มันให้หัวแม่มือซ้ายข้างที่ถือนาฬิกาพกหุ้มเหล็ก เตรียมกดปุ่มเหล็กบนหน้าปัดที่ยุ่งเหยิง ขณะเดียวกันก็ยกแขนขวาขึ้น เล็กหกปากกระบอกสีเทาที่เรียงกันเป็นวงกลม ไปทางเกอร์มัน·สแปร์โรว์
ขั้นตอนดังกล่าวเปรียบดังประกายไฟที่เกิดจากการเสียดสีโลหะ สว่างขึ้นและหายไปในพริบตา โดยสำหรับนิ้วหัวแม้โป้งซ้ายของโจนาส มันยังมิได้กดลงบนปุ่มเหล็กของหน้าปัด
มันเอาชนะปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติของตน หักห้ามใจยังไม่ใช้พลัง ‘ข้อห้าม’ ของ ‘แสงเงาประชันดนตรี’ ในทันที
นั่นเพราะมันยังไม่รู้จักเกอร์มัน·สแปร์โรว์ดีพอ ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมีจุดแข็งอย่างไร และเกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่ตนกำลังเห็นอาจไม่ใช่ตัวจริง การใช้ข้อห้ามส่งเดชอาจทำให้เสียโอกาสไปโดยเปล่าประโยชน์
มันตั้งใจจะดูเชิงไปอีกสักพัก จะได้กำหนด ‘กฎ’ และบิดเบือนให้สอดคล้องกับจุดแข็งของอีกฝ่าย
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ปืนลูกโม่ประหลาดกรีดร้องด้วยเสียงสิ้นหวัง กระหน่ำพายุกระสุนสีดำเย็นเยียบ ห้อมล้อมศัตรูภายใต้ดวงจันทร์สีแดงในพริบตา
ทันใดนั้น ร่างของเกอร์มัน·สแปร์โรว์โปร่งใสในทันที กลายเป็นมายาและพร่ามัว
กระสุนที่กระทบร่างแทบจะในพริบตา จากที่ควรฉีกทำลายเสื้อกันลมสีดำ กลับทำได้เพียงสลายภาพตกค้างที่เหลือทิ้งไว้
และด้านหลังโจนาส·โคลเกอร์ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่มีใบหน้าเย็นชาโผล่ขึ้นจากความว่างเปล่า ร่างกายอยู่ในท่ากึ่งคุกเข่า โน้มตัวเล็กน้อย หมวกทรงสูงสีดำเหนือศีรษะถูกฉาบด้วยสีแดงจากดวงจันทร์
ทันใดนั้น มันยกลูกโม่เหล็กสีดำในมือขึ้น อ้าปากเล็กน้อยขณะเล็ง ลั่นไกปืนโดยไม่ลังเล
ปัง!
พื้นฝั่งขวามือของโจนาส·โคลเกอร์เกิดระเบิดทันที เศษดินหินนับไม่ถ้วนปลิวกระจัดกระจาย
การยิงของเกอร์มัน·สแปร์โรว์พลาดเป้าไปไกลมาก แถมพลังทำลายก็ยังบกพร่อง
นี่คือพลัง ‘บิดเบือน’ ของเคาต์แห่งการเสื่อมถอย สามารถหักเหวิถีและลดพลังงานลง
อาศัยโอกาสดังกล่าว โจนาส·โคลเกอร์ใช้พลัง ‘ยุ่งเหยิง’ สร้างอิทธิพลกับมาตรวัดระยะทาง ส่งผลให้เดินไปถึงระเบียงห้องนอนภายในก้าวเดียว
จากนั้น มันหมุนครึ่งตัวพร้อมกับกดปุ่มโลหะปุ่มหนึ่งบนหน้าปัดนาฬิกาพกหุ้มเหล็กในมือ กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม:
“ที่นี่ไม่อนุญาตให้เทเลพอร์ต!”
การเปลี่ยนแปลงลึกลับเกิดขึ้นกับคฤหาสน์เพลงกุหลาบที่ถูกฉาบด้วยแสงจันทร์อย่างเงียบเชียบ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีใสหลังยิงปืนเสร็จ ถูกบังให้โผล่ออกจากความว่างเปล่าอีกครั้ง
มันเปลี่ยนตำแหน่งหลังยิงล้มเหลว
พลัง ‘ข้อห้าม’ ของ ‘แสงเงาประชันดนตรี’ !
สำหรับโจนาส·โคลเกอร์ ไม่สนว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์จะถนัดพลังแบบใด แต่ทันทีที่เห็นเทเลพอร์ต มันรีบสร้างข้อห้ามพลังชนิดนี้ทันที เพราะศัตรูที่สามารถเทเลพอร์ตได้ต่อเนื่อง นอกจากจะน่ารำคาญ ยังเต็มไปด้วยความอันตราย!
เมื่อพบว่าเทเลพอร์ตล้มเหลว สีหน้าของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ยังคงไม่แปรเปลี่ยน ร่างกายเกิดการบิดเบี้ยวพร้อมกับสีสันที่ซีดลง จนกระทั่งเหลือเพียงสีดำสนิท
ก้อน ‘สีดำสนิท’ ยุบตัวลงอย่างรวดเร็วและไหลไปตามพื้น ผสมผสานกับเงาดำในบริเวณใกล้เคียงที่ไม่ได้รับแสงจากดวงจันทร์ ยากจะจำแนกได้ชัดเจน
ปัง! ปัง! ปัง! ในตำแหน่งที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์เคยยืน รูกระสุนถูกสร้างขึ้นพร้อมกับเศษดินหินที่กระจัดกระจาย
โครม!
พื้นพังลงทันที เผยให้เห็นห้องด้านล่าง แต่ปราศจากฝุ่นฟุ้งกระจาย
และแม้จะเกิดเสียงเอะอะเช่นนี้ คฤหาสน์เพลงกุหลาบก็ยังถูกปกคลุมด้วยความเงียบและเงามืด ไม่มีใครตื่นตอนหรือส่งเสียงตอบสนอง
เป็นอีกครั้งที่โจนาส·โคลเกอร์ยับยั้งความต้องการที่จะสร้าง ‘ข้อห้าม’ ไม่ให้ศัตรูซ่อนในเงา เพียงถือ ‘เสียงแผดอันแสนสิ้นหวังของรีเวียร์’ และ ‘แสงเงาประชันดนตรี’ ไว้ในมือสองข้าง คอยสังเกตสิ่งรอบข้างอย่างสุขุม รอให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์โผล่หน้าอีกครั้งจึงค่อยเปิดฉากโจมตี
แต่ภายในห้องที่ชำรุดทรุดโทรม เงาดำทุกจุดยังคงนิ่งสนิท ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น และด้านนอกหน้าต่าง ยอดแหลมของอาคารและปล่องไฟยังคงปกคลุมไปด้วยสีดำที่เย็นเยียบ เหนือท้องฟ้ายังคงมีพระจันทร์สีแดงขนาดมหึมาลอยสูง
พืชในสวน เถาองุ่นที่ห่างออกไปไกล หน้าต่างทรงโบราณ พวกมันคล้ายกับพร่ามัวและทรุดโทรมลงท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด แม้จะยังมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่ประสาทสัมผัสกลับไม่รู้สึกว่ามีอยู่จริง
คฤหาสน์เพลงกุหลาบกลายเป็นสถานที่หม่นหมองและไร้ชีวิตชีวา เงียบสงัด คล้ายกับเป็นมุมที่ถูกโลกลืมและไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครหาพบ
ในฐานะครึ่งเทพ ในฐานะคนใหญ่คนโตที่อยู่ในโลกของข่าวกรอง โจนาส·โคลเกอร์สร้างข้อสันนิษฐานได้อย่างรวดเร็ว มันสงสัยว่าปรากฏการณ์ตรงหน้าอาจเกี่ยวข้องกับพลังในขอบเขต ‘การปกปิด’
ท่ามกลางแนวคิดอันหลากหลาย เกอร์มัน·สแปร์โรว์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะโผล่ออกมา
มันไม่คิดจะลอบจู่โจมเข้ามา ไม่คิดจะหาโอกาสลั่นกระสุนใส่เราทั้งที่เปิดช่องว่างให้ขนาดนี้… มันไม่รู้จักพลังของ ‘นักกฎหมาย’ หรือ ‘ผู้ตัดสิน’ ในระดับสูงหรอกหรือ? ยิ่งการต่อสู้ผ่านไปและรู้จักศัตรูดีพอ โอกาสได้รับชัยชนะของศัตรูก็ยิ่งริบหรี่… โจนาส·โคลเกอร์เกิดความสับสนเล็กๆ
หลังจากตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างไม่รีบร้อน มันพอจะทราบสถานการณ์เบื้องต้นของตัวเอง และเข้าใจว่าการเอาชนะเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ใช่กุญแจสำคัญ ประเด็นหลักคือการหลบหนีออกจากโลกที่แปลกประหลาดและเป็นความลับแห่งนี้
ถ้าไม่รีบหนีออกไป อาจมีอันตรายอื่นๆ ตามมาในภายหลัง!
ขอเพียงเราออกจากคฤหาสน์เพลงกุหลาบที่มืดมิดแห่งนี้ไปได้ ต่อให้เทวทูตเสด็จเยือน เราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก เพราะที่นี่ยังคงเป็นเบ็คลันด์… และโลกแห่งการปกปิดที่เกิดจากฝีมือมนุษย์แห่งนี้ย่อมต้องมีทางออก สิ่งนี้คือกฎอันเข้มงวดของโลกเหนือธรรมชาติที่ไม่มีใครสามารถฝ่าฝืน… การฉกฉวยช่วงโหว่ของกฎและบิดเบือนมัน คือสิ่งที่ครึ่งเทพเส้นทางนักกฎหมายชำนาญที่สุด! ท่ามกลางกระแสความคิด โจนาส·โคลเกอร์รีบตัดสินใจ
มันกลับตัวกะทันหัน กระโดดออกจากระเบียงด้วยพละกำลังทั้งหมด เป็นแรงพุ่งอันน่าทึ่งคล้ายกับสปริงที่ถูกบีบอัดและคลาย
ครึ่งเทพแห่งกองทัพลอยขึ้นสูงในอากาศ โดยที่ความเร็วมิได้ลดลง ไม่มีแนวโน้มที่จะร่วงหล่น
มันยังคงรักษาความเร็วเดิมไปเรื่อยๆ และลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการบิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ