ผ่านไปสักพัก ห้วงมิติเหนือป่าเสื่อมโทรมพลันฉีกขาดพร้อมกับเผยให้เห็นประตูมายาบานหนึ่ง
ประตูเปิดออกอย่างไร้สุ้มเสียง หนุ่มใหญ่รูปงามมาดภูมิฐานเจ้าของผมสีดำดวงตาสีทองเดินออกมา
ยังไม่ทันจะได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ มันได้ยินเสียงโซนิคบูมพร้อมกับสัมผัสถึงพายุเฮอร์ริเคนที่ทรงพลัง จากนั้นก็เห็นชายวัยกลางคนเจ้าของบรรยากาศดุดันโผล่ขึ้นด้านหน้า
ชายคนดังกล่าวมีติ่งหูใหญ่ชัดเจน ผมสีน้ำเงินเข้มดกหนา ดวงตาอัดแน่นไปด้วยสายฟ้าจำนวนมาก
ไม่ใช่ใครนอกจากพระคาร์ดินัลแห่งโบสถ์วายุสลาตัน อาร์ชบิชอปประจำมุขมณฑลเบ็คลันด์ ‘เจ้าพิธีกรรมสีคราม’ เรดาลล์·วาเลนไทน์
นักบวชในชุดคลุมสีดำปักลวดลายพายุเหลียวซ้ายแลขวาหนึ่งรอบ จากนั้นก็จ้องไปทางบุรุษดวงตาสีทองและถามด้วยเสียงคล้ายฟ้าคำราม
“เซลเต้ เกิดอะไรขึ้นที่นี่”
บุรุษดวงตาสีทองตามเซลเต้ส่ายหน้า
“ผมเองก็เพิ่งมาถึง”
ทันทีที่สิ้นเสียง ในความว่างเปล่าอีกด้านหนึ่งมีร่างมายาเกือบโปร่งใสขนาดใหญ่ประหนึ่งขุนเขาเดินออกจากความว่างเปล่า
ร่างดังกล่าวแต่งกายในชุดอาร์ชบิชอปสีดำแถบแดง ดวงตาลุ่มลึก ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ไม่ใช่ใครนอกจากแอนโทนี สตีเวนสัน อาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์รัตติกาลประจำมุขมณฑลกรุงเบ็คลันด์
หลังจากร่างวิญญาณขนาดมหึมาเสร็จสิ้นภารกิจ มันย่อตัวลงและไหลเข้าไปในปากแอนโทนี·สตีเวนสัน ขณะเดียวกัน วิญญาณที่มียาวปรกหน้าโผล่ขึ้นด้านหลังแอนโทนีพร้อมกับพยุงไหล่ไม่ให้อาร์ชบิชอปล้มลง
ในวินาทีถัดมา มวลอากาศอันปั่นป่วนพุ่งออกจากกรุงเบ็คลันด์ ผลักร่างหนึ่งให้มาถึงจุดเกิดเหตุด้วยความเร็วสูง
เพียงไม่นานร่างดังกล่าวก็หยุดลง เผยให้เห็นใบหน้าชายชราสวมชุดและหมวกนักบวชสีขาว ใบหน้าอ่อนโยนและใจดี
กระแสลมที่คอยส่งชายชราจนถึงเมื่อครู่เลือนหายไป ขณะเดียวกัน ท่อโลหะสีดำผิวมันวาวทำการหดกลับเข้าไปในร่างกายชายชรา
ไม่ใช่ใครนอกจากอาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์จักรกลไอน้ำประจำมุขมณฑลกรุงเบ็คลันด์ หนึ่งในสภาศักดิ์สิทธิ์ ฮารามิค·ไฮเดิน
ตัวมันที่กำลังลอยค้างอากาศอย่างไร้เหตุผล มองไปรอบตัวและพูด
“แม้การต่อสู้ที่นี่จะไม่ดุเดือด แต่ก็เป็นระดับนักบุญแน่นอน… นอกจากนั้น ออร่าที่ยังหลงเหลือช่างเหมือนกับ… เหมือนกับ…”
ขณะกล่าว ครึ่งเทพทั้งสี่ก้มศีรษะลงพร้อมกัน เพ่งมองไปยังใจกลางป่าเสื่อมโทรม
ที่นั่นมีไพ่ทาโรต์ปักดินอยู่ หน้าไพ่เป็นชายชราถือไม้เท้าและตะเกียงแก้ว
ไพ่เฮอร์มิท!
เรดาลล์·วาเลนไทน์ เซลเต้ แอนโทนี และฮารามิคต่างปิดปากเงียบไปสักพัก ไม่มีใครกล่าวคำใดออกมา
…
เหนือสายหมอกสีเทา ภายในพระราชวังโบราณ ไคลน์ขมวดคิ้วขณะจ้องกล่องวันวานตรงหน้า
ทันทีที่สมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ ชิ้นนี้ถูกสังเวย ปราสาทต้นกำลังพลันตื่นตัวราวกับน้ำที่ถูกต้มจนเดือด
ไอน้ำที่เกิดจากมวลพลังงานเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ก่อตัวเป็นกระแสน้ำและพรั่งพรูเข้าใส่กล่องวันวานอย่างท่วมท้นและห่อหุ้มไว้
ทันใดนั้น กล่องอัญมณีสีเงินทึบสามชั้นเลี่ยมเพชรพลอยราชาแพงถูกเปลี่ยนให้เป็นแมลงในก้อนอำพัน ไม่มีช่องว่างให้กระดุกกระดิก
ก่อนหน้านี้ ปราสาทต้นกำเนิดจะสั่นสะเทือนเฉพาะตอนที่เราแอบส่องเทพแท้จริงหรือราชาเทวทูต หรือไม่ก็ตอนที่เราบาดเจ็บ… นี่เป็นครั้งแรกที่มันตอบสนองต่อวัตถุแปลกปลอมในลักษณะเดียวกัน… ไคลน์อดไม่ได้ที่จะยกมือขวาขึ้นปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริง
ว่ากันตามตรง มันประหม่าเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าตนหยิ่งผยองเกินไปหลังจากควบคุมปราสาทต้นกำเนิดได้ในระดับหนึ่ง
หากเป็นสมัยก่อน ไคลน์ไม่มีทางนำสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ เข้ามาที่นี่แน่นอน แต่เนื่องจากสมบัติปิดผนึกคราวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเอกลักษณ์ของเส้นทาง แถมตัวตนไคลน์ก็ยังถูกยกระดับขึ้นมากเมื่อเทียบกับอดีต จึงกล้าที่จะลองเสี่ยง
โชคดีที่ยังอยู่ในความควบคุม… คงต้องเตือนมาดามเฮอร์มิทว่าในอนาคตห้ามสังเวยทุกสิ่งขึ้นส่งเดช เราไม่ใช่คนเก็บขยะสักหน่อย… หลังจากพึมพำสองสามคำ ไคลน์หันกลับมาสนใจกล่องวันวานอีกครั้ง
มันยังไม่ลืมว่ามิสเมจิกเชี่ยนยังอยู่ในสมบัติปิดผนึก จึงคิดจะวิเคราะห์รูปแบบของกล่องวันวานโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เหยื่อต้องตายฟรีจากความช่วยเหลือที่ล่าช้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ