แสงจากไส้ตะเกียงมีลักษณะค่อนข้างหนืด คล้ายกับกระแสน้ำที่ผสมน้ำตาลลงไปเป็นจำนวนมาก แสงดังกล่าวไหลขึ้นไปด้านบนและก่อตัวกลายเป็นร่างสีทองที่พร่ามัว
ร่างดังกล่าวปกคลุมดาวแดงตัวแทน ‘เฮอร์มิท’ อย่างท่วมท้นจนไคลน์สัมผัสถึงแคทลียาไม่ได้ไปชั่วขณะ
ไคลน์ตาไคลน์ที่กำลังนั่งบนเก้าอี้หัวโต๊ะทองแดงยาวพลันเบิกกว้าง ความคิดหนึ่งไหลเข้ามาในสมองโดยไม่รู้ตัว:
สมแล้วที่เป็นสมบัติปิดผนึกรหัส 0-05!
โดยทั่วไปแล้ว สมบัติปิดผนึกระดับ 0 จะเรียงรหัสตามช่วงเวลาที่โบสถ์หลักครอบครองสมบัติหรือไม่ก็ศึกษาพวกมันเสร็จ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าระบบนี้ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่เจ็ดโบสถ์หลักก้าวขึ้นมาปกครองโลกเต็มตัว ซึ่งนั่นหมายถึงช่วงท้ายยุคสมัยที่สี่และต้นยุคสมัยที่ห้า
อย่างไรก็ตาม สมบัติปิดผนึกระดับ 0 ส่วนใหญ่ถือกำเนิดหรือมีตัวตนอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว โดยที่บรรดาโบสถ์หลักต่างก็ทราบถึงตัวตนของสมบัติปิดผนึกทุกชิ้นเป็นอย่างดี!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในช่วงที่ระบบ ‘รหัส’ ของสมบัติปิดผนึกถูกสร้างขึ้น สมบัติที่มีตัวตนอยู่ก่อนแล้วจะถูกจัดเรียงลำดับตามความแข็งแกร่งจากน้อยไปหามาก ยิ่งทรงพลังและน่าสะพรึงเพียงใดก็ยิ่งมีรหัสเป็นเลขต่ำ ส่วนสมบัติที่พบหลังจากนั้นจะถูกจัดเรียงรหัสตามเวลาค้นพบ
นอกจากนั้น แม้สมบัติปิดผนึกเก่าแก่จะมิได้ทรงพลังกว่าของใหม่เสมอไป แต่สำหรับสมบัติปิดผนึกที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่ยุคสมัยที่หนึ่งและไม่มีข้อมูลว่าเคยถือครองโดยเทพบรรพกาลตนใดมาก่อน ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันจะกุมความลับซึ่งแม้แต่ทวยเทพก็มิอาจทำความเข้าใจ
หรือพูดได้เต็มปากว่า ยิ่งสมบัติปิดผนึกระดับ 0 มีรหัสต่ำเพียงใดก็ยิ่งน่าสะพรึงมากเท่านั้น
แต่แน่นอนว่า ต่อให้เป็นสมบัติปิดผนึกระดับ 0 ที่มีรหัสสูงก็ไม่ได้รับประกันว่าพวกมันจะอ่อนแอกว่าสิบอันดับแรกเสมอไป บางทีอาจเป็นเพราะบางชิ้นถูกโบสถ์หลักค้นพบในยุคหลัง และเมื่อตัวเลขข้างหน้าเต็มหมดก็ต้องนำไปต่อท้ายแถวตามลำดับ
ขณะไคลน์กำลังวิเคราะห์ ร่างสีทองทำการจ้องมองผ่านดาวแดงตัวแทนเฮอร์มิทขึ้นมายังวังโบราณเหนือสายหมอกทันที
จากนั้นก็เปล่งเสียงของมันด้วยความกังวลและสง่างามอย่างน่าเหลือเชื่อ
“ไม่ได้พบกันนาน”
ไม่ได้พบกันนาน? ไม่ได้พบกันนานกับผีน่ะสิ! หมอนี่… รู้จักอดีตเจ้าของปราสาทต้นกำเนิดอย่างราชันสวรรค์ฟ้าดินประทานโชคด้วย? เทพแห่งตะเกียงผู้ประกาศตัวว่าเป็นนิรันดร์… มันสามารถใช้คำสวดวิงวอนของมาดามเฮอร์มิทเพื่อสนทนากับเราโดยตรง… ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์ทวีความเครียดขึ้นจากเดิมหลายเท่า
อาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีและพลังตัวตลก ไคลน์ผ่อนคลายตัวเองลงทันทีในท่าเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
จากนั้นก็มอบคำตอบ
“อา”
มันมิได้ยอมรับหรือปฏิเสธว่าเป็นตัวปลอม เพียงแสดงท่าทีเย้ยหยันและเหนือกว่าอย่างเป็นธรรมชาติ
ร่างสีทองพร่ามัวพ่นลมหายใจทันที
“เจ้าอ่อนแอลงมาก… ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงไม่ได้ยินนามเต็มอันทรงเกียรติของเจ้ามาหลายพันปีแล้ว”
นามเต็มอันทรงเกียรติ… อ่อนแอ… หมอนี่รู้จักอดีตเจ้าของปราสาทต้นกำเนิด… เป็นตัวตนที่เคยโลดแล่นในยุคสมัยที่หนึ่ง? ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์ยิ้มและกล่าว
“สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ความจริง”
“ฮะฮะ!” ร่างสีทองที่พร่ามัวและบิดเบี้ยวขำแห้งสองคำ “ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ พยายามหลอกลวงผู้อื่นทุกครั้งที่มีโอกาส… แต่สภาพของปราสาทต้นกำเนิดหลอกข้าไม่ได้ หากเป็นในยามปรกติ ข้าไม่มีทางผ่านแนวป้องกันชั้นนอกเข้ามาสนทนากับเจ้าได้แน่”
“มั่นใจได้อย่างไรว่านั่นไม่ใช่ความตั้งใจของข้า?” ไคลน์ถามผ่อนคลาย
“ตบตาข้าไปก็เปล่าประโยชน์” เทพแห่งตะเกียงตัวสีทองพร่ามัวตอบ
…ทำไมเหยื่อของการบลัฟถึงไม่หลงกลแม้แต่น้อย… นอกจากจะไม่เชื่อว่าเรารวย ยังมั่นใจว่าเราไม่เงินจนต้องขายไต… สมัยก่อนเจ้าของปราสาทต้นกำเนิดที่น่าจะเป็นราชันสวรรค์ฟ้าดินประทานโชค ทำอะไรไว้กับเทพแห่งตะเกียงกันแน่… จริงสิ… ส่วนหนึ่งของตะเกียงวิเศษเกิดจากตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์… ไคลน์ที่อาศัยการรำพันติดตลกเพื่อบรรเทาความเครียด เผยรอยยิ้มแฝงเลศนัย
“จะมีประโยชน์หรือไม่ เจ้าไม่ใช่ผู้กำหนด”
ร่างสีทองที่พร่ามัวสั่นระริกเล็กน้อย
“พิจารณาจากสภาพของปราสาทต้นกำเนิด ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังต้องการตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์สินะ”
มันไม่มัวสนทนาอยู่แต่หัวข้อเดิม แต่พุ่งประเด็นไปยังสถานการณ์ที่สังเกตเห็น
…มองเห็นได้ถึงขั้นนั้นเชียว… ระดับตัวตนต้องสูงมากแน่… หรือว่าเจ้านี่สามารถสกัดตะกอนพลังของผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ออกจากตะเกียงวิเศษประทานพรได้? ไคลน์ที่เกือบสูญเสียความเยือกเย็นหรี่ตาลง
มันควบคุมภาษากายและสีหน้าก่อนจะยิ้ม
“แล้วแต่จะคิด”
เป็นอีกครั้งที่ร่างสีทองเปล่งสุ้มเสียงอันน่าเกรงขามไปทั่วสายหมอก
“ข้ามีข้อเสนอ… เจ้าจงปลดผนึกและคืนอิสระให้ข้า ส่วนข้าจะมอบตะกอนพลังผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ให้โดยเก็บไว้เฉพาะส่วนที่เป็นของตัวเอง… สำหรับสักขีพยาน… ใช้ต้นแก่นกำเนิดของพวกเราเป็นอย่างไร? แม้ว่าทั้งเจ้าและข้าสามารถรอดชีวิตจากการฝ่าฝืนพันธสัญญาได้ก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องจ่ายสิ่งใดเลย เราทั้งคู่ต่างไม่อยากเผชิญผลลัพธ์ที่จะตามมา… และข้าสัญญาว่าจะไม่อยู่ที่นี่นานเกินกว่าความจำเป็น”Aileen
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ