ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1160

เมืองเงินพิสุทธิ์ ยอดหอคอยทรงกลม

หลังจากรอคอยเป็นเวลานาน เดอร์ริคเบเกอร์ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากเดอะฟูล

ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้เด็กหนุ่มแตกตื่นเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่ามีความหมายเช่นไรและตนต้องทำอย่างไร

มิสเตอร์ฟูลอยู่ในสภาพที่มิอาจตอบสนอง? เมื่อสองวันก่อน พระองค์แจ้งว่าการชุมนุมในสัปดาห์หน้าอาจถูกยกเลิก นั่นคงเป็นสัญญาณ…เดอร์ริคที่นึกออกว่าเคยเกิดอะไรขึ้น พยายามข่มความกังวลอย่างยากลำบาก

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กหนุ่มจะออกอาการมากผิดปรกติ เพราะสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเคยถูกบันทึกไว้ในตำนานเมืองเงินพิสุทธิ์

อยู่มาวันหนึ่งพระผู้สร้างที่คอยตอบสนองคำวิงวอนเป็นประจำ เลิกตอบสนองและทอดทิ้งดินแดนแห่งนี้!

หลังจากเงียบงันไปสักพัก เดอร์ริคลุกขึ้นยืน กลับไปที่ห้องเจ้าเมืองและพูดกับโคลิน

“เราคงต้องรออีกสองสามวัน”

“รอ?” นักล่าปีศาจโคลินทวนคำพลางขมวดคิ้ว

ตามความเห็นของมัน นี่เป็นเรื่องไม่ปกติ คล้ายกับเป็นสัญลักษณ์ของพัฒนาการที่ไม่ดี

เดอร์ริคฝืนไม่ยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอย พยักหน้าเล็กน้อยอย่างยากลำบาก

“ใช่ครับ”

โคลินเจ้าของผมสีเทา จ้องเด็กหนุ่มสักพักก่อนจะผงกศีรษะรับ

“ตกลง คุณกลับไปก่อน”

กรุงเบ็คลันด์ เขตตะวันออก ภายในบ้านเช่าสองห้องนอน

ฟอร์สซึ่งแต่งกายในเสื้อผ้าตัวหนา เดินวนเวียนไปมารอบเตาถ่านฟืน ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความฉงน

ในที่สุดเธอตัดสินใจหันมองไปทางซิลบนเก้าอี้

“ทำไมมิสเตอร์เวิร์ลถึงยังไม่ตอบ?”

“บางทีเขาอาจกำลังยุ่งอยู่กับงานบางอย่าง” ซิลเล่าเหตุผลที่เธอคิดมาสักพัก “หรือบางที มิสเตอร์ฟูลอาจไม่สะดวกที่จะถ่ายทอดข้อความของเธอ เพราะท่านถึงกับยกเลิกการชุมนุม”

ฟอร์สพยักหน้าไตร่ตรอง

“มิสเตอร์ฟูลเปรยว่าการชุมนุมในสัปดาห์หน้าอาจยกเลิก จากนั้นท่านก็ตัดสินใจในช่วงกลางสัปดาห์…คิดว่าจะเกี่ยวกับจอร์จที่สามไหม?”

เมื่อนึกทบทวนการสืบสวนที่มิสเตอร์เวิร์ลดำเนินการมาเป็นเวลานาน ซิลอืมในลำคอ

“เป็นไปได้”

ดินแดนเทพทอดทิ้งภายในเมืองที่รกร้าง

อามุนด์ซึ่งแต่งกายในชุดคลุมจอมเวทสีดำ นำทางไคลน์เข้าไปในวิหารที่มีสภาพค่อนข้างดี

เสาหินของที่นี่เอียงและหักเล็กน้อย วัชพืชสีแดงเข้มงอกเงยตามซอกด้านบนและรัดพันรูปปั้นนก

ไคลน์ในสภาพถือตะเกียงหนัง มองไปรอบตัวพร้อมกับยืนยันว่าชาวเมืองยังไม่ตายทั้งหมด ชายหนุ่มไม่ทราบว่าอีกฝ่ายแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดและอาศัยในความมืดได้อย่างไร แต่พวกมันพยายามหลีกเลี่ยงแสงสีเหลืองจากตะเกียงและซุ่มรอโจมตีไคลน์กับอามุนด์

เหตุผลที่ไคลน์ยืนยันได้ว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้เคยเป็นชาวเมือง เพราะด้ายวิญญาณของพวกมันเกิดการกลายพันธุ์ในระดับหนึ่ง มีสีเทาลักษณะบิดเบี้ยว แตกต่างจากสัตว์ประหลาดในจุดอื่น คล้ายคลึงกับศพในโลงหน้าบ้านมากกว่า

ต้องสิ้นหวังและเผชิญความล่มสลายมากเพียงใด มนุษย์ที่เหลือรอดถึงเลือกเดินบนเส้นทางแบบนี้…บางที ความสิ้นหวังจากก้นบึ้งหัวใจอาจก่อตัวขึ้นเมื่อตระหนักว่าชีวิตของตนไม่มีอนาคต แถมสภาพแวดล้อมก็ยังย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง…ไคลน์ครุ่นคิดด้วยอารมณ์ซับซ้อนจากนั้นก็รีบตั้งสติ

มันต้องการเห็นแสงแห่งความหวัง แต่กลับได้เห็นความหดหู่และสิ้นหวังยิ่งกว่าเก่า

อามุนด์ที่สวมแว่นตา เดินไปตามขอบแสงสว่างจนกระทั่งถึงส่วนลึกที่สุดของวิหาร

หลังจากไคลน์เดินตามเข้ามา มันเห็นประตูที่ส่องแสงสีซีด

“เมืองแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน แสงสว่างและความมืด พวกเขาใช้พลังของเส้นทางผู้ฝึกหัดเพื่อซุกซ่อนบางพื้นที่ โดยต้องใช้ประตูพิเศษในการผ่านเข้าออก” อามุนด์ชี้ไปข้างหน้า

พลังของจอมเวทลึกลับ? ไคลน์พยักหน้าหนักแน่น บ่งบอกว่ามันเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

อามุนด์กล่าวต่อไป

“เบื้องหลังประตูบ้านนี้เป็นส่วนความมืดของเมือง และข้าสามารถใช้มันเพื่อเดินทางไปยังจุดที่คล้ายคลึงกันซึ่งอยู่ห่างออกไป ช่วยให้การเดินทางของเราสั้นลงมาก”

สมแล้วที่เป็นร่างจุติของช่องโหว่…ไคลน์จ้องอามุนด์ที่กำลังเหยียดแขนซ้ายออกมากดประตูแสง

แสงสว่างเกิดการกระเพื่อมและแผ่ขยายไปยังบริเวณโดยรอบ

ทันใดนั้นร่างของสัตว์ประหลาดบิดเบี้ยวตัวหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในความมืด พลันสั่นกระตุกและกลายเป็นหุ่นเชิดไคลน์

ราวยี่สิบถึงสามสิบวินาทีก่อนไคลน์เข้าควบคุมเบื้องต้นรอไว้แล้ว และรอคอยโอกาสปัจจุบันเพื่อเปลี่ยนให้เป็นหุ่นเชิดอย่างสมบูรณ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ