หลังจากกลับมายังบ้านของไบลส์ โดยไม่รอให้รอยและคนที่เหลือถามสิ่งใด ไคลน์ดึงเก้าอี้ออกมานั่งพร้อมกับขอพรตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ข้าปรารถนาให้พลังวิญญาณได้รับการฟื้นฟู”
ทันทีที่สิ้นเสียง ชายหนุ่มยกมือขวาดีดนิ้วเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของตัวเอง ทันใดนั้น พลังวิญญาณของมันฟื้นฟูกลับมาเป็นปรกติ
ทันทีหลังจากนั้น ไคลน์เหยียดฝ่ามือข้างซ้ายออก เตรียมยุติภาพฉายของ ‘ม่าน’ และอัญเชิญผืนใหม่ออกมาปิดกั้นโลกวิญญาณรอบเมืองเบลดันต่อไป เพื่อป้องกันมิให้ลาร์เรี่ยน ราชาคณะของโบสถ์เทพสงครามหลบหนี
“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น พลาดครั้งนี้ก็ยังมีครั้งถัดไป” อาเรียนน่าส่ายศีรษะ เป็นนัยว่าไคลน์ไม่จำเป็นต้องอัญเชิญภาพฉายของม่านที่มีต้นกำเนิดมาจากหมาป่าอสูรมทิฬอีกแล้ว
ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของพลังความปรารถนาก็คือ ผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาเดิมจากผู้ขอพรคนเดิมได้ติดๆ กัน นั่นจึงหมายความว่า ไคลน์ต้องรออีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองชั่วโมงกว่าจะขอพรเติมพลังวิญญาณได้ใหม่
แน่นอน สำหรับเทวทูตเส้นทางนักทำนายที่มากประสบการณ์ ข้อจำกัดดังกล่าวยังพอจะมีวิธีหลบเลี่ยง ยกตัวอย่างเช่น มันสามารถบอกให้พาชา รอย ไบลส์ และอาเรียนน่าผลัดกันขอพรให้พลังวิญญาณของไคลน์·โมเร็ตติถูกฟื้นฟู จากนั้นผู้ชี้นำปาฏิหาริย์ก็จะเติมเต็มความปรารถนาดังกล่าว
แต่ปัญหาคือ แม้ว่าชายหนุ่มจะฟื้นฟูพลังวิญญาณได้หลายครั้ง แต่ทั้งหมดนั่นก็ไม่ช่วยให้คงสภาพ ‘ม่าน’ ซึ่งทัดเทียมลำดับ 1 ได้ต่อเนื่องนานถึงหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าอย่างไรม่านก็จะสลายไปก่อนที่ 0-02 จะล้างกฎและเขียนใหม่
ไตร่ตรองสักพัก ไคลน์พยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มตอบ
“ลองดูก่อนก็คงไม่เสียหาย เพราะไม่ว่ายังไงตอนนี้พวกเราก็ว่างอยู่ ผมจะยอมแพ้ก่อนการขอพรเติมพลังวิญญาณครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโชคของราชาคณะด้วย… บางทีในระหว่างนี้ เขาอาจคลุ้มคลั่งเพราะความวิตกกังวล หงุดหงิด และเครียดก็ได้ ใครจะไปรู้”
ขณะกล่าว ไคลน์ยกเลิกม่านผืนเก่าและเหยียดมือซ้ายไปด้านหน้า จากนั้นก็ลากม่านผืนใหม่ออกมาและส่งมันไปปกคลุมโลกวิญญาณรอบเมืองเบลดัน
ท่ามกลางสีสันฉูดฉาดที่ซ้อนทับ ลาร์เรี่ยนซึ่งแต่งกายในชุดคลุมสีดำขอบขาวและหมวกทรงสี่เหลี่ยม สัมผัสได้ว่าข้อจำกัดโดยรอบเลือนหายไป แต่เมื่อมันเตรียมหลบหนี ม่านผืนใหม่กลับถูกโปรยลงมาอีกครั้งและตัดขาดบริเวณโดยรอบออกจากโลกภายนอก
รอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้ามันพลันแข็งทื่อ
ฟู่ว… ไม่กี่วินาทีถัดมา ลาร์เรี่ยนถอนหายใจเชื่องช้าพร้อมกับควบคุมสติ รอคอยอย่างสงบต่อไป
หลายสิบนาทีถัดมา ราชาคณะแห่งโบสถ์เทพสงครามต้องเผชิญกับความคับแค้นใจหลายครั้ง โดยทุกครั้งความหวังจะปรากฏขึ้นตรงหน้าแต่สุดท้ายก็เลือนหายไป
มันพยายามค้นหาหลักการ ค้นหาช่วงเวลาที่แน่นอน เพื่อรอคว้าโอกาสเพียงเสี้ยววินาทีขณะม่านผืนเก่าหายไปและม่านใหม่ยังไม่ปรากฏ
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดมันก็พบว่าความห่างในแต่ละครั้งล้วนไม่มีกฎตายตัว บุคคลที่กีดขวางการหลบหนีของตนไม่ได้สลายม่านในตอนที่พลังวิญญาณใกล้หมดเสมอไป บ้างก็ลงมือก่อนเป็นเวลานาน
หากไม่ใช่เพราะชาวฟุซัคไม่ได้ถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนา และข่าวคราวการทรยศของลาร์เรี่ยนยังไม่แพร่กระจายออกไป เทวทูตแห่งเส้นทางคนยักษ์คงไม่มีทางคงสติมาได้นานขนาดนี้ อาจต้องกลายเป็นคลุ้มคลั่งอยู่ภายในโลกวิญญาณ
ผ่านไปอีกสักพัก ลาร์เรี่ยนสัมผัสถึงการสลายตัวของม่านผืนเก่า
แต่คราวนี้ไม่มีม่านผืนใหม่ถูกสร้างขึ้น
เจ้านั่นถึงขีดจำกัดแล้วสินะ… ลาร์เรี่ยนโล่งใจเป็นอย่างมาก มันไม่ลังเลอีกต่อไป รีบย้ายตัวเองออกจากอาณาจักรแห่งเทพเทียมที่เลือนหายไป
ในวินาทีถัดมา มันเห็นสตรีไร้หัวที่แต่งกายในเดรสสีเข้ม กำลังถือสี่หัวทองตาแดงไว้ในมือสองข้าง เห็นสิ่งมีชีวิตนิรนามที่ทั่วร่างพันด้วยผ้าพันแผลและมีของเหลวสีน้ำตาลอมเหลืองไหลออกมาจากทุกจุด เห็นสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังและแปลกประหลาดอีกมากมาย
ม่านที่ไคลน์อัญเชิญออกมาหลายครั้งล้วนเป็นภาพฉายทางประวัติศาสตร์ที่มีออร่าของปราสาทต้นกำเนิดปะปนอยู่ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะดึงดูดสิ่งมีชีวิตซึ่งที่อ่อนไหวต่อปราสาทต้นกำเนิด หรือต่อให้ในกลุ่มนี้มีอามุนด์ร่วมอยู่ด้วยก็คงไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด!
รอยยิ้มเล็กๆ ของลาร์เรี่ยนพลันแข็งทื่ออีกครั้ง
…
เมืองเบลดัน ภายในห้องเช่าของไบลส์
ไคลน์แหงนหน้าขึ้นมองฟ้าก่อนจะพึมพำ
“น่าทึ่งมาก…”.ไอลีนโนเวล.
มันกลับไปเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งกระจกวิเศษฉายแสงวารีเพื่อเผยให้เห็นสถานะปัจจุบันของกระดานข่าวสาร
กฎและส่วนขยายบนกระดาษ ทยอยเลือนไปตามลำดับการปรากฏ เรียงจากหลังไปหน้า
หมายความว่า 0-02 เริ่มลบกฎที่มันเขียนขึ้นและเตรียมจะเริ่มต้นใหม่
ทันทีที่เคอร์ฟิวถูกยกเลิก ไคลน์ซึ่งกำลังจดจ่อมาสักพัก รีบใช้พลังกระโจนเพลิงเพื่อพามาดามอาเรียนน่าไปโผล่ที่ด้านนอกห้องสมุดเทศบาลซึ่งถูกย่อส่วน
ชายหนุ่มเพ่งมองและพบว่ากฎต่างๆ บนหน้าทองเหลืองกำลังถูกลบด้วยความเร็วสูง เพียงพริบตาก็เหลือเพียงประโยค ‘กฎหมายทั้งหมดหลังจากส่วนนี้ถือเป็นโมฆะ’ อยู่กึ่งกลางเล่มหนังสือ
ทันทีหลังจากนั้น ประโยคดังกล่าวเลือนหายไป กฎใหม่ถูกเขียนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีช่องว่าง
“หนังสือทองเหลืองทรันซอสต์เป็นสิ่งที่ค้ำค่าที่สุด ไม่มีสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุชิ้นใดแตะต้องมันได้…”
ยังไม่ทันที่กฎดังกล่าวจะเขียนเสร็จ อาเรียนน่าหายตัวไปโผล่ด้านข้างโต๊ะสี่เหลี่ยม จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วสัมผัสลงบนหน้าหนังสือที่ทำจากทองเหลือง
ปึด! คอของผู้นำนักบวชรัตติกาลพลันถูกรัดแน่นด้วยสิ่งที่คล้ายกับเชือกล่องหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ