ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1200

สรุปบท ราชันเร้นลับ 1200 : สุ่ม: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

สรุปตอน ราชันเร้นลับ 1200 : สุ่ม – จากเรื่อง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet

ตอน ราชันเร้นลับ 1200 : สุ่ม ของนิยายInternetเรื่องดัง ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ผ่านไปสักพัก ห้วงมิติเหนือป่าเสื่อมโทรมพลันฉีกขาดพร้อมกับเผยให้เห็นประตูมายาบานหนึ่ง

ประตูเปิดออกอย่างไร้สุ้มเสียง หนุ่มใหญ่รูปงามมาดภูมิฐานเจ้าของผมสีดำดวงตาสีทองเดินออกมา

ยังไม่ทันจะได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ มันได้ยินเสียงโซนิคบูมพร้อมกับสัมผัสถึงพายุเฮอร์ริเคนที่ทรงพลัง จากนั้นก็เห็นชายวัยกลางคนเจ้าของบรรยากาศดุดันโผล่ขึ้นด้านหน้า

ชายคนดังกล่าวมีติ่งหูใหญ่ชัดเจน ผมสีน้ำเงินเข้มดกหนา ดวงตาอัดแน่นไปด้วยสายฟ้าจำนวนมาก

ไม่ใช่ใครนอกจากพระคาร์ดินัลแห่งโบสถ์วายุสลาตัน อาร์ชบิชอปประจำมุขมณฑลเบ็คลันด์ ‘เจ้าพิธีกรรมสีคราม’ เรดาลล์·วาเลนไทน์

นักบวชในชุดคลุมสีดำปักลวดลายพายุเหลียวซ้ายแลขวาหนึ่งรอบ จากนั้นก็จ้องไปทางบุรุษดวงตาสีทองและถามด้วยเสียงคล้ายฟ้าคำราม

“เซลเต้ เกิดอะไรขึ้นที่นี่”

บุรุษดวงตาสีทองตามเซลเต้ส่ายหน้า

“ผมเองก็เพิ่งมาถึง”

ทันทีที่สิ้นเสียง ในความว่างเปล่าอีกด้านหนึ่งมีร่างมายาเกือบโปร่งใสขนาดใหญ่ประหนึ่งขุนเขาเดินออกจากความว่างเปล่า

ร่างดังกล่าวแต่งกายในชุดอาร์ชบิชอปสีดำแถบแดง ดวงตาลุ่มลึก ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ไม่ใช่ใครนอกจากแอนโทนี สตีเวนสัน อาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์รัตติกาลประจำมุขมณฑลกรุงเบ็คลันด์

หลังจากร่างวิญญาณขนาดมหึมาเสร็จสิ้นภารกิจ มันย่อตัวลงและไหลเข้าไปในปากแอนโทนี·สตีเวนสัน ขณะเดียวกัน วิญญาณที่มียาวปรกหน้าโผล่ขึ้นด้านหลังแอนโทนีพร้อมกับพยุงไหล่ไม่ให้อาร์ชบิชอปล้มลง

ในวินาทีถัดมา มวลอากาศอันปั่นป่วนพุ่งออกจากกรุงเบ็คลันด์ ผลักร่างหนึ่งให้มาถึงจุดเกิดเหตุด้วยความเร็วสูง

เพียงไม่นานร่างดังกล่าวก็หยุดลง เผยให้เห็นใบหน้าชายชราสวมชุดและหมวกนักบวชสีขาว ใบหน้าอ่อนโยนและใจดี

กระแสลมที่คอยส่งชายชราจนถึงเมื่อครู่เลือนหายไป ขณะเดียวกัน ท่อโลหะสีดำผิวมันวาวทำการหดกลับเข้าไปในร่างกายชายชรา

ไม่ใช่ใครนอกจากอาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์จักรกลไอน้ำประจำมุขมณฑลกรุงเบ็คลันด์ หนึ่งในสภาศักดิ์สิทธิ์ ฮารามิค·ไฮเดิน

ตัวมันที่กำลังลอยค้างอากาศอย่างไร้เหตุผล มองไปรอบตัวและพูด

“แม้การต่อสู้ที่นี่จะไม่ดุเดือด แต่ก็เป็นระดับนักบุญแน่นอน… นอกจากนั้น ออร่าที่ยังหลงเหลือช่างเหมือนกับ… เหมือนกับ…”

ขณะกล่าว ครึ่งเทพทั้งสี่ก้มศีรษะลงพร้อมกัน เพ่งมองไปยังใจกลางป่าเสื่อมโทรม

ที่นั่นมีไพ่ทาโรต์ปักดินอยู่ หน้าไพ่เป็นชายชราถือไม้เท้าและตะเกียงแก้ว

ไพ่เฮอร์มิท!

เรดาลล์·วาเลนไทน์ เซลเต้ แอนโทนี และฮารามิคต่างปิดปากเงียบไปสักพัก ไม่มีใครกล่าวคำใดออกมา

เหนือสายหมอกสีเทา ภายในพระราชวังโบราณ ไคลน์ขมวดคิ้วขณะจ้องกล่องวันวานตรงหน้า

ทันทีที่สมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ ชิ้นนี้ถูกสังเวย ปราสาทต้นกำลังพลันตื่นตัวราวกับน้ำที่ถูกต้มจนเดือด

ไอน้ำที่เกิดจากมวลพลังงานเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ก่อตัวเป็นกระแสน้ำและพรั่งพรูเข้าใส่กล่องวันวานอย่างท่วมท้นและห่อหุ้มไว้

ทันใดนั้น กล่องอัญมณีสีเงินทึบสามชั้นเลี่ยมเพชรพลอยราชาแพงถูกเปลี่ยนให้เป็นแมลงในก้อนอำพัน ไม่มีช่องว่างให้กระดุกกระดิก

ก่อนหน้านี้ ปราสาทต้นกำเนิดจะสั่นสะเทือนเฉพาะตอนที่เราแอบส่องเทพแท้จริงหรือราชาเทวทูต หรือไม่ก็ตอนที่เราบาดเจ็บ… นี่เป็นครั้งแรกที่มันตอบสนองต่อวัตถุแปลกปลอมในลักษณะเดียวกัน… ไคลน์อดไม่ได้ที่จะยกมือขวาขึ้นปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริง

ว่ากันตามตรง มันประหม่าเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าตนหยิ่งผยองเกินไปหลังจากควบคุมปราสาทต้นกำเนิดได้ในระดับหนึ่ง

หากเป็นสมัยก่อน ไคลน์ไม่มีทางนำสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ เข้ามาที่นี่แน่นอน แต่เนื่องจากสมบัติปิดผนึกคราวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเอกลักษณ์ของเส้นทาง แถมตัวตนไคลน์ก็ยังถูกยกระดับขึ้นมากเมื่อเทียบกับอดีต จึงกล้าที่จะลองเสี่ยง

โชคดีที่ยังอยู่ในความควบคุม… คงต้องเตือนมาดามเฮอร์มิทว่าในอนาคตห้ามสังเวยทุกสิ่งขึ้นส่งเดช เราไม่ใช่คนเก็บขยะสักหน่อย… หลังจากพึมพำสองสามคำ ไคลน์หันกลับมาสนใจกล่องวันวานอีกครั้ง

มันยังไม่ลืมว่ามิสเมจิกเชี่ยนยังอยู่ในสมบัติปิดผนึก จึงคิดจะวิเคราะห์รูปแบบของกล่องวันวานโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เหยื่อต้องตายฟรีจากความช่วยเหลือที่ล่าช้า

วิธีผนึกคือการนำไปเก็บไว้ในโลกวิญญาณ แต่แค่นั้นยังไม่พอ ต้องเป็นห้วงมิติที่ซ่อนเร้นอย่างมิดชิดภายในโลกวิญญาณ จากนั้นก็เทน้ำจากแม่น้ำให้ท่วมกล่องวันวาน ปล่อยให้มันเล่นกับจุลินทรีย์ไปเรื่อยๆ … ด้วยปริมาณของสิ่งมีชีวิตในน้ำ วิธีผนึกแบบนี้จะคงสภาพได้นาน… แต่ถ้าเข้าใจหลักการ ยังมีอีกหลายวิธีที่คล้ายคลึงกันให้ลองทำ…

หลังจากวิเคราะห์เบื้องต้นเกี่ยวกับกล่องวันวาน ไคลน์จ้องสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ชิ้นนี้พลางตระหนักว่าชั้นที่สามของกล่องอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และใช่ว่าจะเปิดไม่ออกเสียทีเดียว

ชายหนุ่มค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าตนคลายผนึกที่ปราสาทต้นกำเนิดทำไว้ การเปิดชั้นที่สามของกล่องก็ไม่ใช่เรื่องยาก

…เย้ายวนให้เปิดมาก… ไคลน์ถอนสายตากลับพร้อมกับโบกมือ เสกให้กล่องวันวานลอยไปตกลงบนกองขยะ

ไม่ว่าจะเป็นสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ หรือไม่ แต่ทุกคนก็ต้องถูกส่งไป ‘ละลายพฤติกรรม’ ที่นั่น!

ในฐานะสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ อันน่าสะพรึง มันควรมีรหัสเพื่อบ่งบอกความพิเศษ… น่าเสียดายที่เราไม่รู้ว่าเจ็ดโบสถ์หลักมีสมบัติปิดผนึกระดับศูนย์ ในครอบครองรวมกันที่ชิ้น… คงไม่เกินห้าสิบกระมัง? ถ้าอย่างนั้นเราจะเรียกกล่องวันวานว่า 0-61 ไปก่อน จากนั้นค่อยปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมในอนาคต…

ถ้ามาดามเฮอร์มิทไม่มีวิธีผนึกมันอย่างมีประสิทธิภาพ เธอสามารถฝาก 0-61 มาเก็บไว้บนมิติหมอกและทำเรื่องเบิกเมื่อต้องการ แน่นอนว่าเธอต้องสวดวิงวอนขอพรจากวิลก่อน… ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เราจะได้เป็น ‘ราชันเหลืองดำผู้ครองพลังโชคลาภ’ ตัวจริง… วรรคดังกล่าวมีบางส่วนอยู่ในขอบเขตผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ และบางส่วนอยู่ในขอบเขตบริวารเร้นลับ… ไคลน์ไตร่ตรองสักพักก่อนจะหยิบตะกอนพลังของนักบุญเร้นลับ โบทิสขึ้นมา

มันดูคล้ายผลึกที่มีลำแสงจำนวนมากหักเหอยู่ภายใน แสงดังกล่าวเรียงตัวกันเป็นประตูมายาสว่างไสว

จ้องมองสักพัก ไคลน์ตัดสินใจโยนตะกอนพลังขึ้นไปในอากาศ

เป็นอีกครั้งที่พลังของปราสาทต้นกำเนิดเริ่มเดือดพล่าน และภายใต้การควบคุมของไคลน์ คลื่นล่องหนจำนวนมากหลั่งไหลมารวมกันก่อนจะพุ่งกระแทกใส่ก้อนผลึกอย่างหนักหน่วง

ผลึกดังกล่าวแตกละเอียดในทันที กลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยจำนวนมาก ก๊าซสีดำกลุ่มโผล่ขึ้นมาจากเศษผลึก จากนั้นก็บิดตัวอย่างโกลาหลและสลายตัวไปท่ามกลางปราสาทต้นกำเนิด

อาศัยกฎการอนุรักษ์ตะกอนพลัง เศษผลึกแสงเหล่านั้นบรรจงขยับเข้าหากันอีกครั้ง ใช้เวลาเกือบหนึ่งนาทีในการจัดระเบียบจนกลายเป็นผลึกก่อนใหม่ที่งดงามและชวนฝัน จากนั้นตกลงบนฝ่ามือไคลน์

การกัดกร่อนด้านในถูกลบออกโดยสมบูรณ์

ไคลน์ในปราสาทต้นกำเนิดอาจมีพลังเทียบเท่าเทวทูตลำดับสองก็จริง แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียง ‘พลังดิบ’ ที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตใดขอบเขตหนึ่ง จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมที่ถูกต้องคอยสนับสนุน

หลังจากวางตะกอนพลังจอมเวทลึกลับลง ไคลน์จ้องไปทางดวงตาทั้งสองข้างของโบทิส

…………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ