สถานะเทพสมุทร รวมถึงระดับตัวตนและพลัง… ได้ยินตัวอย่างจากมิสเตอร์ฟูล แฮงแมนอัลเจอร์สมองขาวโพลนไปเกือบสองวินาที
นี่เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของมันโดยสิ้นเชิง!
จากมุมมองของมัน มิสเตอร์ฟูลที่ช่วงชิงพลังเทพสมุทรจากคาเวทูว่าผ่านเกอร์มัน·สแปร์โรว์ ย่อมได้รับฐานสาวกไปเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญในขั้นตอนการฟื้นฟูพลังของพระองค์ ดังนั้น คงเป็นเรื่องยากที่ตัวตนดังกล่าวจะยอมทิ้งสถานะและตัวตนของเทพสมุทร
แต่ผิดความคาดหมาย เมื่อครู่มันเพิ่งได้ยินมิสเตอร์ฟูลกล่าวว่า ทุกคนสามารถนำบางสิ่งมาแลกเปลี่ยนกับสถานะของเทพสมุทร รวมถึงระดับตัวตนและพลังได้
เมื่อพลังฟื้นคืนมาในระดับหนึ่ง สถานะและสาวกของเทพสมุทรก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป? นี่คือตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งใดที่ไม่คู่ควรจะถูกใช้เพียงชั่วคราวและส่งต่อให้ผู้อื่น… แฮงแมนอัลเจอร์ถอนหายใจเงียบด้วยความตื่นเต้น มันสัมผัสได้ว่าคำพูดของมิสเตอร์ฟูลกำลังเพ่งเล็งมายังตน
ภายในโบสถ์รัตติกาล มันกลายเป็นครึ่งเทพได้ด้วยพลังจากภายนอก แม้จะตอนนี้จะไต่เต้าขึ้นมาเป็นสมาชิกระดับเบื้องบนได้ แต่ตำแหน่งของตนก็น่าจะถึงทางตันแล้ว และปัจจุบันก็ยังมองไม่เห็นโอกาสที่จะขโมย ‘หนังสือแห่งภัยธรรมชาติ’ ออกมา ส่งผลให้อัลเจอร์จำต้องข่มความทะเยอทะยานไว้ชั่วคราวและรอคอยโอกาสที่กำลังจะมาถึงอย่างอดทน
โอกาสที่ว่ามาถึงแล้ว แถมยังมาเร็วมาก!
ปัจจุบันอัลเจอร์เป็นพระคาร์ดินัลแห่งโบสถ์วายุสลาตันที่ดูแลมุขมณฑลหมู่เกาะรอสต์ หากเมื่อใดที่มันแอบกลายเป็น ‘เทพสมุทร’ สำเร็จและควบคุมอำนาจเหนือน่านน้ำดังกล่าว มันจะกลายเป็นราชาแห่งหมู่เกาะรอสต์ทันที ราชาตัวจริงเสียงจริง!
คิดถึงตรงนี้ แฮงแมนอัลเจอร์แทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสงบจิตใจ
แม้ว่าออเดรย์ เดอร์ริค และคนที่เหลือจะค่อนข้างตกตะลึงกับเรื่องที่ชุมนุมทาโรต์เริ่มแลกเปลี่ยนสถานะและพลังของเทพ – ถึงจะเป็นเพียงเทพกำมะลอก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครอยากย้ายไปยังเส้นทางวายุ พวกมันจึงไม่มีทางรู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับอัลเจอร์ ทุกคนรีบข่มจิตใจและหันไปเพ่งมองมิสเตอร์แฮงแมน
อัลเจอร์สูดลมหายใจเงียบ กล่าวกับบุคคลในตำแหน่งประธานด้วยความนอบน้อม:
“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ สิ่งที่พระองค์เพิ่งยกตัวอย่าง ต้องแลกเปลี่ยนด้วยอะไร”
เดอะฟูลไคลน์ที่กำลังรอให้แฮงแมนถาม ยิ้มพลางกล่าว
“ภารกิจที่ข้าจะมอบให้ รวมถึงการสวดวิงวอนเพื่อขอพรจากก้นบึ้งเป็นครั้งคราว”
สาระสำคัญอยู่ที่ประโยคในส่วนหลัง แต่มันเชื่อว่าสมาชิกชุมนุมทาโรต์คงมิได้ใส่ใจนัก
สำหรับวิธีเติมเต็มความปรารถนาของเป้าหมาย ไคลน์ในปัจจุบันคิดออกอยู่สองทาง วิธีแรก มันจะใช้พลังพิเศษเดิมของตัวเองเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่อีกฝ่ายปรารถนา เช่นการอัญเชิญฉากในประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่เหมือนกับที่ทำให้ ‘เจ้าของผับเลี้ยงเบียร์’ วิธีที่สอง อาศัยพลัง ‘ความปรารถนา’ ที่สั่งสมไว้เพื่อเสกให้ความปรารถนาง่ายๆ เป็นจริงในเชิงปาฏิหาริย์ ยกตัวอย่างเช่น การดีดนิวเพื่อเสกให้บ้านที่เคยพังกลับคืนสภาพเดิมในพริบตา
นอกจากนั้น บนมิติเหนือสายหมอก ไคลน์สามารถระดมพลังของปราสาทต้นกำเนิดซึ่งมีระดับตัวตนทัดเทียมราชาเทวทูตที่ปราศจากเอกลักษณ์ได้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ไคลน์ตอบสนองการสวดวิงวอนได้ด้วยพลังและความแข็งแกร่งของลำดับ 1 อย่างบริวารเร้นลับ
หลังจากลองทดสอบในระยะหลัง มันค้นพบพลังสองชนิดที่เพิ่มเข้ามา:
หนึ่งคือพลังในการสร้างอาณาจักรเทพอย่างง่าย และสองคือพลัง ‘ปลูกถ่าย’
วลีการปลูกถ่ายเป็นสิ่งที่ไคลน์ตั้งชื่อเอง เพราะมันยังไม่ใช่บริวารเร้นลับตัวจริง ย่อมไม่มีข้อมูลของพลังดังกล่าว
พลังชนิดนี้จะช่วย ‘ปลูกถ่าย’ สิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกันโดยตรงภายใต้สถานการณ์ปรกติ เข้าด้วยกันจนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์
ตัวอย่างที่เห็นภาพได้ง่ายก็คือ การผสานแนวคิดเกี่ยวกับ ‘จุดจบ’ และ ‘จุดเริ่มต้น’ ของถนนเข้าด้วยกัน ทำให้คนที่กำลังเดินบนถนนได้พบกับถนนที่ไม่มีวันสิ้นสุดและไม่มีทางออก
สำหรับผู้วิเศษ ยังมีพลังอีกหลายชนิดที่สามารถสร้างผลลัพธ์คล้ายคลึงกัน แต่การ ‘ปลูกถ่าย’ ของบริวารเร้นลับสามารถส่งผลกับ ‘แนวคิด’ ได้โดยตรง ไม่เพียงแต่จะมีระดับตัวตนที่สูงมากจนคล้ายกับการลงมือของทวยเทพตัวจริง แต่ยังผสมผสานความพิสดารและ ‘ซ่อนเร้น’ เข้าไปด้วย
เมื่อผนวกเข้ากับพลังในการจำลองของสมบัติปิดผนึกระดับ 0 อย่างไม้เท้าดวงดาว ไคลน์ที่อยู่บนปราสาทต้นกำเนิดสามารถตอบสนองคำสวดวิงวอนได้ทัดเทียมกับราชาเทวทูตตัวจริง และในบางกรณีก็อาจทำได้มากกว่านั้น
หลังจากได้ยินมิสเตอร์ฟูลเอ่ยถึงภารกิจ แฮงแมนอัลเจอร์ฉุกคิดถึงบางสิ่งพลางก้มหน้าถาม
“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ ท่านต้องการให้ผมสืบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับนายพลทั้งสามคนของฟุซัคที่เคยเข้าร่วมยุทธนาวีโคโนโต้ใช่หรือไม่?”
ก่อนหน้านี้มันประสบความสำเร็จในการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของกลุ่มบุคคลซึ่งน่าจะเคยเป็นเจ้าของยุบพองหิวโหย แต่อัลเจอร์ยังไม่พบสิ่งใดผิดปรกติเพิ่มเติม
เดอะฟูลไคลน์ส่ายหน้าแผ่วเบา
“ไม่ใช่”
เดิมทีไคลน์ต้องการจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อจับหางสภานักสิทธิ์สนธยา แต่เนื่องจากตอนนี้อาดัมน่าจะกลายเป็นเทพแท้จริงไปแล้ว หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
หลักการดำเนินชีวิตของไคลน์คือ ควรรู้จักทำตัวสำรวมต่อหน้าเทพแท้จริง ตอนไหนควรยอมก็ต้องยอม
โดยไม่รอให้แฮงแมนอัลเจอร์พูดต่อ เดอะฟูลไคลน์กล่าวเสียงสงบนิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ