ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1065

ราชันเร้นลับ 1,065 : ผู้ท่องมิติดวงดาว
โมเบธชำเลืองเลียวนาร์ดและกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“พวกเขาก็ไม่ได้เย็นชาและชั่วร้ายขนาดนั้น…”

มันยกแก้วขึ้นมากระดก

“เจ้าคงทราบใช่ไหมว่ายิ่งมีลำดับสูงมากเพียงใด โอกาสที่จะเย็นชาและเสียสติก็มากเท่านั้น? แล้วตระกูลขุนนางใดบ้างของโซโลมอนที่ไม่มีเทวทูตสังกัด? นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาแตกต่างจากคนทั่วไป… สำหรับระดับความเย็นชาและชั่วร้ายจะขึ้นอยู่กับเส้นทางและ ‘หลักยึดเหนี่ยว’… ข้าเองก็ไม่ทราบสถานการณ์ของท่านปู่ทวดมากนัก รู้เพียงว่าเขาเป็นคนใจดีและเปี่ยมไปด้วยเมตตา ทั้งคำพูดและการกระทำค่อนข้างเป็นกันเองกับคนในตระกูล… นอกจากนั้นองค์ฝ่าบาทยังตั้งกฎกับทุกตระกูลไว้ว่า ‘ห้ามเป็นไปในแนวทางเดียวกัน’ ส่งผลให้ถ้าแต่ละตระกูลขุนนางมีความคล้ายคลึงกันมากเกินไป พระองค์จะทรงกริ้ว”

สำหรับเหตุผลแรก เราสามารถทำความเข้าใจได้ แต่กับเหตุผลที่สองนั้นฟังดูน่าขบขันชะมัด… หรือว่าจักรพรรดิมืดแห่งโซโลมอนต้องการจะให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ? ถึงกับตั้งกฎว่าห้ามเป็นไปในทิศทางเดียวกัน… ไคลน์ที่มิได้สวมหน้ากากหนาๆ เหมือนเมื่อก่อน เผยรอยยิ้มตรงมุมปากโดยไม่ปิดบัง

พร้อมกันนั้นออเดรย์หันมามองชายหนุ่มและเกิดคำถามแบบเดียวกับมิสเตอร์สตาร์

“หลักยึดเหนี่ยว?”

ทุกคนในที่นี้ทราบอยู่แล้วว่ายุคสมัยที่สี่มีรสนิยมเกี่ยวกับความไม่สมมาตรและไม่สอดคล้อง กฎดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องผิดปรกติและจะฟังดูแปลกหูไปบ้าง

“สำหรับทวยเทพ หลักยึดเหนี่ยวคือสาวกและความศรัทธา” ไคลน์อธิบายเรียบง่าย

อย่างนี้นี่เอง… ออเดรย์ที่เริ่มมองเห็นภาพรวมมากขึ้น เริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเทพและสาวก

ขณะเดียวกัน หญิงสาวขบคิดด้วยความสับสน

ในช่วงแรกของการฟื้นคืนชีพ มิสเตอร์ฟูลยังไม่น่าจะมีสาวกมากนัก แล้วท่านใช้สิ่งใดเป็นหลักยึดเหนี่ยว?

เลียวนาร์ดที่ตั้งใจฟังอดไม่ได้ที่จะทำหน้าเคร่งขรึม ราวกับมันฉุกคิดได้หลายสิ่งภายในเวลาอันสั้น

แต่เพียงไม่นานก็รีบกลับมาสนใจโมเบธและตั้งคำถาม

“เทวทูตพาลีส·โซโรอาสเตอร์เป็นคนเช่นไร? และมีนิสัยเป็นแบบไหน?”

หืม… เลียวนาร์ดรอบคอบมาก ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่เชื่อว่าปรสิตในตัวคือพาลีส·โซโรอาสเตอร์… อา… นั่นก็มีความเป็นไปได้ที่พาลีสตัวจริงจะร่วงหล่นไปแล้วและคนที่อยู่ในร่างพยายามสวมรอย… สำหรับเทวทูตเส้นทางนักจารกรรม พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่… และจากมุมมองของตัวตนลึกลับ การสวมรอยแทนที่ใครสักคนจะเท่ากับการเปลี่ยนเป็นคนคนนั้นโดยสมูบณ์ แทบไม่มีทางที่ความลับจะรั่วไหล…

หึหึ… ยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญหรือเรื่องที่หมอนั่นสนใจ รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตัวเอง เลียวนาร์ดทำได้ดีกว่าที่เราคิด… นี่คงเป็นสาเหตุที่เขาสืบสาวจนรู้ว่าไคลน์·โมเร็ตติยังไม่ตาย… แต่ถ้าเป็นเรื่องนอกเหนือจากนั้น หมอนี่แถบไม่เอาอ่าว เอาแต่พึ่งพาประสบการณ์เก่าๆ โดยไม่คิดให้นอกกรอบ… ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีสมองหรอกนะ แต่เลือกที่จะไม่ใช้มากกว่า… ไม่สิ ต้องเรียกว่าขี้เกียจจะใช้… ไคลน์อดไม่ได้ที่จะรำพันพลางถอนหายใจ

โมเบธผงะไปสองสามวินาทีก่อนจะจิบเหล้ากลั่นและกล่าว

“ตอนอยู่ที่บ้าน ตาแก่จะทำตัวเป็นชายชราตาธรรมดาๆ ขี้บ่นตามประสาและชอบเคี่ยวเข็ญเหล่าทายาท แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสอนให้ทุกคนสนุกไปกับชีวิต หากไม่บอกล่วงหน้าก็คงไม่มีใครทราบว่าท่านคือเทวทูตลำดับ 1… รสนิยมของท่านแตกต่างจากองค์ฝ่าบาท ท่านเป็นคนที่รักความสะอาดและเจ้าระเบียบมาก… ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับศัตรูจะแสดงพรสวรรค์ด้านความเจ้าเล่ห์ออกมา และชื่นชอบที่จะจัดการเป้าหมายด้วยการทำให้อีกฝ่ายสติแตก…”

นิสัยค่อนข้างคล้ายกับตาแก่ในช่วงปัจจุบัน… เลียวนาร์ดพยักหน้าและถาม

“คุณมีภาพเหมือนของเขาบ้างไหม?”

“ทำไมข้าถึงต้องพกภาพเหมือนของท่าน? ไม่ได้กำลังตามหาตัวสักหน่อย!” โมเบธส่ายศีรษะอย่างขบขัน

ถึงตรงนี้เลียวนาร์ดชี้ไปด้านข้าง

“แล้วนั่นไม่ใช่หรือไง?”

“หา?” โมเบธหันไปทางขวามือด้วยสีหน้าสับสนและได้พบกับภาพวาดสีน้ำมันวางอยู่ตอนไหนก็มิอาจทราบได้

เมื่อมันหยิบภาพวาดขึ้นมาถือ เนื้อหาของภาพค่อยๆ คมชัดขึ้นจนเผยให้เห็นชายชราเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้ม

ชายชรารายนี้มีผมสีขาวโพลน แต่ไม่บางจนเกินไปและหวีเรียบไปด้านหลัง ตามหน้าผาก มุมปาก และหางตาแทบไม่ปรากฏริ้วรอยให้เห็น ส่งผลให้ภาพรวมดูไม่แก่มากนัก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหล่ามากในสมัยหนุ่ม ดูคล้ายกับโมเบธแต่มีบรรยากาศเคร่งขรึมมากกว่า

ดูไม่ออกเลยว่านี่คือเทวทูตลำดับ 1… หรือเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้เผยร่างสัตว์ในตำนานออกมา? ออเดรย์เขย่งมองภาพวาดสีน้ำมัน

หลังจากเลียวนาร์ดพยายามจดจำภาพวาดโดยละเอียด มันยิงคำถามอีกสองสามข้อเกี่ยวกับตระกูลโซโรอาสเตอร์และได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจ เรื่องที่น่าเสียดายคือโมเบธเองก็ไม่มั่นใจชื่อของโอสถตั้งแต่ลำดับ 3 ถึง 0 ยืนยันได้แค่ว่าลำดับ 1 ชื่อ ‘หนอนกาลเวลา’

เมื่อจบหัวข้อดังกล่าว เลียวนาร์ดเปลี่ยนไปถามเกี่ยวกับจักรวรรดิโซโลมอน

“ในยุคสมัยของคุณ จักรวรรดิโซโลมอนมีตระกูลใดบ้างที่มีชื่อเสียง?”

“ตระกูลดยุคมีไม่มากนัก” โมเบธวางแก้วลงพร้อมกับนับนิ้ว “ก็มีตระกูลโซโรอาสเตอร์ของข้า ตระกูลอับราฮัม และตระกูลซาราธ… นอกจากนั้นยังมีตระกูลเมดีซีและลอร์ดโอโรเลอุสที่ถึงแม้จะไม่ได้รับบรรดาศักดิ์ก็ยังเป็นตระกูลชนชั้นสูงที่โด่งดัง”

ทุกครั้งที่มันนับ นิ้วจะงอลงเสมอจนกระทั่งกลายเป็นกำปั้น

จากนั้นมันยิ้ม

“ในช่วงเวลาดังกล่าว แม้ทูดอร์กับทรันซอสต์จะมีเทวทูตมากที่สุดเป็นรองเพียงองค์ฝ่าบาท แต่ระดับของพวกเขาก็ยังด้อยกว่าเรา… แค่สูสีกับออกัสตัสและกาสตีญ่าเท่านั้น”

ประวัติศาสตร์ตระกูลออกัสตัสเก่าแก่ย้อนมาถึงจักรวรรดิโซโลมอนสินะ… ยิ่งออเดรย์ประหลาดใจเธอก็ยิ่งตั้งใจฟัง

เลียวนาร์ดไตร่ตรองสักพักก่อนจะถามต่อ

“ในยุคสมัยดังกล่าว สถานการณ์ของทวีปเหนือเป็นอย่างไร?”

“สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างยอมศิโรราบต่อองค์ฝ่าบาท แม้แต่ตระกูลเทวทูตก็มิอาจตอบโต้คู่อริได้ตามที่ต้องการ ต้องผ่านความเห็นชอบจากฝ่าบาทเสียก่อน” โมเบธหัวเราะแห้ง “เหล่าตระกูลเทวทูตล้วนมีอาณาจักรห่างไกลความเจริญคอยหนุนหลัง… สรุปโดยสั้นรัตติกาล เทพสงคราม และมรณานั้นไม่ลงรอยกัน ส่วนวายุสลาตัน สุริยันเจิดจรัส และปัญญานั้นขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในทางกลับกันท่าทีของธรณีนั้นค่อนข้างคลุมเครือ แต่ท่านมีความเอนเอียงไปทางเทพสงคราม สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้ไม่มีฝ่ายใดสามารถผนึกกำลังกันอย่างมั่นคงเพื่อโค่นล้มองค์ฝ่าบาทและพระผู้สร้างแท้จริง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ