เจิดจ้าร้อนแรงที่สุดทำให้ตาบอดได้

ลำแสงสายนี้ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงนับว่าสว่างร้อนแรงเหลือเกิน โชคดีที่มันพุ่งขึ้นในบริเวณลึกที่สุดของท้องฟ้าด้านทิศเหนือโดยตรง มิฉะนั้นแล้ว เกรงว่ามีผู้คนจำนวนมากก็จะถูกทำให้ตาบอดได้

ด้วยลำแสงที่แข็งแกร่งดุดันยิ่งลักษณะเช่นนี้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ถ้าหากห่างจากด่านเทียนสงกวานใกล้เกินไปล่ะก็ ไม่แน่นักแรงปะทะที่น่ากลัวเช่นนี้ก็จะทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากแบกรับไม่ได้ แรงปะทะลักษณะเช่นนี้เมื่อกระจายออกมา สามารถทำให้ยอดฝีมือจำนวนมากพลันหายวับไปกับตาในพริบตา

เสียงตูม…ที่ดังสนั่นขึ้นได้พุ่งปะทะขึ้นมา มองเห็นลำแสงสายนี้ได้รวบรวมพลังที่ดุร้ายยิ่งกว่าและพุ่งโจมตีขึ้นมา การโจมตีในครั้งนี้เหมือนโจมตีจนท้องฟ้าแตกละเอียดไปอย่างนั้น

ภายใต้การพุ่งโจมตีในครั้งนี้ กระทั่วมีผู้ที่เหมือนได้ยินเสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง เหมือนว่าบนท้องฟ้าสูงมีอะไรบางอย่างถูกยิงจนละเอียดไปอย่างนั้น และเสมือนหนึ่งได้เปิดประตูบานหนึ่งออกมา

“นั่น นั่นคืออะไร?” ในเวลานี้ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งเพ่งสายตาไป และมองเห็นทิศทางที่ลำแสงยิงไปนั้นถึงกับปรากฎเป็นปากถ้ำขึ้นมา ปากถ้ำนี้ดูไปแล้วเห็นแต่สีครามเข้ม คล้ายเป็นท้องฟ้าสีครามอย่างนั้น และเสมือนเป็นนัยน์ตาฟ้าข้างหนึ่ง

การที่ท้องฟ้าพลันถูกลำแสงยิงจนกลายเป็นปากถ้ำที่อัศจรรย์ยิ่งขึ้นมากะทันหันเช่นนี้ พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตกใจยิ่งนัก ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร

ครั้นปากถ้ำลักษณะเช่นนี้ปรากฏ ภายในถ้ำปรากฏอานุภาพสวรรค์ที่ถูกแพร่ออกมา อานุภาพสวรรค์สูงสุด แม้จะเป็นอานุภาพสวรรค์แต่ละสายที่รั่วไหลออกมาเท่านั้น แม้ว่าปากถ้ำดังกล่าวจะห่างไกลจากด่านเทียนสงกวานไกลมากก็ตาม

แต่ว่า ขณะที่อานุภาพสวรรค์รั่วไหลออกมานั้น ภายในใจของทุกคนถึงกับหายใจไม่ออก เหมือนสวรรค์กำลังออกตรวจตราทั่วหล้าอย่างนั้น ทำให้ผู้คนมีอารมณ์อยากจะคุกเข่าลงกับพื้นและแสดงคารวะขั้นสูงสุด สิ่งนี้เป็นสัญชาตญาณการหวาดกลัวที่ออกมาจากภ่ายในใจ ความหวาดกลัวเช่นนี้มเหมือนมีมาแต่กำเนิดอย่างนั้น

อย่าว่าแต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปเลย แม้แต่บรรพบุรุษที่เป็นระดับคงความอมตะตลอดกาล เมื่อรับรู้ถึงอานุภาพเช่นนี้แล้ว ต่างอดที่จะหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้

สิ่งที่ผู้บำเพ็ญตนกลัวที่สุดก็คืออานุภาพสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ย่อมหวาดกลัวต่อสวรรค์ที่อยู่ในตำนาน!

“นี่คิดจะทำอะไร?” ระดับบรรพบุรุษที่มองเห็นท้องฟ้าปรากฎปากถ้ำที่เป็นสีครามเข้มถึงกับใจหายใจคว่ำ และกล่าวว่า “หรือนี่คิดจะปราบสวรรค์รึ?” ไม่ทราบว่ามีระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่รู้สึกสั่นเทาในใจทีหนึ่ง พวกเขาล้วนจ้องมองตากันและกัน

ปราบสวรรค์เป็นหัวข้อที่มีเพียงคนไม่กี่คนยินดีจะเอ่ยถึง แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นระดับปฐมบรรพบุรุษก็ไม่ต้องการไปเอ่ยถึงหัวข้อลักษณะเช่นนี้ เนื่องจากหัวข้อเช่นนี้เป็นสิ่งต้องห้ามเหลือเกิน

“ดูนั่น มีคนอยู่!” ในเวลานี้มีเทพแท้จริงที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง เนตรฟ้าของเขาได้รวบรวมประกายที่ไม่มีสิ้นสุด มองตรงไปยังลำแสงสายหนึ่งที่พุ่งขึ้นรุนแรง นาทีนี้เขามองเห็นภายในลำแสมีเงาคนอยู่สายหนึ่ง

ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยที่มีกำลังความสามารถต่างทยอยกันรวบรวมประกายที่เนตรฟ้าหลังจากได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว และมองไปยังตรงกลางของลำแสง เป็นจริงตามนั้น มองเห็นตรงกลางของลำแสงปรากฏร่างเงาคนสายหนึ่ง

แต่ว่า ลำแสงนับว่ามีความเจิดจ้าร้อนแรงมากเหลือเกิน ภายใต้ประกายที่เจิดจ้าร้อนแรงเช่นนี้ ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นร่างเงานี้อย่างชัดเจนโดยสิ้นเชิง แต่ว่า ทุกคนล้วนสามารถมองเห็นได้ว่า ดูเหมือนร่างเงาผู้นี้จะยกมือค้ำยันฟ้าเอาไว้ ในมือเหมือนกำสิ่งของอยู่ชิ้นหนึ่ง

สายฟ้าแลบลักษณะเช่นนี้หาใช่เป็นสายฟ้าแลบธรรมดา สายฟ้าแลบลักษณะเช่นนี้ได้นำเอาปณิธานสวรรค์มาด้วย เท่ากับเป็นปณิธานสวรรค์ที่ฟาดลงบนตัวของหลี่ชิเย่

แรกทีเดียวร่างกายของหลี่ชิเย่ยังคงสามารถแบกรับเอาไว้ได้ แต่ว่า จากการที่สายฟ้าแลบทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ สายฟ้าแลบที่ฟาดลงบนตัวหลี่ชิเย่ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สายฟ้าแลบที่นำเอาพลังวิบากสวรรค์ นำเอาคำตัดสินของสวรรค์มาด้วย ขณะที่ฟาดลงบนตัวของหลี่ชิเย่ เริ่มมีเลือดที่แตกกระจายขึ้นมา

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง…สายฟ้าแลบที่ฟาดใส่ร่างของหลี่ชิเย่แต่ละครั้งดูจะมีความบ้าคลั่งรุนแรงมากขึ้น จากการที่สายฟ้าฟาดลงมานั้น ปรากฏเลือดที่แตกกระจายจำนวนมาก

“คุณชายต้องการทำอะไร?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเพ่งสายตามองตรงไป มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ถูกดสายฟ้าที่น่ากลัวฟาดใส่จนเลือดแตกกระจาย นางอดที่จะใจหายใจคว่ำไม่ได้ ด้วยพลังของสายฟ้าแลบเช่นนี้ ต่อให้นางที่เป็นถึงระดับราชันแท้จริงก็ไม่สามารถอาศัยกายเนื้อไปแบกรับได้

แต่ว่า หลี่ชิเย่กลับกำสิ่งที่อยู่ในมือแน่น ปล่อยให้สายฟ้าลักษณะเช่นนี้ฟาดใส่ตนเองตามอำเภอใจ

“สร้างอาวุธ!” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่เป็นผู้ที่เข้าใจในตัวหลี่ชิเย่มากที่สุด นัยน์ตาที่เหมือนดั่งกระดิ่งทองแดงของเขาจ้องเขม็งดูอย่างละเอียด หลังจากมองดูอยู่ครู่ใหญ่ เขารู้แล้วว่าหลี่ชิเย่ต้องการทำอะไรแล้ว

“มีวิธีสร้างอาวุธแบบนี้ด้วยรึ?” แม้แต่ราชันหญิงจื่อหลงก็มองดูแล้วไม่เข้าใจ วิธีการสร้างอาวุธเช่นนี้นับว่าแปลกประหลาดเกินไปแล้ว

“อาวุธลักษณะเช่นนี้ไหนเลยที่เจ้าสามารถจินตนาการได้” กระบือดำขนาดใหญ่มีความรู้กว้างขวาง และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “อาวุธชนิดนี้เรียกได้ว่าอยู่เหนืออาวุธยอดเยี่ยมของปฐมบรรพบุรุษ สามารถทำลายโลกได้”

“ทรงพลังปานนี้เชียว!” พวกหลิ่วเยี่ยนไป๋ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว

แม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่าอาวุธวที่หลี่ชิเย่สร้างนั้นคืออาวุธอะไร แต่ว่า เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่พูดเช่นนี้ก็ย่อมจะสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างยิ่งแน่นอน

“อาวุธนี้หาใช่ไฟทั่วไปสามารถหลอมมันได้” นัยน์ตาที่ดั่งกระดิ่งทองแดงจ้องเขม็ง และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ดังนั้น พลังที่เขาต้องการหยิบยืมคือพลังจากสวรรค์ และเกรงว่าเขาจะไม่เพียงแค่ต้องการยืมเท่านั้น”

“พลังสวรรค์” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้สึกเสียวสันหลังวาบ นางย่อมรู้ว่าพลังสวรรค์นั้นบ่งบอกสิ่งใด

“คอยดูต่อไปเถอะ” กระบือดำขนาดใหญ่เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เรื่องสนุกๆ กำลังจะได้เห็นแล้ว สิ่งนี้กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ตลอดกาล แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษนับแต่อดีตถึงปัจจุบันก็ทำไม่ได้ เขากลับทำได้!”

……………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล