นักบุญเร้นลับ โบทิส… ในระยะหลัง ฟอร์สมีประสบการณ์เกี่ยวกับโลกผู้วิเศษไม่น้อย ถึงขั้นเคยระแวงว่าตนอาจถูกเฝ้ามองโดยราชาเทวทูต ส่งผลให้ไม่เผยสีหน้ากระโตกกระตาก เพียงมองตรงอย่างเป็นธรรมชาติด้วยก้าวเดินปรกติ จนกระทั่งสวนกับชายที่สวมเสื้อกันลมสีดำ
ไม่กี่ก้าวถัดมา ทั้งสองก็สวนผ่านกันไป
หมอนี่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เพราะถูกตะกอนพลังดึงดูด? ถ้ารู้ว่าอาจารย์อยู่แถวนี้ มันคงไม่มัวเอ้อระเหยแน่ คงรีบใช้พลังเทเลพอร์ตไล่ตามอาจารย์ไปติดๆ … โชคดีที่อาจารย์ขึ้นรถม้าและออกจากโรงแรมไปแล้ว… ฟอร์สเริ่มสงบจิตใจพร้อมกับบรรเทาความเครียด
เดินไปอีกสองสามก้าว หญิงสาวแหงนมองฟ้าเพื่อดูว่าฝนจะตกหรือไม่
ทันใดนั้น อีกาตัวหนึ่งบินมาจากที่ห่างไกลและร่อนลงเกาะบนต้นไม้ริมถนน หันหน้ามองในจุดที่ฟอร์สเพิ่งเดินผ่าน
ฟอร์สหยุดคิดเกี่ยวกับนักบุญเร้นลับ โบทิส ยังคงเดินด้วยความเร็วปรกติจนกระทั่งเปลี่ยนถนน
เนื่องจากชุมนุมแสงเหนือเลิกจัดชุมนุมลับในเบ็คลันด์ไปนานแล้ว แถมเป้าหมายยังเป็นครึ่งเทพ ฟอร์สจึงยังไม่มีแผนจะแก้แค้นให้อาจารย์ในเร็วๆ นี้ อย่าว่าแต่สู้ให้ชนะ ลำพังการค้นหาและล็อกเป้า ‘จอมเวทลึกลับ’ ให้ได้ก็นับว่ายากเต็มทน
คงต้องรอให้เรากลายเป็นนักท่องเที่ยวก่อน หากบังเอิญได้พบกับโบทิสอีก ถึงตอนนั้นเราจะจ้างงานมิสเตอร์เวิร์ล… เรื่องเดียวที่ยืนยันได้ในตอนนี้ก็คือ ชุมนุมแสงเหนือส่งนักบุญเข้ามาในเบ็คลันด์แล้ว… หืม… แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่า ปลายทางของโบทิสคือที่อื่น แต่ระหว่างการเดินทางถูกตะกอนพลังดึงดูดให้หลงเข้ามาในเบ็คลันด์… ฟอร์สเริ่มขบคิดว่าตนควรขอความช่วยเหลือจากเดอะเวิร์ลดีไหม
เท่าที่เธอทราบ สุภาพบุรุษรายนี้สังหารครึ่งเทพไปแล้วอย่างน้อยสองตน โดยที่ยังเป็นครึ่งเทพได้ไม่ถึงสามเดือน!
แต่ละโบสถ์หลักจะมีครึ่งเทพเพิ่งสิบกว่าคนเท่านั้น… หากมิสเตอร์เวิร์ลรักษาความเร็วระดับนี้ เขาจะใช้เวลาเพียงสองปีในการกวาดล้างครึ่งเทพของโบสถ์หลักสักแห่งจนเกลี้ยง… แต่แน่นอน ความจริงไม่ใช่บัญญัติไตรยางศ์ เทียบกันแบบนั้นไม่ได้… ฟอร์สที่มีการศึกษาสูงเนื่องจากเรียนจบศัลยแพทย์ เดินไปตามถนนพร้อมกับปล่อยให้ความคิดล่องลอยจนกระทั่งขึ้นรถม้าเช่า
…
บนมิติเหนือสายหมอก ปัจจุบันมีการจัดชุมนุมย่อยซึ่งประกอบด้วยเดอะซัน เดอร์ริค แฮงแมน อัลเจอร์ และเดอะเวิร์ล เกอร์มัน·สแปร์โรว์
ทว่า จุดที่แตกต่างจากชุมนุมย่อยปรกติก็คือการมีมิสเตอร์ฟูลเข้าร่วมด้วย เนื่องจากจุดประสงค์ของเดอร์ริคคือการคัดเลือกสมบัติปิดผนึกชิ้นที่ตัวตนลึกลับรายนี้พึงพอใจ โดยจะแลกเปลี่ยนกับไม้กางเขนที่พระผู้สร้างเหลือทิ้งไว้
ขณะเดียวกันมันก็มีข้อสงสัยอยากปรึกษากับแฮงแมนและเดอะเวิร์ล จึงนัดชุมนุมย่อยเป็นปรกติพิเศษ
ดาบแสงเงิน หน้ากากสนธยา ไม้เท้าแห่งชีวิต ขลุ่ยแห่งการเสื่อมถอย… ทั้งหมดเป็นสมบัติปิดผนึกที่มีประสิทธิภาพสูงแต่มาพร้อมผลข้างเคียงระดับหายนะ จำเป็นต้องผนึกให้แน่นหนา… ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า เมืองเงินพิสุทธิ์ไม่มีผู้วิเศษเส้นทางช่างฝีมือแม้แต่คนเดียว ได้แต่ภาวนาให้สมบัติต่างๆ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ… แม้จะมีสมบัติปิดผนึกระดับเทพอยู่ที่หอคอย แต่อย่างมากก็ทำได้แค่ ‘ป่น’ ตะกอนพลังและรอให้พวกมันจัดระเบียบใหม่ ไม่สามารถพัฒนาให้เป็นสมบัติวิเศษที่มีคุณภาพได้… เมื่อเดอะฟูล ไคลน์ฟังคำอธิบายของเดอะซันน้อยจบ มันรีบวิเคราะห์ข้อดีข้อน้อยในใจอย่างรวดเร็ว
สิ่งแรกที่ตัดทิ้งคือหน้ากากสนธยา เพราะผลข้างเคียงด้านลบของสมบัติปิดผนึกจากเจ้าเมืองคนแรกนั้นรุนแรงเกินไป
จริงอยู่ที่ไคลน์สามารถยกหน้ากากให้หุ่นเชิดใส่ เป็นการตัดปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินเสียงจากโลกแห่งความตาย นอกจากนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าหุ่นเชิดของตนจะกลายเป็นทาสหน้ากาก แต่ร่างต้นก็จะตายไปอย่างกะทันหันเข้าสักวัน
ถัดมามันตัดขลุ่ยแห่งการเสื่อมถอยออกด้วยเหตุผลที่คล้ายกัน จริงอยู่ที่ความสามารถด้านลางสังหรณ์จะยอดเยี่ยมยิ่งกว่าพลังปีศาจในยุบพองหิวโหย แต่ผลข้างเคียงนั้นหลีกเลี่ยงได้ยากมาก
ถ้าเราให้ร่างต้นใช้ขลุ่ย จิตใจของเราจะเย็นชาจนมิอาจรักษา สิ่งนี้ขัดแย้งกับความสมดุลทางอารมณ์ที่มนุษย์ต้องรักษาระหว่างที่ก้าวไปเป็นเทพ และถึงจะส่งให้หุ่นเชิดใช้งานแทน ร่างต้นของไคลน์ก็จะสูญเสียความสามารถในการคิดและก่อความผิดพลาดได้ง่าย นั่นจะทำให้นักทำนายสูญเสียจุดแข็งของตนไป…
และเหนือสิ่งอื่นใด ขลุ่ยเลานี้ทำให้จิตใจของผู้คนในละแวกใกล้เคียงเสื่อมถอยลง แรงกระหายจะเข้ามาแทนที่ศีลธรรม ซึ่งไคลน์ยังไม่ต้องการให้ชาวถนนเบิร์คลุนจัดปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาลูกนอกสมรสตามมาอีกหลายคดี… สิ่งที่เหลืออยู่จึงมีแค่ดาบแสงเงินและไม้เท้าแห่งชีวิต… ไคลน์พึมพำในใจพลางรีบตัดสินใจเลือกหนึ่งจากสอง
หัวกะโหลกบริเวณด้ามของดาบแสงเงินนั้นมีสัญญาณชีพ… สำหรับไคลน์ สิ่งนี้แปลว่ามันสามารถเจรจากับอีกฝ่ายให้ลดผลข้างเคียงลงได้ ส่วนข้อจำกัดด้านความสูงนั้นไม่ใช่ปัญหา ในฐานะจอมเวทพิสดาร ไคลน์สามารถละทิ้งความ ‘หนา’ ของร่างกายและนำไปเพิ่มให้ส่วนสูงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสมดุลการเคลื่อนไหว เพราะพลังตัวตลกมีไว้ชดเชยจุดอ่อนในข้อนี้
ไม้เท้าแห่งชีวิตจะทำให้ผู้ถือเกิดการกลายพันธุ์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับไคลน์ที่สามารถผลักภาระให้หุ่นเชิดถือแทน ในกรณีที่มีอวัยวะถูกแทนที่ด้วยพืชพรรณ หุ่นเชิดสามารถรักษาตัวเองได้ด้วยแหวนบุปผาโลหิต และสำหรับผลข้างเคียงด้านการเพิ่มชีวิตชีวาและอัตราการสืบพันธุ์ให้กับสิ่งมีชีวิตรอบข้าง ในสายตาไคลน์ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น
เนื่องจากสมบัติปิดผนึกทั้งสองชนิดสามารถขจัดผลข้างเคียงได้ทั้งคู่ ไคลน์จึงตัดสินใจจากจุดแข็งแทน สำหรับดาบแสงเงิน เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มาจากโอสถนักล่าปีศาจแห่งเส้นทางนักรบ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือตั้งรับก็ล้วนยอดเยี่ยม แถมยังมีคุณสมบัติขจัดสิ่งชั่วร้าย ทำให้ต่อกรกับปีศาจได้ง่าย ส่วนไม้เท้าแห่งชีวิตมีข้อดีด้านการกระตุ้นและกลายพันธุ์ เหมาะแก่การทำให้คู่ต่อสู้หวาดหวั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ