ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1291

เหนือหมอกสีเทา ภายในวังโบราณ ร่างของไคลน์ปรากฏขึ้น

แต่ในเวลาเดียวกัน อีกร่างหนึ่งก็กำลังนั่งบนเก้าอี้เดอะฟูล รายล้อมด้วยหมอกสีเทา

เมื่อไคลน์กลับมายังปราสาทต้นกำเนิด ร่างดังกล่าวพลันสลายตัวกลายเป็นหนอนวิญญาณโปร่งใสและบิดเบี้ยว ลอยกลับมาหาร่างต้นไคลน์และผสานเป็นหนึ่งเดียว

โชคดีที่ข้อห้ามของ 0-02 มีแค่การ ‘ห้ามออกจากเบลดัน’ และ ‘ห้ามแพร่งพรายความลับ’ ไม่ได้ตัดการเชื่อมต่อกับโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้น หากเราขาดการเชื่อมต่อกับหนอนวิญญาณที่คอยปกป้องปราสาทต้นกำเนิด หมอนี่จะคลุ้มคลั่งและกลายเป็นสัตว์ประหลาด… ไคลน์รำพันด้วยอารมณ์เข้มข้น เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตำแหน่งเดอะฟูลและหยิบไพ่เย้ยเทพที่เพิ่งสังเวยขึ้นมา

เนื่องจากไพ่เย้ยเทพใบนี้ถูกเปิดใช้งานแล้ว ไคลน์จึงไม่จำเป็นต้องหาคาถามาปลดผนึก ชายหนุ่มสามารถมองเห็นรายละเอียดบนไพ่ได้ทันทีขอเพียงถ่ายพลังวิญญาณเข้าไป

ไพ่เดอะฟูลกลายเป็นหนังสือมายาเล่มเล็กในพริบตา และตามเจตจำนงของไคลน์ มันพลิกรวดเดียวไปจนถึงสองหน้าสุดท้าย

“ลำดับ 1: บริวารเร้นลับ”

“นี่คือเทวทูตผู้คอยรับใช้ความเร้นลับ สามารถถือครองอำนาจในขอบเขตที่เกี่ยวข้องกันได้เบื้องต้น สามารถปลุกด้ายวิญญาณขึ้นมาจากวัตถุ และสามารถผสานสิ่งของทางกายภาพหรือแนวคิดเชิงนามธรรมเข้าด้วยกัน…”

“สูตรโอสถ:”

“วัตถุดิบหลัก: ตะกอนพลังบริวารเร้นลับหนึ่งก้อน”

“วัตถุดิบเสริม: วัตถุท้องถิ่นของโลกวิญญาณเก้าชนิด”

“พิธีกรรมเลื่อนลำดับ: สร้างเมืองที่มีประชากรเป็นหุ่นเชิดล้วน และออกแบบชะตากรรมกับเส้นทางชีวิตให้หุ่นเชิดทุกตัว คอยกำกับควบคุมให้พวกมันโต้ตอบกันเองเพื่อสร้างภาพของสังคมที่สมจริง จนกระทั่งถือกำเนิดพื้นที่บนโลกวิญญาณในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกัน”

“ยิ่งเมืองมีขนาดใหญ่ ยิ่งมีจำนวนหุ่นเชิดมาก ยิ่งมีชีวิตประจำวันที่ละเอียดอ่อน ยิ่งมีโชคชะตาที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์ของพิธีกรรมจะยิ่งยอดเยี่ยม”

“ลำดับ 0: เดอะฟูล”

“นี่คือเทพแท้จริง ในแง่หนึ่ง พระองค์เป็นร่างอวตารของอำนาจในขอบเขตที่สอดคล้องกัน… พระองค์เก่งกาจด้านการปั่นหัวผู้คนด้วยวิธีการอันหลากหลาย และสร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์ได้ทุกประเภท…”

“สูตรโอสถ:”

“วัตถุดิบหลัก: เอกลักษณ์ของเดอะฟูล, ตะกอนพลังบริวารเร้นลับอีกสองก้อนนอกเหนือจากของตัวเอง”

“วัตถุดิบเสริม: ควบคุมสายหมอกแห่งประวัติศาสตร์ให้ได้อย่างน้อยหนึ่งในสี่”

“พิธีกรรมเลื่อนลำดับ: ปั่นหัวประวัติศาสตร์ กระแสแห่งเวลา หรือชะตากรรมหนึ่งครั้ง”

หลังจากอ่านจบ ไคลน์ค่อยๆ ขมวดคิ้วพลางพึมพำกับตัวเอง

เมื่อเทียบกับพิธีกรรมเลื่อนลำดับของบริวารเร้นลับ พิธีกรรมของเดอะฟูลฟังดูเป็นนามธรรมเกินไป… การปั่นหัวประวัติศาสตร์ กระแสเวลา หรือชะตากรรมคืออะไร? พิจารณายังไงว่าสำเร็จ?

การควบคุมสายหมอกแห่งประวัติศาสตร์ราวหนึ่งในสี่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรา… แง่หนึ่ง เรามีความลับโบราณมากพอที่จะทำให้ชิ้นส่วนทางประวัติศาสตร์จำนวนมากสว่างไสว ในอีกแง่หนึ่ง เราสามารถใช้ปราสาทต้นกำเนิดเพื่อสร้างอิทธิพลกับสายหมอกแห่งประวัติศาสตร์ได้โดยตรง…

คงต้องพับเก็บคำถามเกี่ยวกับเดอะฟูลไปก่อน ตอนนี้ควรเพ่งความสนใจไปยังบริวารเร้นลับ คนเราต้องเดินไปทีละก้าว แต่ก็มีพวกวาสนาดีบางคนสามารถบินไปได้ทันที…

การค้นหาวัตถุท้องถิ่นของโลกวิญญาณเก้าชนิดไม่ใช่เรื่องยาก จะฝากให้มิสผู้ส่งสารช่วยหรือถามเอาจากเจ็ดแสงพิสุทธิ์ก็ได้ทั้งนั้น… พิธีกรรมเลื่อนลำดับมีลักษณะคล้ายคลึงกับสถานการณ์รอบตัวบรรพบุรุษของซาราธและอันทีโกนัส แถมยังสอดคล้องกับพูดของเจ็ดแสงพิสุทธิ์ที่ระบุว่าเราต้องเชื่อมโยงกับโลกวิญญาณอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ยืนยันได้แล้วว่าพวกเขาพูดจริง…

คิดถึงตรงนี้ ไคลน์ถอดจี้บุษราคัมออกจากข้อมือซ้าย ใช้พลังทำนายเพื่อยืนยันความถูกต้องของสูตรโอสถบริวารเร้นลับ

ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มไม่เชื่อใจจักรพรรดิโรซายล์ แต่ก่อนที่จะสร้างไพ่เย้ยเทพ เพื่อนข้างห้องรายนี้อาจได้รับอิทธิพลบางอย่างจากมิสเตอร์ประตู หรือไม่ก็เป็นผลพวงจากการสำรวจดวงจันทร์และถูกมารดาเทพธิดาแห่งความเสื่อมทรามกัดกร่อนจนความทรงจำบิดเบือน

ด้วยเหตุผลข้างต้น จึงมีความเป็นไปได้ที่โรซายล์จะแอบวางกับดักไว้ในไพ่เย้ยเทพบางใบ

สำหรับเรื่องทำนองนี้ ไคลน์ไม่เคยประมาท

เมื่อกล่าวถึงตัวจริงของดวงจันทร์บรรพกาล วันวานที่ทรงพลังที่สุด พิจารณาจากหนึ่งในตัวตนของพระองค์ มีโอกาสสูงมากที่จักรพรรดิจะถูกกัดกร่อนโดยไม่รู้ตัว… บนดวงจันทร์อาจมีพี่น้องแบร์นาแดตที่พลัดพรากอาศัยอยู่ก็เป็นได้ แน่นอนว่าแนวคิดเรื่องการจำแนกเพศคงไม่จำเป็น…

หุ่นเชิดที่จำเป็นสำหรับพิธีกรรมของบริวารเร้นลับ เราสามารถหาได้จากดินแดนเทพทอดทิ้ง ที่นั่นมีสัตว์ประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งถือเป็นข้อดีเพียงไม่กี่เรื่อง นอกจากนั้น เรายังทยอยสั่งสมไว้บางส่วนแล้วด้วย… ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์หันไปมองอีกฟากหนึ่งของวังโบราณ เสกให้หมอกสีเทาด้านข้าง ‘กองขยะ’ เลือนหายไป

เมื่อหมอกจางลง แถวเก้าอี้สีน้ำตาลอมเหลืองปรากฏขึ้น บนเก้าอี้แต่ละตัวมีร่างหนึ่งนั่งอยู่

ร่างเหล่านี้มีทั้งคนยักษ์หุ้มเกราะเงิน มนุษย์ใบหน้าพิการที่แต่งกายในชุดลินิน และก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่มีดวงตา… พวกมันนั่งนิ่งบนแถวเก้าอี้ ดวงตาหันมาทางโต๊ะทองแดงยาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ทั้งหมดนี้คือหุ่นเชิดที่ไคลน์รวบรวมมาจากดินแดนเทพทอดทิ้ง ทุกครั้งที่ไคลน์ต้องย้ายตำแหน่ง เป็นเรื่องยากลำบากที่จะพกพาหุ่นเชิดจำนวนมากติดตัว ชายหนุ่มจึงสังเวยขึ้นมาบนมิติเหนือสายหมอก

แน่นอนว่าไคลน์ไม่ได้มีนิสัยชอบสะสมขยะ แต่การได้เห็นหมู่บ้านสายหมอกและฉากที่ซาราธเคยแสดง ทำให้ชายหนุ่มเชื่อโดยสัญชาตญาณว่า คงต้องมีสักพิธีกรรมที่ใช้หุ่นเชิดเป็นจำนวนมาก มันจึงเตรียมการไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ