ตอนที่ 3105 ปล้นพลังจากสวรรค์ – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 3105 ปล้นพลังจากสวรรค์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 3105 ปล้นพลังจากสวรรค์
บนยอดเขาสูง กระบี่เหินเทียนเจียวได้เตรียมการพร้อมสรรพแล้ว นางและกองกำลังหน่วยหนึ่งได้น้าวสายธนูจนตึง พลังลมปราณที่แข็งแกร่งถูกอัดฉีดเข้าไปในนั้น ทำการสำแดงอานุภาพของคันธนูจนถึงขีดสูงสุด
เวลานี้ คันธนูเขี้ยวมังกรถล่มสวรรค์เรียกได้ว่าลูกธนูถูกตั้งให้อยู่บนสายเรียบร้อยแล้ว สามารถยิงออกไปได้ทุกขณะ
ในเวลานี้กระบี่เหินเทียนเจียวก็ได้เล็งไปยังทิศทางที่ต้องการ พร้อมที่จะโจมตีต่อเป้าหมายให้ถึงตายในคราเดียว แต่ว่า กระบี่เหินเทียนเจียวไม่ได้ยิงออกไปในขณะนี้ แต่เฝ้ารออย่างเงียบๆ
การที่กระบี่เหินเทียนเจียวไม่รีบเร่งลงมือ เพราะนางต้องการรอให้ถึงจังหวะที่หลี่ชิเย่อ่อนแอที่สุดค่อยลงมือ เวลานั้นก็จะโจมตีหลี่ชิเย่ครั้งเดียวให้ถึงแก่ชีวิต หนึ่งธนูส่งเขาไปยังแดนสุขาวดี
ผู้หญิงคือสัตว์ที่ฝังแค้นมากที่สุด กระบี่เหินเทียนเจียวก็เป็นเช่นนี้ นางถูกหลี่ชิเย่ซัดจนกลายเป็นหมอกเลือด จึงพกความแค้นไว้ในใจ อยากจะทำให้หลี่ชิเย่กลายเป็นผุยผงให้รู้แล้วรู้รอดไป
แม้ว่าคราวก่อนจะรอดตายอย่างหวุดหวิด จักรพรรดิซีหวงได้กล่าวเตือนนางแล้วว่า อย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดอันดับหนึ่งอีก มิฉะนั้นล่ะก็ ใครก็ช่วยนางไม่ได้
ทว่า การที่กระบี่เหินเทียนเจียวถูกหลี่ชิเย่ซัดจนกลายเป็นหมอกเลือดและเกือบจะต้องเสียชีวิตไป นางจะยอมเลิกราง่ายๆ ได้อย่างไรกัน ดังนั้น มาคราวนี้นางได้ใช้ทรัพยากรไปจำนวนไม่น้อย หยิบยืมเอาธนูเขี้ยวมังกรถล่มสวรรค์มา คาดหวังว่าจะมีโอกาสได้ลอบโจมตีหลี่ชิเย่นี่แหละ
สวรรค์ไม่ทำให้ผู้ที่มีความพยายามต้องผิดหวัง มาคราวนี้นึกไม่ถึงเลยว่าคนโหดอันดับหนึ่งถึงกับรนหาที่ตายเอง ถึงกับเรียกเอาสวรรค์ลงทัณฑ์มา สิ่งนี้กล่าวสำหรับกระบี่เหินเทียนเจียวแล้ว มันคือโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง
ดังนั้น ไหนเลยที่กระบี่เหินเทียนเจียวจะยอมพลาดโอกาสที่หาได้ยากยิ่งเช่นนี้เล่า? ดังนั้น นางจึงปิดบังจักรพรรดิซีหวง นำพากองกำลังทหารหน่วยเล็กๆ หน่วยหนึ่งมาโดยพลการ นำคันธนูเขี้ยวมังกรถล่มสวรรค์มาติดตั้งไว้บนยอดเขา เตรียมพร้อมที่จะลอบโจมตีหลี่ชิเย่ หวังจะอาศัยหนึ่งธนูให้ถึงตาย
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง หน้าต่างที่มีสีครามเข้มบานนั้นเสมือนดั่งถูกฉีกจนขาดอย่างนั้น และวังวนก็ได้พุ่งลงมาอย่างบ้าคลั่ง เสมือนดั่งพลิกกลับด้านโลกทั้งโลกอย่างนั้น เหมือนว่านี่คือความโกรธแค้นของสวรรค์
ภายในใจของทุกคนต่างสั่นเทาขณะวังวนพุ่งโจมตีลงมาอย่างรุนแรง นาทีนี้ทุกคนต่างรู้สึกว่านี่คือการโกรธของสวรรค์ ภายใต้ความโกรธเช่นนี้ สิ่งมีชีวิตใดๆ ผู้ดำรงอยู่ในฐานะใดๆ ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้นเอง สามารถถูกบดจนกลายเป็นผงภายใต้ปณิธานของสวรรค์
ขณะวังวนที่น่าสยองขวัญพุ่งโจมตีลงมานั้น หลี่ชิเย่ถูกท่วมจนจมมิดอย่างสิ้นเชิง ภายใต้การพุ่งโจมตีเช่นนี้ของวังวน ทุกคนต่างคิดว่าหลี่ชิเย่จะต้องหายวับไปกับตาในพริบตาแน่นอน
เสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวที่วังวนพุ่งโจมตีลงมาอย่างบ้าคลั่งนั้น ลำแสงที่พุ่งโจมตีจากท้องฟ้าด้านทิศเหนือแต่เดิมพลันดับลง ลักษณะเช่นนี้ก็คล้ายดั่งแสงไฟตอนดึกพลันดับลงอย่างนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งท้องฟ้าด้านทิศเหนือเสมือนดั่งตกอยู่ในความมืดอย่างนั้น
ภายใต้เบื้องหลังที่มืดสนิทเช่นนี้ สามารถมองเห็นวังวนกับกระแสไฟได้อย่างชัดเจน ประกายที่เปล่งออกมาจากวังวนและกระแสไฟได้ส่องสว่างรอบๆ จนสว่างไสว
แต่ว่า จากการที่ลำแสงลักษณะเช่นนี้พลันหายไปนั้น ก็ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง หน้าต่างที่มีสีครามเข้มบานนั้นพลันหายไป
ลักษณะเช่นนี้ดุจดั่งหน้าต่างที่เปิดขึ้นเพื่อเชื่อมต่อไปถึงสวรรค์พลันถูกปิดเอาไว้แล้วอย่างนั้น
ขณะที่หน้าต่างที่มีสีครามเข้มพลันปิดลงแล้ว วังวนที่บ้าคลั่งก็คล้ายดั่งแหนที่ไร้รากล่องลอยไร้ทิศทาง โคลงเคลงไปมาอย่างบ้าคลั่ง
ตูม ตูม ตูมฟ้าดินโคลงแคลง จากการที่วังวนโคลงแคลงไปมาอย่างบ้าคลั่งนั้น ไม่เพียงทำให้ท้องฟ้าด้านทิศเหนือโคลงแคลงตามไปด้วยเท่านั้น อีกทั้งแดนลัทธิเซียนก็สั่นไหวโคลงแคลงตามไปด้วย สั่นไหวโคลงแคลงจนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนเวียนหัวตาลาย
ทุกคนต่างเกรงว่าหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป วังวนที่บ้าคลั่งเช่นนี้จะนำเอาท้องฟ้าด้านทิศเหนือและแดนลัทธิเซียนดูดเข้าไปด้วย และจัดการบิดโลกทั้งโลกจนแหลกละเอียด
จังหวะที่วังวนส่ายโคลงแคลงไปมาอยู่นั้น กระแสไฟที่รวมตัวเข้ากับวังวนถึงกับฉุดลากวังวนนั่น ค่อยๆ ลากเอาวังวนที่บ้าคลั่งนี้เข้าไปด้านในของอาวุธ
ภาพเช่นนี้นับว่าแปลกประหลาดมากเหลือเกิน
ถ้าหากว่าอาวุธที่อยู่ในมือหลี่ชิเย่เล่มนั้นเป็นข้องใส่ปลาล่ะก็ กระแสไฟที่วิ่งออกมารวมตัวกับวังวนก็คือเหยื่อ และวังวนที่บ้าคลั่งก็คือปลาที่ติดเบ็ด
เวลานี้เจ้าปลาที่เป็นวังวนบ้าคลั่งตัวนั้นติดเบ็ดแล้ว ขณะที่หน้าต่างสีครามเข้มบนท้องฟ้าบานนั้นปิดตัวลง ก็คล้ายปลาที่พ้นจากน้ำ ถูกเบ็ดเกี่ยวขึ้นมาได้แล้ว
ขณะวังวนบ้าคลั่งถูกฉุดลากเข้าไปในอาวุธนั้น ก็เหมือนนำเอาปลาที่เกี่ยวขึ้นมาได้ใส่ลงไปในข้องอย่างนั้น
ปัง ปัง ปังบนท้องฟ้าปรากฏเสียงที่หนักมากดังขึ้นมาระลอกแล้วละลอกเล่า เหมือนบนเก้าชั้นฟ้ามีสิ่งของอะไรบางอย่างที่ชนปะทะกับท้องฟ้าอย่างหนัก แต่ว่า กลับไม่สามารถทลายกำแพงกั้นและฝ่าเข้ามา
เหมือนว่าสวรรค์ถูกปล้นเอาพลังของตนไป ดังนั้นจึงโกรธแค้นขึ้นมา เสียดาย เมื่อหน้าต่างถูกปิดกั้นลงแดนสามเซียนถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ต่อให้บนเก้าชั้นฟ้าจะยิงโจมตีอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์!
“นี่บ้าระห่ำเกินไปแล้วกระมัง” ทุกคนที่มองเห็นภาพนี้แล้วต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ นาทีนี้ต่อให้เป็นคนโง่ก็มองออกว่าหลี่ชิเย่ต้องการทำอะไร
“นี่ต้องการปล้นพลังของสวรรค์นะเนี่ย” ระดับคงความอมตะตลอดกาลถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป และร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง
เรื่องการดักปล้นพลังของสวรรค์เช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าจะคิด ต่อให้เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษก็ไม่กล้าเอ่ยถึงง่ายดาย เรื่องเช่นนี้น่าสยองขวัญมากเหลือเกิน และยังเป็นข้อห้ามใหญ่ หากผิดพลาดแม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่นำมาซึ่งภัยถึงแก่ชีวิตเท่านั้น กระทั่งทำให้โลกทั้งโลกต้องพบกับภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด
ในขณะนี้ หลี่ชิเย่ไอเป็นเลือด ขณะยืนอยู่บนท้องฟ้าเหมือนยืนได้ไม่มั่นคง
แต่ว่า เมื่อไปดูอาวุธเล่มนั้นที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา แม้ว่าอาวุธเล่มนี้เพิ่งเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างเท่านั้น แต่ว่า มันเต็มเปี่ยมด้วยพลังที่ทำลายโลก อาวุธลักษณะเช่นนี้ ต่อให้โจมตีเบาๆ เหมือนว่าก็สามารถทำลายแดนสามเซียนจนพังพินาศย่อยยับได้แล้ว
“น่าสยองขวัญมากเหลือเกิน อาวุธยอดเยี่ยมของยอดเยี่ยม” ทุกคนถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อมองเห็นอาวุธที่ดื่มเอาพลังจากสวรรค์จนอิ่มแปล้เล่มนี้
ในเวลานี้เอง ร่างกายของหลี่ชิเย่เซนิดหนึ่ง ดูไปแล้วเขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป เวลานี้เหมือนเริ่มจะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว
ปุ…เสียงแหวกอากาศดังขึ้นเสียงหนึ่ง ครั้นประกายขาวนวลแลบผ่านไปนานมากแล้ว จึงปรากฎเสียงแหวกอากาศเสียงนี้ดังขึ้น กระทั่งผู้คนทั้งหมดมองเห็นประกายเลือดแวบหนึ่งแล้วจึงค่อยได้ยินเสียงแหวกอากาศ
จังหวะที่หลี่ชิเย่อยู่ในช่วงที่อ่อนแอที่สุดนั้น กระบี่เหินเทียนเจียวก็ได้โจมตีต่อหลี่ชิเย่ชนิดถึงตายในครั้งเดียว คันธนูเขี้ยวมังกรถล่มสวรรค์ได้ยิงธนูออกไปดอกหนึ่ง
ธนูดอกนี้ลวดเร็วมากเหลือเกิน รวดเร็วจนกระทั่งระดับคงความอมตะตลอดกาลยังมองเห็นไม่ชัดเจน พลันปรากฏเลือดสดๆ ที่แตกกระจาย หนึ่งธนูนั้นได้ยิงทะลุร่างกายของหลี่ชิเย่
ในเสี้ยววินาทีนั่นเอง เสมือนหนึ่งกาลเวลาได้หยุดลงอย่างนั้น จากนั้น ทุกคนต่างมองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่ที่ร่วงวหล่นลงมาจากท้องฟ้าสูง หลังจากผ่านไปนานมาก เหมือนได้วินเสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้ตกลงบนลูกอุกกาบาต
“แย่แล้ว…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
ทว่า ทุกสิ่งล้วนสายไปเสียแล้ว เนื่องจากหนึ่งธนูจากคันธนูเขี้ยวมังกรถล่มสวรรค์รวดเร็วเหลือเกิน มันคือการสังหารที่เด็ด่ขาด ได้ยิงทะลุร่างกายของหลี่ชิเย่ในพริบตาเดียว
หลังจากธนูหนึ่งดอกยิงผ่านไปแล้ว ทุกคนจึงได้ยินเสียงแหวกอากาศ และเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ในขั้นตอนนี้ ต่อให้มีผู้ที่คิดจะกล่าวเตือนสติหลี่ชิเย่ก็สายไปเสียแล้ว หนึ่งธนูนี้นับว่ารวดเร็วเหลือเกิน กระทั่งมันคือหนึ่งธนูที่รวดเร็ว และส่งผลถึงแก่ชีวิตมากที่สุดดอกหนึ่งเท่าที่ผู้คนจำนวนมากได้เห็นมาชั่วชีวิต
“แย่แล้ว…” หลิ่วเยี่ยนไป๋ตกใจจนหน้าซีดเมื่อได้เห็นภาพนี้ และส่งเสียงร้องดังขึ้นมา
พวกเขาราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมากทีเดียว มีเพียงเจ้ากระบือดำขนาดยักษ์ที่มีท่าทีเป็นปรกติ
…………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...