บนที่ราบสูง เหนือแท่นบูชาที่มีดวงตา แขน หัว และอวัยวะภายในวางกอง
แสงสีแดงเข้มพวยพุ่งราวกับเลือดสด บิดตัวกลายเป็นเงาดำที่ดูคล้ายกับต้นไม้กลายพันธุ์
ท่ามกลางเสียงดังสนั่น กระดูกมนุษย์ เทียนไข ถาดเงิน กล่องทอง และวัตถุชิ้นอื่น สั่นสะเทือนรุนแรงราวกับจะสลักรอยขีดข่วนลงในวิญญาณ
บทสวดของผู้วิงวอนโดยรอบมีอันต้องหยุดชะงัก พวกมันก้มศีรษะลงตามสัญชาตญาณและหมอบกราบไปบนพื้น
จากนั้น พวกมันเข้าใจตรงกันโดยปริยาย
“ทะเลคลั่ง เกาะแนวปะการัง…”
…
เมื่อเห็นวังโบราณเหนือสายหมอกสีเทาด้วยสองตา ขณะเดียวกันก็สัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนแผ่วเบาของพื้นที่ลึกลับ ไคลน์ทราบทันทีว่า สายสัมพันธ์ที่มองไม่เห็นระหว่างตนกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ปราสาทต้นกำเนิด’ แนบแน่นขึ้นไปอีกระดับ
ในวินาทีนี้ มันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า สถานที่ดังกล่าวคือของตน
เพียงไม่กี่วินาที ความผิดปรกติบนท้องฟ้าเลือนหายไป ไคลน์ไม่มัวรีรอ บังคับหุ่นเชิดทั้งสองเก็บสิ่งของมีค่าและทำลายที่เหลือ จากนั้นก็นำกระดาษคนออกมาสะบัดหนึ่งครั้ง
สิ้นเสียงกระดาษปะทะกับอากาศ กระดาษคนลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีแดง ปีกมายาที่คมชัดงอกออกจากแผ่นหลังพวกมัน
ไคลน์ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น ไม่คิดว่าการแทรกแซงจากกระดาษคนตัวแทนแสนธรรมดา จะมีกลิ่นอายคล้ายอ้อมกอดเทวทูต
มันรีบคว้าหุ่นเชิดเอ็นยูนและโจนาส อาศัยความช่วยเหลือจากพลังเทเลพอร์ต หายตัวไปจากเกาะที่เกิดจากแนวปะการัง
หลังจากอ้อมไปรอบเกาะหลายแห่งบนทะเลโซเนีย ในที่สุดไคลน์ก็กลับมายังบ้านเช่าในเขตตะวันออกของกรุงเบ็คลันด์
ระหว่างการเดินทาง มันกระหน่ำใช้กระดาษคนตัวแทนที่ถูกยกระดับเชิงคุณภาพเพื่อขัดขวางการทำนายถึง แกะรอย และพยากรณ์
ฟู่ว…เราไม่คิดว่าการเลื่อนลำดับจะสร้างความเปลี่ยนแปลงกับปราสาทต้นกำเนิด จนก่อให้เกิดทัศนียภาพที่มิอาจปกปิด…โชคดีที่เราระวังตัวมากพอ เพราะถ้าประกอบพิธีกรรมเลื่อนลำดับในกรุงเบ็คลันด์ อามุนด์กับซาราธคง ‘เห็น’ แน่นอน…ไคลน์ถอนหายใจผ่อนคลาย จากนั้นก็เข้าไปในมิติหมอกเพื่อทำนายยืนยัน
หลังจากมั่นใจว่าปลอดภัย มันไม่แช่อยู่นาน รีบกลับโลกความจริงและเข้าฌานเพื่อหลอมรวมพลังวิญญาณที่กำลังแตกซ่าน
เมื่อจัดการเสร็จ มันเปลี่ยนเสื้อผ้า ทิ้งตัวลงนอนและหลับสนิท
โดยทั่วไปแล้ว จอมเวทพิสดารที่เลื่อนลำดับไปเป็นปราชญ์โบราณสำเร็จจะไม่อ่อนเพลียอย่างที่ไคลน์เป็น และมีพละกำลังเหลือเฟือในการตรวจสอบสภาพร่างกายใหม่ แต่ขณะไคลน์สำรวจประวัติศาสตร์ มันอาศัยความเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์โบราณที่เกินสามัญสำนึกอย่างเต็มที่ ทำการสำรวจลึกไปถึงจุดเริ่มต้นของยุคสมัยที่สอง หรือแม้กระทั่งจุดสิ้นสุดยุคสมัยที่หนึ่ง ในตอนที่วังราชาคนยักษ์ถือกำเนิด
ประสบการณ์เช่นนี้เทียบเท่าการย่อยโอสถ
หลังจากหลับลึกนานหลายชั่วโมง ไคลน์ตื่นขึ้นและบรรจงลืมตา
มันคลำหาหมอนและลุกขึ้นนั่งบนเตียง สอดหมอนไว้ด้านหลัง เงยหน้าขึ้นพลางลูบหน้าผาก
หลังจากผ่อนคลายตัวเองนานกว่าสิบนาที มันตื่นตัวเต็มที่และเริ่มสำรวจตัวเอง
อย่างที่คิด เราย่อยโอสถไปได้เกือบหมดทันทีหลังจากดื่ม…อย่างน้อยก็สี่ในห้าส่วน…ตรงตามที่คาดหวัง…แต่เราไม่รู้ว่าต้องรวบรวมข้อมูลโบราณมากเพียงใดเพื่อให้ย่อยโอสถได้สมบูรณ์…
ดูเหมือนว่า หลักการย่อยโอสถจะมีอยู่สองรูปแบบ หนึ่ง สวมบทบาทเป็น ‘ปราชญ์จากยุคโบราณ’ และสอง สวมบทบาทเป็น ‘ปราชญ์ที่ศึกษาประวัติศาสตร์โบราณ’ จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ใด…บทบาทแรกไม่ใช่เรื่องยาก เงื่อนไขของพิธีกรรมเลื่อนลำดับช่วยให้ทุกคนเป็น ‘ปราชญ์จากยุคโบราณ’ ได้อยู่แล้ว…
แต่บทบาทที่สองนั้นยากมาก…อาจง่ายในสังคมสมัยใหม่ แต่ไม่ใช่กับยุคสมัยที่มีเทพ ปีศาจ และมาร…ลำพังการรวบรวมข้อมูลโบราณก็มีความเสี่ยงสูงแล้ว ยังไม่นับรวมถึงการศึกษาประวัติศาสตร์ที่อาจตายได้ทุกเมื่อโดยไม่รู้ตัว เพราะยิ่งเข้าใกล้ความจริง อันตรายก็ยิ่งมาก…
การที่เรารวบรวมข้อมูลได้มากขนาดนี้ ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณ ‘แผนการ’ ของตัวตนที่ยิ่งใหญ่สองสามคน รวมถึงชะตากรรมอันซับซ้อนที่ชักนำโดยปราสาทต้นกำเนิด จนได้มีประสบการณ์ที่ชีวิตโลดโผนดังที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งที่เป็นข้ารับใช้ของเทพแท้จริง เรากลับพลาดท่าตายไปแล้วหนึ่งครั้ง นับประสาอะไรกับปราชญ์โบราณคนอื่น…
มันคงง่ายขึ้นถ้า ‘ผู้ชี้นำปาฏิหาริย์’ และ ‘ปราชญ์โบราณ’ สลับวิธีการสวมบทบาทกัน…แต่โลกนี้ไม่มีคำว่าถ้า…
นอกจากนั้น สองวิธีในการสวมบทบาทที่เราเพิ่งสรุปได้ เน้นหนักที่คำว่า ‘โบราณ’ มากเกินไป ต้องสนใจคำว่า ‘ปราชญ์’ ด้วย…ต้องเรียนรู้สิ่งใดจากประวัติศาสตร์จึงจะคู่ควรกับคำว่า ‘ปราชญ์’ ?
หลังจากนี้ มีหลายทิศทางที่เราต้องมุ่งหน้าไป…อันดับแรกคือการยืนยันสถานการณ์ปัจจุบันของเทวทูตมืด ซาสเรีย และศึกษาขั้นตอนการเกิดมหาภัยพิบัติอย่างละเอียด ถัดมา เราต้องทุ่มเวลาให้กับการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์อย่างละเอียดของยุคสมัยที่สี่เข้าด้วยกัน ไม่ใช่พึงพอใจแค่การปะติดปะต่อเหตุการณ์อย่างคร่าว…ประการที่สาม ต้องเจาะลึกประวัติศาสตร์ในบางจุด เช่นการผงาดและร่วงหล่นของตระกูลอันทีโกนัส…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ