ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1153

ข้อผิดพลาด…บั๊ก…นี่คือแก่นแท้ของเส้นทางนักจารกรรม? ขณะไคลน์ตกตะลึงมันยืนยันได้หนึ่งสิ่ง

นั่นคือเรื่องที่เทพสุริยันบรรพกาล พระผู้สร้างที่เมืองเงินพิสุทธิ์นับถือ และบิดาของอามุนด์ เป็นคนจากโลกเก่า

คำที่อามุนด์เพิ่งพูดเมื่อครู่คือภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน!

สหายร่วมโลกเอ๋ย ลูกชายสองคนของนายทำให้ฉันต้องทุกข์ระทม…เรียบร้อยเหมือนแบร์นาแดตไม่ได้รึไง…ไคลน์รำพันจิกกัดก่อนจะถามด้วยความสงสัย

“คิดจะใช้…ช่องโหว่…จากโลกความฝัน?”

ไคลน์ยับยั้งชั่งใจไม่ให้พูดคำว่า ‘บั๊ก’ ออกไป อามุนด์จะได้ไม่สงสัยเรื่องที่ตนชำนาญภาษาอังกฤษ เพราะนั่นจะเป็นการเผยไพ่ตายโดยเปล่าประโยชน์

การเผชิญหน้ากับราชาเทวทูตที่ยึดครองร่างในเชิงลึกและสามารถขโมยความคิด ไพ่ตายของชายหนุ่มมีเพียงไม่กี่ใบ จำเป็นต้องเลือกใช้ทุกใบให้เกิดประโยชน์สูงสุด บางทีอาจมีสักใบที่ช่วยพลิกสถานการณ์

ขณะเดียวกัน อามุนด์เดินไปทางอารามสีดำ

ในท่ามือล้วงกระเป๋าหนึ่งข้าง ประตูบานใหญ่เปิดออกด้วยตัวเองโดยที่อามุนด์ยังมิได้เคลื่อนไหว ประหนึ่งต้อนรับการมาเยือนของแขกผู้มีเกียรติ

“จะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิด แต่การลงมือจริงจะซับซ้อนกว่าพอสมควร” อามุนด์มิได้แสดงมาดอันน่าเกรงขามของผู้เย้ยเทพ เพียงตอบคำถามไคลน์ด้วยท่าทีผ่อนคลาย “โลกความฝันแห่งนี้ไม่มีข้อผิดพลาด หรือที่เรียกว่าช่องโหว่…แต่เนื่องจากที่นี่มีพลังเทพลงเหลือเป็นจำนวนมาก ในบางจุดจะโกลาหลเป็นพิเศษ และข้าสามารถใช้ความโกลาหลดังกล่าวเพื่อสร้างช่องโหว่”

เมื่อประตูบานใหญ่เปิดกว้าง อามุนด์จับแว่นบนตาขวาและเดินผ่านเข้าไปในห้องโถง ตรงลึกเข้าไปข้างใน

ระหว่างทางมันยิ้มและอธิบายเพิ่มเติม

“เจ้าคงรู้อยู่แล้วว่าอารามแห่งนี้ถูกสร้างจากความฝันที่ซ้อนทับ”

“อา…ความฝันของสิ่งมีชีวิตมากมายภายในซากสมรภูมิแห่งเทพ” ไคลน์ไตร่ตรองสักพักก่อนจะเสริม “และบางทีอาจเป็นเศษซากความฝันจากอดีตที่ยังหลงเหลือ”

ทันใดนั้นหนึ่งมนุษย์หนึ่งเทวทูตเดินมาถึงบันไดสีดำที่คดเคี้ยว แสงสนธยาส่องลอดผ่านกระจกหน้าต่างซึ่งอยู่ลอยสูง มอบความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์อย่างเอ่อล้น

อามุนด์สัมผัสกะโหลกมนุษย์บนราวบันได แสยะยิ้มพลางมองไปรอบตัว

“ตามปรกติแล้ว สถานที่ที่ลืมตาตื่นในโลกความฝัน คือตำแหน่งสุดท้ายก่อนจะลืมตาตื่นบนโลกความจริง ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นความฝันของสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันบนทะเลหรือไม่”

เนื่องจากมิอาจพยักหน้า ไคลน์ทำได้เพียงส่งเสียงเห็นด้วย

“ใช่”

“แต่หากอาศัยช่องโหว่ ข้าสามารถสลับโลกความฝันและตื่นขึ้นในตำแหน่งเดียวกันได้…หึหึ…เห็นได้ชัดว่าอารามหลังนี้มีขนาดเล็กกว่าซากปรักหักพังด้านนอกมาก แถมโครงสร้างก็ยังกระชับกว่า บางทีในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า พวกเราคงไปถึงจุดหมาย” อามุนด์กล่าวเจือความสุข

สำหรับมันการฉกฉวยผลประโยชน์จากช่วงโหว่คือสิ่งที่สร้างความสุขได้เสมอ

…นี่มัน…อามุนด์มีวิธีเดินทางผ่านซากสมรภูมิเทพโดยไม่ต้องล่องเรือ…อย่าว่าแต่สองสัปดาห์ แค่สองชั่วโมงก็อาจจะไม่ถึง…ความหวังไคลน์ดับสลายในพริบตา

ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่า การที่อามุนด์จงใจอธิบายให้ฟัง เป็นเพราะอยากเห็นเหยื่อเกิดความหวังและบดขยี้ทิ้งหนแล้วหนเล่า หรือความจริงแล้วมิได้แยแสเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เลย เพียงแค่อยากระบายความสุขที่กำลังล้นปรี่

“คุณกำลังจะเข้าไปในความฝันที่เป็นแก่นสำคัญของโลกมายาใบนี้?”

มันไม่ลืมเรื่องที่ราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดต เคยกล่าวว่าเธอไม่กล้าเข้าไปยังหลังบานประตูไม้สีดำในส่วนลึกสุดของอาราม

“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเรา” อามุนด์ตอบพลางยิ้ม

คล้ายกับมันจดจำบางสิ่งได้ อามุนด์ยกมือขึ้นจับกรอบแว่นตาขาเดียวและถามด้วยสีหน้าสนใจ

“ทำไมหุ่นเชิดของเจ้าถึงพกแว่นตาขาเดียว? ข้าไม่ต้องใช้ของตัวเองด้วยซ้ำ”

“…” ไคลน์กระอักกระอ่วนไปสักพัก หลังจากครุ่นคิดมันตัดสินใจตอบเถรตรง “เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อที่จะย่อยโอสถจอมเวทพิสดาร ผมจงใจสวมแว่นตาขาเดียวต่อหน้าวิญญาณมารเทวทูตสีชาด”

อามุนด์ที่กำลังย่างกรายลงบันได ชะงักฝีเท้าพลางชำเลืองกลับมามองไคลน์และตอบอย่างอารมณ์ดี

“เข้าใจคิดนี่”

เทวทูตกาลเวลากล่าวต่อไป

“ไม่น่าเชื่อว่าสหายเมดีซีคนนั้นยังไม่ตาย…คราวหน้าที่พบกัน ข้าจะปลอมตัวเป็นเจ้าและสวมแว่นตาอีกครั้ง”

เซารอนไอน์ฮอร์นเมดีซีผู้น่าสงสาร…อามุนด์ก็เหมือนกัน เป็นถึงราชาเทวทูตแต่ทำไมถึงไม่สำรวมเลยสักนิด…นี่สินะเทพแห่งการกลั่นแกล้ง…ไคลน์ถอนหายใจด้วยอารมณ์ซับซ้อนหมดคำจะกล่าวไปสักพัก

อามุนด์กดแว่นพลางถาม

“เจ้าสวมแว่นที่ตาซ้ายใช่ไหม”

“รู้ได้ยังไง…” ไคลน์พลันผงะ คิดว่าอามุนด์ขโมยฉากดังกล่าวออกจากหมอกแห่งประวัติศาสตร์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ